วัดบวรต้องสร้างพระไพรีพินาศอีกหลายชุด

05 เม.ย. 2565 | 08:15 น.

วัดบวรต้องสร้างพระไพรีพินาศอีกหลายชุด : คอลัมน์สังฆานุสติ โดย... บาสก

ข่าวพระสงฆ์ที่มรณภาพแล้วดังในยุคนี้ ไม่มีข่าวใดดังเกินสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พรหมคุตฺโต) อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร (พ.ศ.2556-2465) เพราะศิษย์รัก คนโปรด รับใช้หลายปีถูกตำรวจจับหลายข้อหา เช่นปลอมแปลงเอกสาร เบียดบัง โกง รวมถึงฟอกเงิน ตอนนี้ถูกฝากขังขณะสอบสวน
 

ข่าวว่าดีเอสไอ และ ปปช. ตรวจสอบทรัพย์สินอีกหลายรายการของศิษย์วัดคนนี้  เพราะนอกจากครอบครองรถยนต์หรู 5 ยี่ห้อดัง เช่น ปอร์เช เบนลี เลกซัส บีเอ็ม และวอลโว ยังซื้อคฤหาสน์ และอสังหาริมทรัพย์ ในนามของญาติ อีกหลายรายการ ยังไม่รวมพระเครื่องทองคำ กระเป๋าแบรนด์เนม เงินสด และเงินฝากในบัญชีอีกนับร้อยล้านบาท
 

ทรัพย์ที่ว่าทั้งหมดได้มาจากการเป็นศิษย์สมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร หรือเบียดบังจากไหนบ้าง ทางวัดบวรก็คอยคำตอบเหมือนกัน
 

สมเด็จพระวันรัตนั้น เป็นพระเถระผู้ใหญ่คณะธรรมยุต ได้รับเกียรติสูงส่ง รับนิมนต์ในงานพระราชพิธีสำคัญๆตลอด นอกจากนั้นยังเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม อดีตแม่กองธรรมสนามหลวง เคยรักษาการเจ้าอาวาสวัดมกุฏกษัตริยารามนาน 14 ปี และรักษาการเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ 10 กว่าปีเช่นกันและอีกหลายฐานะและตำแหน่ง
 

ผมเชื่อว่าเรื่องไม่ดีไม่งาม ที่ลูกศิษย์คนโปรดสมเด็จในโกศทำ และมาแดงโร่ตอนนี้ ย่อมกระเทือนใจผู้คนหลายฝ่าย มิใยต้องพูดถึงเกียรติภูมิของวัดที่ต้องมัวหมองไปด้วย จึงเห็นแถลงการณ์วัดบวรนิเวศ เวบไซต์คนดังก็ช่วยเขียนแก้ในเรื่องนี้ 

 

ส่วนผมขอเสนอให้วัดสร้างพระไพรีพินาศอีกหลายๆ ชุด เพื่อประกาศว่าศิษย์ฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์ของเจ้าอาวาส และของวัดถูกจับดำเนินคดีแล้ว เหมือนครั้งที่เจ้าฟ้ามงกุฏสมมติเทววงศ์ พระวชิรญาณภิกขุ เจ้าอาวาสพระองค์แรกของวัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อศัตรูพ่ายแพ้ ได้ถวายนามพระพุทธรูปโบราณสมัยศรีวิช้ย ปางธยานิพุทธองค์หนึ่ง ที่มีผู้นำมาถวายในเวลานั้นว่า พระไพรีพินาศ  
 

ศัตรูที่ว่านั้นคือกรมหลวงรักษรณเรศ ที่ทำตัวเป็นศ้ตรูของพระองค์และคณะธรรมยุต ในที่สุดถูกถอดจากฐานันดรศัดิ์ ให้เป็นแค่หม่อมไกรสร และถูกลงพระราชอาญา สำเร็จโทษ เมื่อ พ.ศ. 2391
 

ความเป็นศัตรูต่อเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศสมัยนั้น ก็เนื่องจากกรมหลวงรักษรณเรศ มีตำแหน่งเจ้ากรมสังฆการี มีหน้าที่ดูแลการพระสงฆ์ทั่วไป จึงไม่เห็นด้วยกับการก่อเกิดสงฆ์ธรรมยุตที่พระวชิรญาณภิกขุ หรือพระเจ้าฟ้ามงกุฏ กำลังผลักดันให้เกิด โดยมีวัดบวรเป็นต้นน้ำ
 

