VGI-PLANB ของดีราคาถูก

12 ก.ค. 2565 | 22:30 น.

คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ by…เจ๊เมาธ์

*** แม้ว่าขาลงของบิทคอยน์จะเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2565 แต่หากใช้เดือนเมษายนเป็นจุดเริ่มต้น จะพบว่าจนถึงปัจจุบัน ราคาบิทคอยน์ปรับลงมาแล้วกว่า 30% ส่งผลให้ราคาหุ้นของ JTS ที่เคยปรับขึ้นไปถึงจุดสูงสุดในช่วงปลายเดือนเมษายนปรับร่วงตามลงมาด้วย จะต่างกันอยู่บ้างก็คือ ราคาบิทคอยน์ร่วงจากราคา 3 หมื่นดอลลาร์ ลงมา +-20,000 ดอลลาร์  หรือราว 30% ขณะที่ราคา JTS ร่วงมากถึง 80% 
 

อย่างไรก็ตามหากนับตั้งแต่ตอนที่ราคาหุ้นของ JTS อยู่ที่ 2-3 บาทซึ่งเป็นราคาก่อนการประกาศตัวว่าทำเหมืองขุดบิทคอยน์จนถึงระดับราคา 120 บาทในปัจจุบัน หรือราคาสูงสุดที่ 594 บาท ที่เคยทำได้ก่อนหน้านี้ก็ถือว่า JTS มาได้ไกลจนเหลือเชื่อ ดังนั้นหากจะมีนักลงทุนที่ยังเชื่อว่า ราคาหุ้น JTS จะเล่นบทอัศจรรย์...ดันราคากลับขึ้นไปสูงแบบเดิมได้ก็ไม่แปลก เพียงแต่อาจจะต้องรอดูว่าราคาบิทคอยน์จะกลับสูงขึ้นไปแบบเดิมได้หรือไม่ ซึ่งถ้าราคาบิทคอยน์ยังกลับไปเหมือนเดิมไม่ได้ ราคาหุ้นของ JTS ก็จะยังไม่ไปไหนเช่นกัน ไม่แน่...อาจจะถอยหลังลงไปหนักกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้เช่นกันค่ะ

*** เจ๊เมาธ์ ยังคงย้ำว่า หุ้น SABUY ดันราคาขึ้นมาถึงตอนนี้ได้ ถือว่าไกลมากแล้ว นี่ยังไม่นับรวมถึงตอนที่ราคาหุ้นสูงสุดที่ 38.00 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาหุ้นหน้ากระดานปัจจุบันถึงเท่าตัว อย่างหนึ่งเจ๊เมาธ์มองว่า ความจงใจสร้างสารพัดดีลทางธุรกิจออกมาเดือนละหลายสิบดีล มันมากจนทำให้งงไม่รู้ว่าดีลไหน ทำไปแล้ว...ดีลไหนไม่ได้ทำ หรือดีลไหนทำไม่ได้ และทั้งหมดล้วนเป็นสตอรี่ เพื่อดันราคาหุ้น  SABUY ที่ดูจงใจมากเกินไป 
 

ขณะเดียวกันจนถึงตอนนี้ แทบจะไม่มีอัพเดทให้เห็นเลยว่า แต่ละดีลที่ว่า คืบหน้าหรือสามารถทำรายได้อย่างไรแล้วบ้าง แน่นอนว่าอาจจะยังต้องรอดูว่าผลการดำเนินงาน 2/65 ว่าจะมีอะไรดีขึ้นมาแค่ไหน ถ้าดีขึ้นเจ๊เมาธ์ก็ต้องกลับทบทวนข้อมูลของเจ๊ใหม่ แต่ถ้าออกมาเท่าเดิมหรือแย่ลง บอกเลยว่างานนี้อาจจะได้เห็นเลขตัวเดียวเจ้าค่ะ

***  หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าอย่าง GULF GPSC และ BGRIM เริ่มกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งหลังจากที่ค่าไฟฟ้ากำลังจะเป็นขาขึ้นหลังจากที่มีข่าวว่าภาครัฐกำลังพิจารณาปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าแปรผัน (ค่าเอฟที) งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 65 ซึ่งอาจจะทำให้ค่าไฟฟ้าปรับขึ้นไปสูงถึง 5 บาท/หน่วย ขณะที่ต้นทุนการผลิตอย่างก๊าซธรรมชาติและถ่านหินต่างเริ่มปรับราคาลง ซึ่งหากจะพิจารณาหุ้นโรงไฟฟ้าทั้ง 3 เป็นรายตัวก็จะพบว่าทางด้านของ BGRIM และ GPSC มีแนวโน้มที่จะปรับราคาขึ้นได้สูงมากกว่า GULF ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่าที่ผ่านมาทั้ง BGRIM และ GPSC ต่างปรับราคาลงมามาก ขณะที่ราคาหุ้นทาง GULF แทบจะไม่มีความเปลี่ยนแปลงให้เห็น 


