มส. จะเอาอย่างไงกับกัญชา-กัญชง

24 มิ.ย. 2565 | 00:00 น.

มส. จะเอาอย่างไงกับกัญชา-กัญชง : คอลัมน์สังฆานุสติ โดย... บาสก

หลังจากมีกฎหมาย ประกาศให้กัญชาและกัญชง ไม่ใช่สารเสพติดต่อไป ใครใคร่มี ใคร่ใคร่สูบ ก็ทำได้โดยเสรีไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งประกาศอาจส่งผลถึงพระสงฆ์องค์เจ้าที่อยู่ในวัด อาจใช้โอกาสนี้ลองสูบกัญชา กัญชงก็ได้เหมือนกัน ทำแล้วใครๆ ก็เอาผิดไม่ได้  เพราะไม่ใช่ยาเสพติดให้โทษต่อไป
 

ถามว่ามีข้อห้ามตามวินัยกรือศีลหรือไม่
 

เมื่อดูตามสิกขาบท พบว่าพระวินัย และศีล ก็มีข้อห้ามการดื่มสุรา เมรัย และของมึนเมา
 

พระเณรเคยดื่ม เป็นข่าวบ่อยๆ เพราะไม่ขาดจากพระแต่เป็นโลกวัชชะ (ชาวบ้านติเตียน แลข้อสำคัญประพฤติไม่เหมาะที่จะเป็นพระ) จึงถูกจับสึกไปเยอะ
 

ในอดีตนั้นมหาเถรสมาคมออกคำสั่งเมื่อ พ.ศ.2521 เรื่องห้ามภิกษุสามเณรเสพยาเสพติดให้โทษ แต่คำสั่งนี้เป็นหมันไปแล้วเมื่อมีประกาศว่ากัญชา กัญชงไม่ใช่ยาเสพติด เว้นแต่ยาบ้า เท่านั้น 
 

 

ผมว่า ถ้ามหาเถรสมาคมรอให้เกิดปัญหาขึ้นในหมู่ภิกษุ-สามเณร ที่เห็นว่ากัญชา-กัญชง ไม่ใช่ยาเสพติด แล้วนำมาสูบ นำมาพี้กันแบบเปิดเผย กลายเป็นโลกวัชชะ ขึ้นมา กว่า มส. จะแก้ปัญหาได้ จะเข้าทำนองว่า กว่าถั่วจะสุก งาก็จะไหม้ จึงควรมีคำสั่งออกมาเร็วๆ
 

ก็เป็นข่าวดี (แต่ต้องคอย) ผมได้ยินแว่วๆ ว่าการประชุมมหาเถรสมาคม คราวที่แล้ว (20 มิถุนายน 2565) เจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท) กรรมการมหาเถรสมาคม ในฐานะพระเถระผู้อาวุโสรูปหนึ่งของคณะสงฆ์ไทย ได้ปรารภเรื่องกัญชาไม่เป็นยาเสพติดตามกฎหมายด้วยความเป็นห่วง 
 

แต่ยังไม่มีแอคชั่น
 

แปลว่ายังไม่มีมติ หรือประกาศ มส. ออกมาครับ

 

ผมเสนอว่า เลขาธิการมหาเถรสมาคม ควรเร่งรีบยกร่างมติ หรือประกาศมหาเถรสมาคม ให้วัด และสถานศึกษาของวัด เป็นเขตปลอดกัญชา-กัญชง(เหมือนเขตปลอดบุหรี่) แล้วเวียนขอ มติ จากกรรมการมหารสมาคมเป็นรายบุคคล และให้มีผลบังคับใช้ทันที โดยไม่ต้องรอรับรองมติ เพราะเป็นกรณีเร่งด่วน 
 

ถ้า มส. และ พศ. ทำได้ทันการณ์ ทันเวลา 

โลกวัชชะจะไม่เกิดในหมู่สงฆ์ นะขอรับ