จุดจบ...หุ้นขุดเหมือง

25 ก.พ. 2565 | 00:45 น.

คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ BY...เจ๊เมาธ์

*** ราคาทองคำสวิง ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งไม่หยุด สวนทางกับตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งตลาดหุ้นไทย ตกระเน-ระนาด วันเดียวเสียวหนักเกือบ 50 จุด นักลงทุนวิตกกังวล รัสเซีย เปิดฉากโจมตียูเครน เกิดสถานการณ์ตึงเครียด ท่ามกลางโควิด-19 โอมิครอน ที่ระบาดอย่างหนักในไทย จนตัวเลขผู้ติดเชื้อ รวมผลตรวจ ATK ทำนิวไฮ วันที่ 24 ก.พ. กว่า 4.5 หมื่นคน ต้องรอเตียงโรงพยาบาลรัฐและเอกชน
 

เจ๊เมาธ์ เตือนแล้ว เตือนอีก หุ้นปั่นขุดเหมือง ใครเชื่อก็รอด ปั่นจนได้ที่ ได้เวลาพบกับจุดจบความเลวร้ายของราคาหุ้นขุดบิตคอยน์ ปั่นหุ้นไปอย่างกะจรวด เวลาตกดิ่งพสุธา ฟลอร์สนิท ไร้แรงซื้อ กลับบ้านเก่าตามระเบียบ ไม่ผิดไปจากหุ้น ZIGA, JTS, UPA, ECF, AJA และ CWT
 

กรณี JTS ก็ไม่ต่างจาก ZIGA ... JTS จากหุ้น 2 บาท ลากมาราธอนไป 300 บาท และ ZIGA หุ้น 4-5 บาท ไม่ถึง 2 สัปดาห์ ลากขึ้นไป 24 บาท ฮึกเหิมและท้าทาย ใครแตะหรือขัดขวาง เป็นต้องโดนเกรียนคีย์บอร์ด และหน้าเพจเครื่องมือปั่นหุ้น ซึ่งเป็นลิ่วล้อเจ้ามือ ที่ออกมาเชียร์หุ้นขุดบิตคอยน์ แซะโต้ตอบอย่างสาหัส  
 

หุ้นที่ลากขึ้นตลอดทาง เป็นหุ้น Corner หรือหุ้นที่ “เจ้ามือ-เจ้าของ” เก็บหุ้นกองอยู่ในพอร์ต จะโยกซ้าย-โยกขวา ตีหุ้น-ตีลง สั่งไปทางไหนได้หมด ราคาหุ้นจึงขึ้นผิดธรรมชาติ

 

กรณีของหุ้นขุดเหมืองบิตคอยน์ ราคาบิตคอยน์ที่หลุด 35,000 เหรียญสหรัฐ คุ้มค่าหรือไม่ที่บริษัทจดทะเบียน (บจ.) คิดจะขุด อีกทั้งค่าไฟฟ้าไทย กำลังหลักของการขุด เป็นต้นทุนล้วนๆ คุ้มไหม ...บจ.ที่คิดขุดเหมือง น่าจะเป็นแค่เกมการสร้างราคา หรือช่องทางการดูดเงินออก ????
 

ฉะนั้น !!! หากนักลงทุนตั้งสติคิดตาม ศึกษาข้อมูล จะไม่ตกเป็นเหยื่อเกมสร้างราคาหุ้นขุดเหมืองครั้งนี้แน่นอน
 

อย่างไรก็ตาม ถ้าถามเจ๊เมาธ์ว่าใครผิด หรือ ใครควรต้องรับผิดชอบ ระหว่างบริษัทที่ประกาศตัวว่าจะทำเหมืองขุดบิตคอยน์ กับเหล่าผู้ดูแลกติกาที่นั่งชูคออยู่บนหอคอย แล้วปล่อยให้มีกระแสปั่นหุ้นเหมืองขุดบิตคอยน์ จนทำให้นักลงทุนเสียหายหนัก
 

เจ๊เมาธ์ก็บอกเลยว่าคนกลุ่มแรกที่ต้องรับผิดชอบ...ต้องเป็นพวกผู้คุมกติกาของตลาดหุ้นอยู่แล้ว

 

