หุ้นไทยดิ่งแรงกว่า 30 จุด ตามดาวโจนส์ร่วง 650 จุด

หุ้นไทยดิ่งแรงกว่า 30 จุด ตามดาวโจนส์ร่วง 650 จุด น้ำมันดิบลดลง 7% เจอแรงขายในกลุ่มใหญ่นำตลาด และแรงกดดันจากต่างประเทศ หลังสหรัฐชัตดาวน์ และทรัมป์จ่อปลดพาวเวลล์ เหตุขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในรอบปี

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 25 ธันวาคม 2561 ทันทีที่เปิดการซื้อขาย ดัชนีปรับลดลงทันที 21.54 จุด หรือ 1.35% อยู่ที่ 1,569.75 จุด จากนั้นดัชนียังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยลงไปจุดต่ำสุดที่ 1,558.67 จุด ลดลง 32.62 จุด หรือ 2.04% ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของปี 2561 หลังจากมีแรงขายกดดันหนักในหุ้นใหญ่ นำโดยบมจ.ปตท. (PTT) บมจ.ปตท.สผ. (PTTEP) บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB)

นายพบชัย ภัทราวิชญ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชียพลัส เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ที่ปรับลดลงแรง มาจากแรงกดดันหลังดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลงกว่า 650 จุด ทำให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคปรับลดลงตาม โดยตลาดหุ้นจีนลดลงประมาณ 2.4% ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นลดลงประมาณ 5% เนื่องจากปิดทำการเมื่อวันก่อน จึงรับผลกระทบเป็นสองเท่า นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบโลกยังปรับลดลงกว่า 7% กดดันหุ้นกลุ่มพลังงานอย่างหนัก รวมถึงการเมืองในสหรัฐที่มีการปิดหน่วยงานราชการ (ชัตดาวน์) บางแห่ง และกระแสข่าวนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เล็งปลดนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายถึง 4 ครั้งในปี 2561 ทำให้นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามมูลค่าซื้อขายของวัน หากอยู่ในระดับ 30,000 ล้านบาท ยังถือว่าตลาดหุ้นไม่ได้ปรับลดลงมาก แต่ถ้ามูลค่าซื้อขายเกิน 40,000 ล้านบาท จะเกิดความกังวลและทำให้ดัชนีมีโอกาสปรับลดลงต่อ โดยทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ไม่คาดหวังว่าจะฟื้นตัว คาดแนวรับอยู่ที่ 1,550 จุด ขณะที่ แรงซื้อในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ในช่วงโค้งสุดท้ายอาจจะยังมีอยู่ แต่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับช่วงสัปดาห์ก่อนที่ดัชนีลดลงอยู่ที่ประมาณ 1,580 – 1,585 จุด ซึ่งในช่วงนั้นจะมีแรงซื้อเข้ามาในกองทุนไปมากพอสมควรแล้ว

สำหรับดัชนีหุ้นไทย ณ เวลา 11.52 น. อยู่ที่ 1,561.89 จุด ลดลง 29.40 จุด หรือ 1.85 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 15,977.39 ล้านบาท