เปิดโผ 10 รายใหญ่ถือหุ้น ALL อดีตดาวรุ่งอสังหาฯสู่ดาวดับ

04 ม.ค. 2566 | 06:20 น.

10 รายใหญ่ถือหุ้น ALL บนกระแส ดรามาชักดาบหุ้นกู้ จากบริษัทดาวรุ่งพุ่งแรงดันยอดขาย 4 ปีติดชาร์ท ก่อนร่วงดาวดับผิดนัดชำระหุ้นกู้ 3 รอบ

กรณี "ออลล์อินสไปร์"หรือ ALL ประสบปัญหาการผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ จากการขาดสภาพคล่อง เป็นรอบที่ 3 และยังไม่เห็นแนวโน้มการฟื้นตัวกลับมาชัดเจน กำลังส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้ถือหุ้น ALL 

 

หากเจาะลงไปดูการเติบโตของ ALL ต้องส่องไปที่ นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่เริ่มธุรกิจบนเส้นทางที่เติบโตมาจากการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บนธุรกิจรีเทลทั้ง ซีพีออลล์ สตาร์บัคส์ โดยดูแลในเรื่องการขยายสาขา ก่อนนำเอาความรู้ในส่วนนี้พัฒนามาเป็นนักลงทุนคอนโดมิเนียม แบบซื้อมาขายไป และปล่อยเช่า ก่อนที่จะมาจัดตั้งบริษัท เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของตัวเอง ภายใต้ชื่อ “ออลล์ อินสไปร์” หรือ ALL 

 

จากนั้นได้ดำเนินการจดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2558 เพื่อระดมเงินทุนสำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ 

 

ในอดีต ALL ถือเป็นหุ้นอสังหาริมทรัพย์ดาวรุ่ง หลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ ราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปสูงสุดอยู่ที่  4.94 บาทต่อหุ้น เมื่อ 22 ก.ค. 2562

 

กระทั่งกลางปี 2565 บริษัท 'ออลล์ อินสไปร์' ผู้พัฒนา คอนโดฯแบรนด์ดัง Impression , Rise และ Excel ปรากฎเป็นข่าวโดดดัง เมื่อมีลูกค้าซื้อคอนโดมิเนียมหลายโครงการ ร้องผ่านสื่อโซเซียลมีเดีย ว่า จ่ายวางเงินดาวน์ - ผ่อนจ่ายแล้ว แต่โครงการบางแห่งการก่อสร้างกลับไม่มีความคืบหน้า

 

ขณะเดียวกันยังมีความเคลื่อนไหว บางโครงการของ 'ออลล์ อินสไปร์' ถูกเทกโอเวอร์ขายต่อไป คาดบริษัทกำลังประสบปัญหาในด้านการเงินอย่างหนัก

 

ณ 31 ธันวาคม 2564 หรือปีงบ 2564 ALL มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 7,899.12 ล้านบาท ส่วนหนี้สินรวม 5,891.03 ล้านบาท และขาดทุน 347.20 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 584.30 ล้านบาท 

 

ส่วนผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 2565 มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่  7,676.47 ล้านบาท หนี้สินรวม 5,765.59 ล้านบาท

 

ขณะที่ราคาหุ้น ALL ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 ร่วงลงมาอยู่ที่ 0.36 บาท ล่าสุด วันที่ 4 มกราคม 2566 ณ เวลา 14.41 น. ราคาอยู่ที่ 0.29 บาท 

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าราคาหุ้น ALL ที่ร่วงลงกระทบต่อผู้ถือหุ้น ทั้งผู้ถือหุ้นใหญ่ และอีก 3,134 รายคิดเป็นสัดส่วน 33.36%

 

ปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่  10 ใน ALL ประกอบไปด้วย

1 นาย ธนากร ธนวริทธิ์ 450,557,020 หุ้น คิดเป็น 31.17%

2 น.ส. อัยลดา ชินวัฒน์  200,000,000 หุ้น คิดเป็น 13.84%

3 น.ส. ชวนา ธนวริทธิ์  154,600,000 หุ้น คิดเป็น 10.70%

4 นาย พงศา ไพรัชเวทย์ 62,500,000  หุ้น คิดเป็น 4.32%

5 นาง จันทิรา ลือสกุล  51,000,220  หุ้น คิดเป็น 3.53%

6 นาย ทรงศักดิ์ ศักดิ์เรืองงาม  18,450,500หุ้น คิดเป็น 1.28%

7 นาย ฐากร ภัทรปริยธร  17,757,800 หุ้น คิดเป็น 1.23%

8 นาย ณัชชัชพงศ์ พีระเดชาพันธ์ 17,500,000 หุ้น คิดเป็น 1.21%

9 นาย สัญญา หาญพัฒนกิจพานิช  16,719,100 หุ้น คิดเป็น  1.16%

10 นาย เกียรติ ศรีจอมขวัญ  12,452,660 หุ้น คิดเป็น  0.86%

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์แห่งหนึ่ง มองการผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ของ บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (ALL) จากการขาดสภาพคล่อง คาดว่าจะเป็นผลมาจากธุรกิจยังคงมีผลขาดทุนต่อเนื่อง และยังไม่เห็นแนวโน้มการฟื้นตัวกลับมาชัดเจน แม้ว่าบริษัทจะมีการประกาศแผนปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่เพิ่มเข้ามาในปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่เห็นความชัดเจนของธุรกิจใหม่ที่จะเริ่มดำเนินการ

 

ขณะที่ธุรกิจธุรกิจหลักของบริษัท คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายนั้นในปี 65 ไม่มีโครงการใหม่ที่โอนเข้ามาสร้างรายได้ให้กับบริษัท โดยเฉพาะในช่วงปลายปี จากเดิมจะมีการโอนโครงการ The Excel รัชดา 18 แต่การก่อสร้างล่าช้า ทำให้เลื่อนออกไปเป็นปี 66 ปีก่อนจึงมีเพียงการขายโครงการเดิมในสต็อกเท่านั้น ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในปี 65 คาดว่าจะยังเห็นผลขาดทุนต่อเนื่อง และยอดโอนทำได้ไม่มาก และปัจจุบันเหลือสต็อกโครงการที่เหลือขายไม่มาก

 

ส่วนในปีนี้ยังต้องติดตามว่าโครงการใหม่ที่จะโอนเข้ามาจะสามารถสร้างรายได้เข้ามาให้กับบริษัทได้เป็นอย่างไร ซึ่งจะมีคอนโดมิเนียมใหม่ที่จะโอนในปีนี้ 2 โครงการ และจะมีการเปิดขายโครงการแนวราบใหม่อีก 1 โครงการ

 

สำหรับราคาหุ้น ALL ช่วงที่ผ่านมาสะท้อนปัจจัยลบการดำเนินงานยังไม่ฟื้นตัวกลับมาอย่างชัดเจน และรอพัฒนาการใหม่ๆที่มาจากธุรกิจใหม่ของบริษัท และปัจจัยจากการผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้อาจจะกระทบต่อความเชื่อมั่นบริษัท ดังนั้น ปรับคำแนะนำเป็น "ขาย" จากเดิมแนะ"ถือ" รอความชัดเจนของการเดินหน้าธุรกิจเพื่อสร้างการฟื้นตัวกลับมาชัดเจนอีกครั้ง