แต่หากมองไปที่ GPSC และ BGRIM ในส่วนของเจ๊เมาธ์ยังให้น้ำหนักไปทาง GPSC  มากกว่าอยู่บ้าง เพราะถึงแม้ว่าทั้งสองราคาจะร่วงลงมาหนักมากแล้วเหมือนกัน แต่ดูแล้วโดยพื้นฐานของ GPSC ดูจะมีภาษีดีกว่า BGRIM มากพอสมควร ดังนั้นแล้วถ้าจะให้เจ๊เรียงลำดับความน่าสนใจ (เก็งกำไรระยะสั้น) ของหุ้นโรงไฟฟ้าทั้ง 3 ก็จะออกมาเป็น GPSC BGRIM และ GULF ตามลำดับเจ้าค่ะ


***  ใครจะว่าหุ้นกลุ่มแบงก์ไม่ดี หรือแย่ยังไงเจ๊ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ในมุมของเจ๊เมาธ์ หุ้นธนาคารอย่าง KBANK BBL SCB KTB และ TTB เป็นหุ้นธนาคารที่ยังน่าเข้าในระดับกลางถึงยาวได้ ไม่ต้องพูดเรื่องผลการดำเนินงาน 2/65 ที่ว่ากันว่าน่าจะดียกแผง เนื่องจากค่าเงินเฟ้อที่กำลังเพิ่มขึ้นรวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าที่สุดในรอบ 6 ปีกำลังกดดันทำให้ ธปท. และ กนง. จำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจากเดิม 0.50% ขึ้นมาเป็น 0.75% ในเร็วๆ นี้แบบไม่มีทางเลือก (เริ่มต้นน่าจะอยู่ที่ 0.25%) 
และแน่นอนว่าถ้าหากมีการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจากทาง กนง. บรรดาธนาคารพาณิชย์ทั้งหลายก็ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยตามขึ้นมา ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ยเพียงแค่ 0.25% ที่ว่านี้จะทำให้รายได้เฉพาะส่วนดอกเบี้ยของธนาคารทั้งหลายปรับเพิ่มขึ้นทันทีถึง 50% (คิดจากฐานดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันที่ 0.50%) ซึ่งเมื่อเห็นแบบนี้แล้วจะไม่ให้เจ๊เมาธ์มองว่า หุ้นธนาคารดูดีได้ยังไงหละคะ ก็ของมันเห็นๆอยู่แล้วนี่นา


*** บอกมาหลายรอบแล้วว่า BWG เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่ไม่ควรจะเข้าไปยุ่งด้วยเป็นอย่างยิ่ง อย่างแรกคือ เรื่องของผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถหลุดพ้นออกไปจากคำว่าขาดทุนเลย ในช่วงเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา ส่วนอย่างที่สองคือ เรื่องของการปล่อยข่าวดีลใหญ่ เพื่อตีกินนักลงทุนที่ไม่รู้จักนิสัยของหุ้นตัวนี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งถ้าจะให้เจ๊เมาธ์มองหาข้อดีขอหุ้นตัวนี้ สิ่งเดียวที่เจ๊พอจะมองเห็นก็เพียงแค่การเล่นรอบปั่นราคาเท่านั้นเอง ส่วนจะเป็นในกรอบราคาจากเท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ เจ๊ก็คงจะไม่ไปสนใจนะคะ แค่รู้...แต่ไม่ขอยุ่ง ก็เท่านั้นเองค่ะ อิอิอิ


***  เห็นราคาหุ้น PLANB ควงคู่ VGI นำดิ่งทิ้งลงมาหนัก ตรวจสอบแล้ว ไม่มีข่าวร้าย ไม่มีประเด็นลบ ในงบ Q2/65 ราคาหุ้นที่ลงมา น่าจะเกิดความกังวลเงินเฟ้อของไทย ฉะนั้นราคาหุ้นที่ลงมา เป็นจังหวะสะสม “ซื้อ” เมื่อราคาอ่อนตัว หากดู VGI จะเห็นว่า ผลดำเนินงานฟื้นตัวชัดเจน จากรถไฟฟ้า BTS ที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง 
 

นักวิเคราะห์ เชียร์เก็บ PLANB 9.60 บาท ให้เหตุผลยอดโฆษณาเดือน 4-5 ดี ส่วนเดือน 6 แผ่วเล็กน้อย แต่เดือน 7 กลับมาดี  มองการฟื้นตัวของกำไรเด่นใน Q2/65


หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,800 วันที่ 14 - 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2565