ข่าวดีของ “กรุงเทพฯ-ภูเก็ต-สมุย”

09 ก.ค. 2565 | 05:42 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี โดย...ว.เชิงดอย

*** คอลัมน์ฐานโซไซตี หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3799 ระหว่างวันที่ 10-13 ก.ค.2565 โดย “ว.เชิงดอย” ประจำการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ที่มีสาระ เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะเช่นเคย 


*** ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 กำลังแพร่กระจายป่วนคนไทยอีกระลอกอยู่ในขณะนี้ ข่าวดีดีสำหรับประเทศไทย ที่ดังกระฉ่อนไปทั่วโลก ก็ยังพอมีให้ชื่นใจอยู่เป็นระยะๆ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยวของประเทศไทย เมื่อล่าสุด เว็บไซต์ท่องเที่ยวระดับโลก Travel and Leisure ได้ประกาศผลการจัดอันดับ “เมืองที่ดีที่สุดในโลก” โดยแบ่งเป็นหมวดภูมิภาคต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้น “กรุงเทพมหานคร” เมืองหลวงของประเทศไทย คว้าอันดับ 1 เมืองที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Best Cities in Southeast Asia 2022) อ้างอิงจาก travelandleisureasia Cities,travelandleisureasia islands,Nationthailand

*** เว็บไซต์ท่องเที่ยว Travel and Leisure ยกให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ได้คะแนนจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Best Cities in Southeast Asia 2022) นอกจากนี้ “เกาะภูเก็ต” และ “เกาะสมุย” ก็ถูกโหวตให้เป็นเกาะที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Best Islands in Southeast Asia 2022) ในอันดับ 1 และ อันดับ 2 ตามลำดับ ตอกย้ำว่าประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั่วโลกในปี 2565 นี้       

 

*** ส่วนการจัดอันดับในประเภท Best Cities in Southeast Asia 2022 นั้น ผลโหวตปรากฏว่า 10 อันดับเมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว เป็นดังนี้ อันดับที่ 1 กรุงเทพฯ ประเทศไทย อันดับ 2 สิงคโปร์ อันดับ 3 นครดานัง เวียดนาม อันดับ 4 กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย อันดับ 5 กรุงฮานอย เวียดนาม อันดับ 6 เมืองเชียงใหม่ ประเทศไทย อันดับ 7 เกาะฮ่องกง อันดับ 8 นครโฮจิมินห์เวียดนาม อันดับ 9 กรุงพนมเปญ กัมพูชา และ อันดับ 10 กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย

*** สำหรับเหตุผลที่ว่าทำไม “กรุงเทพฯ” ถึงคว้าอันดับ 1 เมืองที่ดีที่สุด พบมีเหตุผลหลายประการที่ทำให้กรุงเทพฯ ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเสมอมา ได้แก่ รอยยิ้มที่อบอุ่น, Street food ที่อร่อย, ความรู้สึกดีของการนั่งรถตุ๊กๆ หรือ มอเตอร์ไซค์ ตระเวนเที่ยวทั่วกรุงเทพฯ รวมทั้งเป็นเมืองที่มีความหลากหลาย สามารถพบประสบการณ์การเที่ยวแบบหรูหรา พักในห้องพักที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว และ อาหารระดับดาวมิชลิน นอกจากนี้ กรุงเทพฯ ยังเป็นจุดศูนย์กลางในการเดินทางไปท่องเที่ยวที่อื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างสะดวก และสามารถเลือกเดินทางได้หลากหลายรูปแบบและหลากหลายทางเลือก


*** เมื่อสำรวจถึงสถานที่ท่องเที่ยวประเภท “เกาะที่น่าท่องเที่ยวที่สุด”ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Best Islands in Southeast Asia 2022) พบว่า เกาะที่ได้รับการลงคะแนนจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด 10 อันดับ ประกอบด้วย อันดับ 1 เกาะภูเก็ต ประเทศไทย อันดับ 2 เกาะสมุย ประเทศไทย อันดับ 3 เกาะบาลี อินโดนีเซีย อันดับ 4 เกาะฟูโกว๊ก เวียดนาม อันดับ 5เกาะลังกาวี มาเลเซีย อันดับ 6 เกาะลอมบอก อินโดนีเซีย อันดับ 7 เกาะปาลาวัน ฟิลิปปินส์ อันดับ 8 เกาะปีนัง มาเลเซีย อันดับ 9 เกาะพีพี ประเทศไทย และอันดับ 10 เกาะกงด๋าว เวียดนาม


