KEY
POINTS
ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา จีนได้พัฒนาเทคโนโลยีรถไฟที่แตกไลน์ออกไปในหลายหลายรูปแบบและประเภท อาทิ รถไฟใต้ดิน รถไฟไร้ราง รถไฟความเร็วสูง รถไฟแม่เหล็กไฟฟ้า และ รถไฟกลับหัว รวมทั้งยังเดินหน้าจัดกิจกรรมพิเศษระหว่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์การเป็นผู้นำในวงการรถไฟความเร็วสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประชุมรถไฟความเร็วสูงโลก (World High Speed Rail Congress)
โดยระหว่างวันที่ 8-10 กรกฎาคม 2025 จีนได้จัดการประชุมรถไฟความเร็วสูงโลกครั้งที่ 12 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติจีน ใจกลางกรุงปักกิ่ง การประชุมนี้ถือเป็นเวทีสำคัญสำหรับการนำเสนอนวัตกรรม ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ และหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงที่กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ การประชุมรถไฟความเร็วสูงโลก จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อปี 1992 และจัดขึ้นทุก 2-3 ปีนับแต่นั้นมา โดยการจัดประชุมในปีนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่จีนเป็นเจ้าภาพ หลังจากจัดงานนี้ครั้งแรกเมื่อปี 2010 โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง China State Railway Group (กลุ่มการรถไฟแห่งชาติจีน) และ สหภาพรถไฟนานาชาติ (International Union of Railways)
สถิติระบุว่า งานในปีนี้มีผู้คนในวงการมากกว่า 2,000 คนจากกว่า 60 ประเทศเข้าร่วมงาน และมีเนื้องานจำแนกเป็นการประชุมหลัก การประชุมโต๊ะกลม และการแลกเปลี่ยนทางเทคนิคเพื่อแชร์ข้อมูลความคิดเห็น คู่ขนานไปกับงานนิทรรศการนานาชาติ “Modern Railway Technology and Equipment Exhibition” ครั้งที่ 17 ที่เปิดให้ผู้คนเข้าเยี่ยมชมแบบจำลองรถไฟความเร็วสูงอย่างใกล้ชิด
ข้อมูลจากการประชุมระบุว่า ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา จีนได้พัฒนาเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงอย่างรวดเร็ว และต่อเนื่องจนสามารถสร้างระบบรถไฟความเร็วสูงที่ใหญ่ที่สุด และ ทันสมัยที่สุดในโลก
ย้อนกลับไปในปี 2003 จีนได้เริ่มกำหนดแผนการพัฒนารถไฟความเร็วสูงขึ้น และราว 5 ปีต่อมา จีนก็เปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงระหว่างปักกิ่ง-เทียนจิน เป็นสายแรก ซึ่งเสริมสร้างภาพลักษณ์ประเทศต่อสายตาชาวโลก ในโอกาสที่ปักกิ่งเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2008
หลังจากนั้น จีนก็เดินหน้าขยายโครงข่ายรถไฟความเร็วสูง และพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องอย่างรวดเร็ว ในกลางปี 2011 จีนได้เปิดบริการในเส้นทางปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ ซึ่งช่วยให้การเดินทางระหว่างสองศูนย์กลางเศรษฐกิจหลักของจีน ใช้เวลาราว 4 ชั่วโมง และส่งผลให้จีนมีเส้นทางรวม 8,358 กิโลเมตร ยาวกว่าทุกประเทศรวมกันในขณะนั้น
รถไฟจีนให้บริการระหว่าง 250-350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และด้วยหัวรถจักรและชุดรถไฟที่ได้ระบการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อาทิ รุ่น CR400 “ฟู่ซิง” (Fuxing) ก็ทำให้สามารถให้บริการในบางเส้นทางด้วยระดับความเร็วที่สูงกว่า
ขณะที่บางเส้นทาง อาทิ ฮาร์บิน-ต้าเหลียน ก็เปิดให้บริการตลอดทั้งปีผ่านไปยังภูมิภาคที่มีอุณหภูมิต่ำแบบติดลบ 30-40 องศาเซลเซียส ในช่วงฤดูหนาว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและความแข็งแกร่งทางวิศวกรรมของระบบ
จนถึงสิ้นปี 2024 จีนมีโครงข่ายรถไฟความเร็วสูงเป็นระยะทางรวมถึง 48,000 กิโลเมตร คิดเป็นมากกว่า 70% ของระยะทางรวมทั่วโลก และครอบคลุม 97% ของเมืองที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คนในจีน ซึ่งช่วยเชื่อมโยงเมืองน้อยใหญ่ในจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พัฒนาการที่รวดเร็วดังกล่าว นำไปสู่คำชื่นชมในผลงานการพัฒนาเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงของจีน ทั้งในมิติความรวดเร็ว ความสะดวกสบาย ความซับซ้อนทางเทคโนโลยี และอื่นๆ
หมุดหมายสำคัญของระยะทางโครงข่ายรถไฟความเร็วสูงของจีน
ปี ความยาวรวม (กิโลเมตร)
2008 1,000
2011 8,500
2015 19,000
2020 38,000
2025 (คาดการณ์) 50,000
ทั้งนี้ ในปี 2024 รถไฟความเร็วสูงของจีนให้บริการขนส่งผู้โดยสารถึง 22,900 เที่ยว โดยจำแนกเป็นการให้บริการถึงวันละกว่า 8,600 EMU (ชุดรถไฟฟ้าหลายหน่วย ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องใช้หัวรถจักรแยกต่างหาก) และครอบคลุมบริการขนส่งผู้โดยสารถึง 8.8 ล้านคน-ครั้ง
นอกจากนี้ รถไฟความเร็วสูงยังเปิดให้บริการ “จัดส่งฉุกเฉิน” แบบประตูถึงประตู (Door-to-Door) ภายในวันเดียวที่ครอบคลุมถึงกว่า 180 เมือง และอาจสามารถจัดส่งพัสดุภัณฑ์ข้ามเมืองเป็นจำนวนมาก ในคราวเดียวโดยใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้น
ประการสำคัญ ผลตอบแทนการลงทุนในโครงการพัฒนารถไฟความเร็วสูงก็น่าสนใจยิ่ง โดยข้อมูลระบุว่า ทุก 100 ล้านหยวนของการลงทุนสามารถสร้างรายได้ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องถึงกว่า 1,000 ล้านหยวน และสร้างงานมากกว่า 600 ตำแหน่ง
จีนยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างไม่หยุดยั้ง โดยในรอบปีที่ผ่านมา จีนได้เปิดตัวและทดสอบรถไฟความเร็วสูงเจนใหม่ “CR450” ซึ่งสามารถวิ่งด้วยความเร็ว 450 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และกระแสข่าวระบุว่า จีนจะเริ่มเปิดให้บริการ CR450 แก่สาธารณชนในช่วงปลายปี 2025 ซึ่งเป็นเป้าหมายตามแผนพัฒนา 5 ปีฉบับที่ 14 โดยระยะแรกจะให้บริการด้วยความเร็ว 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
แต่จีนยังไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น แต่พื้นที่ของผมหมด เราต้องไปติดตามกันต่อในตอนหน้าครับ ...
คอลัมน์มังกรกระพือปีก โดย...ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4116