เล่ากันว่า กรมหลวงรักษรณเรศ กับบริวารใช้วิธีต่อต้านหลายแบบ ที่กล่าวถึงกันมากคือนำข้าวต้มร้อนๆ ใส่บาตร พระธรรมยุต ซึ่งตามธรรมเนียมใหม่ พระธรรมยุตไปบิณฑบาตร จะอุ้มบาตรทำด้วยเหล็ก โดยไม่มีถลกบาตรก่อหุ้ม (ถลกยาตีคือถุงถักด้วยด้ายหนาๆ สำหรับห่อหุ้มบาตร กันร้อน กันกระแทก) เมื่อโยมนำข้าวต้มร้อนๆ ใส่ลงไปจึงร้อน และทรมานหนักหนา
ถึงจะมีการต่อต้านขนาดไหน พระวชิรญาณภิกขุ ไม่ทรงท้อถอย เดินหน้าด้วยขันติธรรม จึงสามารถสร้างวงศ์ธรรมยุตขึ้นสำเร็จ โดยมีวัดบวรนิเวศวิหารเป็นฐาน
 

ความแตกต่างระหว่างพระธรรมยุตกับพระมหานิกาย คือธรรมยุตไม่สวมใส่รองเท้า เมื่อออกจากวัดในทุกกรณี จึงพบว่าข้างบันไดกุฏิวัดธรรมยุต จะตั้งกระถางน้ำล้างเท้าไว้ เพื่อทำความสะอาดเท้าก่อนเข้ากุฏิ (หาดูได้ที่วัดสัมพันธวงศ์ เยาวราช)

อีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้พระธรรมยุต แตกต่างจากพระมหานิกาย คือไม่รับ หรือไม่จับเงิน จับทอง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์สำคัญมากของธรรมยุต
 

อย่างไรก็ตามวัดบวรและคณะธรรมยุตเจริญรุ่งเรืองมาตามลำดับ จะเห็นช้ดเจนอย่างหนึ่งคือเจ้าอาวาสที่ปกครองวัดนี้ รูปต่อๆ มา มีฐานันดรศักดิ์สูง ทำหน้าที่สังฆปริณายก หรือเป็นสมเด็จพระสังฆราชเจ้าหลายพระองค์ คือเมื่อพระวชิรญาณภิกขุ ทรงลาสิกขา หลังจากเป็นเจ้าอาวาสนาน 15 ปี เพื่อไปเป็นพระมหากษัตริย์ครองราชสมบัติ มีพระนามาภิไธยว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที 4 แล้วนั้น เจ้าอาวาสลำดับต่อมา จึงเป็นพระบรมวงศ์ชั้นสูง และได้รับมหาสมณุตตาภิเษก เป็นสมเด็จพระสังฆราชเจ้า ถึง 3 พระองค์ติดต่อกัน
 

วัดบวรจึงเป็นศูนย์กลางที่พระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศ์ชั้นสูงเมื่อทรงผนวช ทรงอุปสมบทเสด็จมาประทับ ดังนั้นผู้ที่เข้าวัดนี้ ควรสำรวมระวังว่าถนนในวัดที่กำลังเดินนั้นเคยเป็นที่ทอดพระบาทพระเจ้าอยู่ห้ว สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ตลอดถึงเจ้านายชั้นสูงมาตั้งแต่รัชกาลที่ 4 ถึงรัชกาลปัจจุบัน
 

ส่วนลูกสามัญชน บวชแล้วได้เป็นเจ้าอาวาสมี 3 รูป/พระองค์ คือพระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ) สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร(เจริญ) และ สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พรหมคุตโต ป.ธ.9) เป็นเจ้าอาวาสลำดับที่ 7 (พ.ศ.2556-2565)
 

ถ้าไม่มีศิษย์คนโปรด มาอวดร่ำรวยระดับมหาเศรษฐีแล้ว ชื่อเสียงสมเด็จพระวันรัต (จุนท์) ก็คงเส้นคงวา ได้รับการสรรเสริญ เยินยอว่าเป็นพระสงฆ์มากบารมี เปี่ยมล้นด้วยเมตตา และคนที่เคารพนับถือคงไม่ต้องคอยแก้ข่าวให้ ดังที่มีข่าวลูกศิษย์รวยล้นเหลือแล้ว ยังมีการเล่าลืออีกว่าสมเด็จท่านมีเมตตาอุปถัมภ์ศิษย์อีก 2 คนให้เรียนต่อที่ประเทศอังกฤษและออสเตรเลีย ผู้คนทราบเรื่องจึงตั้งข้อสงสัยว่าท่านได้ปัจจัยจากไหนมาส่งเสียศิษย์เรียนเมืองนอก หรือเป็นแค่ข่าวลือ แบบนี้จะแก้ข่าวอย่างไร 
 

จะสร้างแค่พระไพรีพินาศคงไม่เพียงพอแล้วนะเจ้าพระคุณ