อย่าลืมว่า การสร้างข่าวและกระแสเพื่อดันราคาหุ้นแบบนี้ไม่ได้มีแค่ในกรณีของหุ้นเหมืองขุดบิตคอยน์ เป็นกรณีแรก ...ก่อนหน้านี้ยังมีแบบนี้เป็นตัวอย่างมาแล้วหลายกรณี ซึ่งถ้าหากคนพวกนี้ทำงานเป็น...มีการเรียนรู้หรือมีการดูแลแบบพอสมควร ไม่ต้องดีมากแค่ดูแลหรือใส่ใจบ้างก็ยังดี รวมถึงถ้ามีการกำหนดกติกาที่ชัดเจนเพื่อป้องกันปัญหาเอาไว้บ้าง ปัญหาที่เกิดขึ้นมันก็จะไม่มากและรุนแรงขนาดนี้
 

ฝากไว้เป็นบทเรียน ที่น่าจะสอนได้ทั้งนักลงทุน สอนทั้งบริษัทจดทะเบียน และสอนได้ทั้งเหล่าผู้คุมกติกา ว่า ถ้าเล่นกับกระแสแล้วปล่อยให้เล่นกับกระแสแบบขาดการควบคุมดูแล แล้วเวลามีปัญหามันหนักแค่ไหน เอาเป็นว่าจากนี้ไปยังมีปัญหาใหญ่ๆ ที่จะตามมาอีกเยอะ ทั้งเรื่องสงครามใหญ่และเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกที่เราจะต้องเผชิญด้วยกันนะคะ เจ๊เมาธ์เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ
 

*** อย่างที่เจ๊เมาธ์บอกไปแล้วว่านาทีนี้หุ้นที่น่าสนใจที่สุดคือ PTTEP เพราะหากเกิดการแบนการขายน้ำมันของรัสเซีย หรือ ร้ายแรงที่สุดอาจจะเกิดสงครามขึ้น ก็จะทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นไปอีกมาก ล่าสุดการที่ราคาน้ำมันดิบ BRENT วิ่งทะลุ 100 ดอลลาร์/บาเรล ส่งผลให้ราคาหุ้นของ PTTEP ปรับตัวขึ้นไปแบบที่เจ๊เมาธ์คาดไว้ไม่มีผิด เอาเป็นว่าถ้าใครยังไม่มี...หรือยังยังไม่สนใจ ก็ตามดูได้นะคะ แต่สำหรับเจ๊...หุ้นพลังงานอย่าง PTTEP มาแน่นอนเจ้าค่ะ 
 

จังหวะนี้นอกจากหุ้นขุดปิโตเลียมขายอย่าง PTTEP จะน่าสนใจแล้ว หุ้นในกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะนอกจากกระแสสงครามจะทำให้ราคาปิโตรเลียมสูงขึ้นแล้วยังส่งผลให้ค่าการกลั่น (GRM) ปรับสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นหุ้นกลุ่มโรงกลั่นอย่าง TOP IRPC BCP SPRC และ ESSO ก็จะเป็นหุ้นอีกกลุ่มหนึ่งที่ราคาน่าจะปรับขึ้นในแนวทางที่เป็นบวก หรือถึงแม้จะไม่อยู่ในทิศทางที่เป็นบวกแต่ก็พอจะถือว่าใช้เป็นเชฟโซนได้เหมือนกันค่ะ
 

*** การกลับมามีผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอีกครั้งจนเตียงรักษาผู้ป่วยกลับมาขาดแคลนทำให้หุ้นโรงพยาบาลหลายแห่งขยับราคาขึ้นมาอีกครั้ง น่าสนใจที่สุดคือหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลอย่าง BDMS BH SVH ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีฐานการเงินและผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ส่วนหุ้นโรงพยาบาลตัวรองลงมาอย่าง CHG BCH THG PR9 VIBHA ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย อย่างไรก็ตาม กระแสสงครามที่ถึงแม้ว่าอาจจะอยู่ห่างไกลจากประเทศไทยไปบ้าง แต่ก็น่าจะมีส่วนทำให้มีนักลงทุนหันมามองหุ้นกลุ่มเมกกะเทรนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่เหล่านี้อีกครั้ง  
 

เจ๊เมาธ์บอกเลยว่าหุ้นโรงพยาบาลน่าสนใจมากค่ะ
 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,761 วันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม พ.ศ. 2565