*** ไปดูเหตุผลที่ทำไม เกาะภูเก็ต เกาะสมุย ถึงได้ใจขาเที่ยวทั่วโลก ก็พบว่า นโยบาย Sandbox ของไทยที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามาเที่ยวได้อย่างสะดวก มีส่วนช่วยสนับสนุนภาพลักษณ์ของไทยได้ดี ในขณะที่พื้นที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ทั่วโลก ยังคงไม่เปิดรับนักท่องเที่ยว เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกาะภูเก็ตดึงดูดนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ เกาะภูเก็ต เป็นสถานที่ที่มีชายหาดสวยงาม สามารถมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวได้หลายรูปแบบสำหรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการสังสรรค์ริมหาดยามค่ำคืน กลุ่มครอบครัว และ กลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รวมทั้งที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวที่หลายหลาย และบรรยากาศของเมืองเก่าภูเก็ต ยังช่วยทำให้เกาะภูเก็ตได้รับความนิยม …ผลสำรวจที่ออกมาถือได้ว่าเป็นข่าวดีจริงๆ สำหรับประเทศไทย ที่ใครๆ ก็คงอยากเข้ามาเที่ยว เมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวมากขึ้น ผลดีในด้านเศรษฐกิจก็จะตามมาด้วย ขอให้ช่วยกันรักษาแหล่งท่องเที่ยว รักษาภาพพจน์ของประเทศที่ดีดีให้คงไว้ต่อไป... 


*** มาว่าด้วยโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ในประเทศไทยขณะนี้กันหน่อย ที่ทางการแพทย์บอกว่ากำลังเข้าสู่ระยะหลังการระบาดใหญ่ (Post-Pandemic) ที่จากนี้ไปประชาชนต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโควิด (Living with COVID) เนื่องจากการเปิดประเทศ ทำให้มีผู้เดินทางเข้าประเทศมากขึ้น อาจพบการติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นระลอกเล็กๆ (Small Wave) รวมทั้งพบการติดเชื้อได้จากการผ่อนคลายมาตรการ เปิดกิจการ และกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น แต่ความรุนแรงของโรคลดลง นพ.เกียรติภูมิ วงศ์ รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ออกมาบอกว่า ขณะนี้สถานการณ์เริ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นระลอกเล็กๆ จึงมีการเตรียมความพร้อมระบบสาธารณสุขไว้รองรับตามแนวทาง 3 พอ คือ “หมอพอ เตียงพอ ยาและเวชภัณฑ์พอ” โดยกำชับและแจ้งไปยังหน่วยงานสาธารณสุขทั่วประเทศ ให้บุคลากรทางการแพทย์ระมัดระวังป้องกันตนเองในการให้บริการ เตรียมความพร้อมยา เวชภัณฑ์ สำรองเตียง ความพร้อมระบบส่งต่อ และเร่งเดินหน้าการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนในการคงมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล จะช่วยลดการติดเชื้อและหยุดระลอกเล็กๆ เหล่านี้ลงได้


*** ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ชี้ว่า สถานการณ์การระบาดโควิด-19 ของประเทศไทยขณะนี้ ไม่ได้แตกต่างจากหลายประเทศ ทั่วโลกที่พบการระบาดของเชื้อโอมิครอน BA.4 และ BA.5 ไปแล้วกว่า 110 ประเทศ และการรายงานตัวเลขติดเชื้อที่แท้จริงก็ต่ำกว่าความเป็นจริง เนื่องจากหลายประเทศเลิกตรวจหาเชื้อไปแล้ว บางประเทศที่ตรวจก็ไม่ได้ตรวจสายพันธุ์ เพราะมีการเปิดประเทศ จึงพบ BA.4 และ BA.5 จากการนำเข้าโดยนักท่องเที่ยวต่างชาติ และคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ คาดว่าไม่นานเชื้อ BA.4 และ BA.5 จะกลายเป็นสายพันธุ์หลัก แต่ข้อมูลทั่วโลกพบว่า เชื้อไม่ก่อความรุนแรง 


*** “หมอประสิทธิ์” เสนอแนะว่า วันอยากให้ผู้ใหญ่ในประเทศส่งสัญญาณ เพราะขณะนี้มีการติดเชื้อเพิ่ม จึงเสนอให้รัฐบาลต้องกลับมากระชับมาตรการป้องกันให้มากขึ้น โดยเฉพาะการออกข้อบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่ปิด ซึ่งจะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ เป็นมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) คงจะต้องเสนอ ศบค.พิจารณา สอดรับกับหนังสือที่ปลัด สธ.สั่งการถึงผู้ตรวจราชการ สธ.ทุกเขต ให้ทุกหน่วยบริการสุขภาพรับเตรียมพร้อมมือผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น เป็นมาตรการที่ต้องรีบทำ อย่ารอจนเตียงไม่พอจะไม่ทันต่อสถานการณ์ …ข้อเสนอแนะดีดี รัฐบาลต้องคิดทบทวนแล้วล่ะว่าจะเอาอย่างไร ทำอะไรก็รีบทำ อย่าตัดสินใจช้า เดี๋ยวจะไม่ทันการณ์เอา...