สมณศักดิ์ของพระสงฆ์ในประเทศไทย

10 ส.ค. 2568 | 22:05 น.

สมณศักดิ์ของพระสงฆ์ในประเทศไทย คอลัมน์ เมียงมอง เมียนมา โดย กริช อึ้งวิฑูรสถิตย์

KEY

POINTS

  • สมณศักดิ์คือยศและตำแหน่งพระสงฆ์ที่พระมหากษัตริย์พระราชทานแก่พระสงฆ์ ผู้มีคุณูปการต่อศาสนาและชาติ มีลำดับชั้นและราชทินนามที่ต่างกันไป เพื่อเป็นเครื่องเชิดชูเกียรติและกำหนดบทบาทหน้าที่ในการปกครองคณะสงฆ์
  • ลำดับสูงสุดคือสมเด็จพระสังฆราช รองลงมาสมเด็จพระราชาคณะ ชั้นสุพรรณบัฏ และชั้นหิรัญบัฏ จากนั้นคือเจ้าคุณชั้นธรรม เทพ ราช และสามัญ
  • ต่ำกว่าพระราชาคณะคือชั้นพระครู แบ่งเป็นหลายระดับ เช่น ชั้นพิเศษ ชั้นเอก ชั้นโท ชั้นตรี แม้ต่างนิกายยังอยู่ใต้การปกครองคณะสงฆ์เดียวกัน

สมณศักดิ์ของพระสงฆ์ในประเทศไทย คอลัมน์ เมียงมอง เมียนมา โดย กริช อึ้งวิฑูรสถิตย์

 

เมื่อสามอาทิตย์ก่อน ผมได้เขียนเรื่องของลำดับชั้นของบาทหลวงหรือนักบวชในคริสตศาสนา พอลงตีพิมพ์ก็มีเพื่อนๆ หลายท่านสอบถามผมมาว่า “คุณกริช เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” ผมคิดว่าเพื่อนคงแปลกใจว่า ทำไมผมจึงนำเอาเรื่องของคริสตจักรมาเขียน? มีอยู่ท่านหนึ่งพอเจอกันท่านก็บอกผมว่า “คุณทำไมไม่เอาเรื่องของลำดับชั้นของพระสงฆ์ไทยมาเขียนบ้างละ? เชื่อว่าคงมีคนสนใจและยังไม่เข้าใจเยอะ”

อันที่จริงหากเป็นแฟนคลับของคอลัมน์ที่ผมเขียนอยู่นี้ ผมจะไม่เขียนเรื่องของการเมืองและศาสนาเลย เพราะผมเกรงว่า ถ้าหากผมเขียนผิดหรือไปล่วงล้ำกล้ำเกิน ก็อาจจะเกิดการถกเถียงกันขึ้นมา ก็จะไม่เป็นการดีต่อตัวผมเอง แต่ไหนๆ ก็เขียนเรื่องของคริสตจักรไปแล้ว ก็ขออนุญาตต่อเรื่องของพระสงฆ์องค์เจ้าอีกนิดก็แล้วกันนะครับ ถ้าหากมีอะไรที่ก้าวล่วงไป ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ก่อนเลยครับ

ในประเทศไทยเรา ลำดับชั้นของพระสงฆ์ในพุทธศาสนา อาจจะไม่เหมือนกับประเทศอื่นๆทั่วโลก ในประเทศไทยเรามีระบบ “สมณศักดิ์” ซึ่งเป็นตำแหน่งและยศที่พระมหากษัตริย์ทรงพระราชทานแก่พระสงฆ์ ที่ได้บำเพ็ญคุณงามความดี มีความรู้ ความสามารถ หรือทำคุณประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาและประเทศชาติ สมณศักดิ์เหล่านี้มีลำดับชั้นและราชทินนามที่แตกต่างกันออกไป เพื่อเป็นเครื่องเชิดชูเกียรติและกำหนดบทบาทหน้าที่ในการปกครองคณะสงฆ์ครับ

ลำดับสมณศักดิ์ของพระสงฆ์ไทยโดยย่อที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้ สามารถเรียงได้จากสูงสุดลงมาดังนี้ครับ เริ่มจาก สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประมุขสูงสุดของคณะสงฆ์ไทย มีเพียง 1 พระองค์ แต่ในกรณีที่เป็นพระราชวงศ์ จะเรียกว่า สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ต่อมาก็เป็น สมเด็จพระราชาคณะ ชั้นสุพรรณบัฏ เป็นสมณศักดิ์ชั้นสูงสุดรองจากสมเด็จพระสังฆราช มีจำนวนที่จำกัด (ปัจจุบันกำหนดไว้ 8 รูป) เช่น สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ สมเด็จพระวันรัต สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ สมเด็จพระมหามุนี เป็นต้น

