เที่ยวปีใหม่ ด้วยความระมัดระวัง

30 ธ.ค. 2564 | 05:20 น.

บทบรรณาธิการ

     กระทรวงสาธารณสุขออกประเมินสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย หลังมีการระบาดของ “โอมิครอน” ออกเป็น 3 ฉากทัศน์ (scenario) แบบที่ 1 รุนแรงที่สุดอัตราการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้นจากการระบาดโอมิครอนในประเทศ มีการฉีดวัคซีนได้ใกล้เคียงกับช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. แต่ประชาชนให้ความร่วมมือน้อย หรือไม่ให้ความร่วมมือ ไม่มีการป้องกัน ไม่มีมาตรการอะไรมาก จะเกิดการระบาดและควบคุมยาก ใช้เวลา 3-4 เดือนควบคุมโรคได้ มีผู้ติดเชื้อ 30,000 รายต่อวัน เสียชีวิต 170-180 คนต่อวัน
 

     แบบที่ 2 ปานกลาง (Possible) มีอัตราการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้นจากการระบาดของโอมิครอนในประเทศ มีการฉีดวัคซีนได้ใกล้เคียงกับช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. ประชาชนให้ความร่วมมือ สถานประกอบการ จัดกิจกรรมปฏิบัติตามVUCA: V- Vaccine, U-Universal Prevention, C- Covid-19 free setting ดี จะมีผู้ติดเชื้อ 15,000-16,000 รายต่อวัน เสียชีวิตราว 100 รายต่อวัน

     แบบที่ 3 ดีที่สุด (Most favourable) โดยมีอัตราการแพร่เชื้อของโอมิครอนไม่สูงมาก เนื่องจากควบคุมการระบาดช่วงเดือน ม.ค. 2565 ได้และเร่งฉีดวัคซีนในทุกกลุ่มได้สูงทั้งเข็ม 1,2 และเข็มบูสเตอร์ มากกว่า 4 ล้านโดสต่อสัปดาห์ และประชาชนให้ความร่วมมือเต็มที่ ควบคุมได้ดีมาก มีผู้ติดเชื้อ 10,000 รายต่อวัน และเสียชีวิต 60-70 คนต่อวัน ใช้เวลาควบคุมได้ใน 1-2 เดือน
 

     กระทรวงสาธารณสุขยังประเมินสถานการณ์และประกาศแจ้งการเตือนภัยด้านสาธารณสุขเป็นระดับ 3 จำกัดการรวมกลุ่ม สามารถไปสถานที่เสี่ยง ร้านอาหารได้ แต่ควรเป็นระบบเปิดไม่แออัด สถานที่ที่รวมตัวกันหมู่มากต้องไม่เกิน 200 คน และต้อง COVID-19 Free Setting สุ่มตรวจก่อนเข้าใช้บริการ โดยช่วงเวลานี้มีสัญญาณเสี่ยง ติดเชื้อจากต่างประเทศ ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคครอบจักรวาล ขณะเดินทางหรือพำนักต่างประเทศ รวมถึงคลัสเตอร์ในประเทศ โดยหลังปีใหม่อาจมีการระบาดมากขึ้น โดยเฉพาะโอมิครอนที่ติดเชื้อง่าย ซึ่งต้องขอให้ปฏิบัติมาตรการทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) อย่างต่อเนื่อง และตรวจคัดกรองก่อนกลับเข้ามาทำงาน

     สถานการณ์โควิดสายพันธุ์โอมิครอน ที่จะกลับมาระบาดใหม่ หลังเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่และมีแนวโน้มขยายวงมากขึ้นเป็นระลอก 4 หรือระลอก 5 เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังอย่างยิ่งยวด โดยเฉพาะการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประชาชนคนไทยต้องร่วมมือกัน โดยเฉพาะการต้องตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม คนรอบข้าง แม้ตลอดปีที่ผ่านมาเราจะเผชิญกับความอึดอัดจากการควบคุมที่เข้มแข็งเพื่อต่อสู้กับโรคไวรัสร้ายตัวนี้
 

     ขณะที่รัฐบาลจำต้องเตรียมให้พร้อมทั้งยา วัคซีน ระบบการรักษาหลังติดเชื้อ เตียงพยาบาลต้องไม่แน่นล้นเหมือนที่ผ่านมา บุคลากรทางการแพทย์ต้องเตรียมพร้อมกลับมาทำงานหนักอีกครั้ง ส่วนประชาชนคนไทยจำต้องอดทน ยอมรับข้อปฏิบัติใหม่ที่ไม่เคยชินและไม่เสรีเหมือนในอดีต แต่ต้องปรับตัวเพื่อลดความเสี่ยง เรียนรู้อยู่กับโรคไวรัสวายร้ายตัวนี้ให้ได้ ขอให้เที่ยวปีใหม่ปีนี้อย่างมีความสุข ด้วยความระมัดระวัง