รองลงมาก็เป็น พระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ หรือเรียกว่า “รองสมเด็จพระราชาคณะ” เป็นสมณศักดิ์ที่รองลงมาจากสมเด็จพระราชาคณะ หรือที่รองลงมาก็จะเป็น พระราชาคณะชั้นธรรม หรือเจ้าคุณชั้นธรรม ที่มีราชทินนามว่า “ธรรม” นำหน้านาม เช่น พระธรรมปิฏก, พระธรรมกิตติโสภณ เป็นต้น ในปัจจุบันนี้มีอยู่ทั้งหมด  50 รูป ต่อจากเจ้าคุณชั้นธรรมก็จะเป็น  พระราชาคณะชั้นเทพ มีราชทินนามว่า “เทพ” นำหน้านาม เช่น พระเทพวิสุทธิโสภณ, พระเทพพุทธิมุนี เป็นต้น ในปัจจุบันนี้มีอยู่ทั้งหมด 100 รูป ชั้นรองลงมาก็จะเป็น พระราชาคณะชั้นราช มีราชทินนามว่า "ราช" นำหน้านาม เช่น พระราชวิสุทธิเมธี พระราชธรรมเมธี พระราชสุทธิมงคล เป็นต้นครับ 

ต่อจากพระราชาคณะที่เป็นเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏ ก็จะเป็น รองจากพระราชาคณะชั้นสามัญ เป็นสมณศักดิ์ในระดับพระราชาคณะที่แบ่งย่อยออกเป็นหลายฝ่าย เช่น พระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ (สำหรับพระที่สอบได้เปรียญธรรมสูงๆ) พระราชาคณะชั้นสามัญ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ พระราชาคณะชั้นสามัญยก (แต่งตั้งเป็นกรณีพิเศษ)

ต่อจากพระราชาคณะที่เป็นเจ้าคณะรองทั้งสองชั้นที่กล่าวไปแล้ว ก็จะเป็นชั้น “พระครู” ซึ่งเป็นสมณศักดิ์ที่ได้รับพระราชทานสัญญาบัตร ที่เราจะเห็นมีเกือบทุกภูมิภาคของประเทศไทยเรา ทำให้ชาวบ้านทั่วๆ ไปจะได้พบเจอกันมาก ซึ่งก็แบ่งออกเป็นหลายชั้นย่อย เช่น พระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ พระครูสัญญาบัตรชั้นเอก พระครูสัญญาบัตรชั้นโท พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี พระครูปลัด พระครูธรรมธร พระครูวินัยธร เอาแค่นี้ก็น่าจะเพียงพอในการทำความเข้าใจแล้วนะครับ ส่วนที่เหลือคงไม่ต้องสาธยายต่อนะครับ

ถ้าเราจะสรุปแบบง่ายๆ ก็ให้เราลองนึกภาพดู ก็เหมือนกับบริษัทที่มีการแบ่งตำแหน่งงาน หรือหน่วยงานราชการต่างๆที่มีหลาย “กรม” หรือ “กระทรวง” แต่ทั้งหมดก็อยู่ภายใต้ “นายกรัฐมนตรี” หรือ “ประมุขของประเทศ” ก็เปรียบเสมือนสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งเป็นพระประมุขของพุทธศาสนาของไทย และมีลำดับขั้นของตำแหน่ง (สมณศักดิ์) ของพระสงฆ์ ในส่วนของราชการที่ใช้ร่วมกันในทุกกรม ทุกกระทรวงนั่นเองครับ

ถึงแม้ว่าศาสนาพุทธในโลกนี้จะมีหลายนิกาย ซึ่งมีทั้งนิกายมหายาน นิกายวัชรยาน นิกายหินยานหรือนิกายเถรวาท (ที่ประเทศไทยเรานับถือกันอยู่) เป็นสามนิกายหลัก ก็จะคล้ายๆ กับศาสนาคริสต์ของคริสตจักร ก็มีหลายนิกายอย่างตามที่เล่ามาแล้วเมื่อสามอาทิตย์ก่อน ของศาสนาคริสต์เขามีนิกายหลักๆ สามนิกายได้แก่ นิกายโรมันคาทอลิก นิกายโปรเตสแตนต์ และนิกายออร์โธดอกซ์ ซึ่งเราคงไม่ต้องนำมาเล่าใหม่นะครับ

อย่างไรก็ตามแม้ว่าประเทศไทยเราเองจะมีพระสงฆ์ที่สังกัดเป็นสายธรรมยุติกนิกาย และสายมหานิกาย แต่พุทธศาสนาของเราไม่ได้แตกแยกกัน ทั้งสองสายก็ยังสามารถได้รับสมณศักดิ์สูงถึงสมเด็จพระราชาคณะได้ทั้งสิ้น อีกทั้งทุกรูปในทั้งสองสาย ก็อยู่ภายใต้การปกครองขององค์คณะสงฆ์เดียวกันครับ