'สมิติเวช' ชูนวัตกรรมตอกย้ำบริการยุค 4.0 โกยรายได้ทะลุเป้า

26 พ.ย. 2561 | 11:47 น.
'สมิติเวช' ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมผ่านมือถือ ส่งแอพพลิเคชัน "สมิติเวช พลัส", ไลน์สมิติเวช, Samitivej PACE ระบบติดตามสถานะการผ่าตัดผ่านแอพพลิเคชันไลน์ และ Ward Tracking ช่วยวางแผนการรักษาและกำหนดเวลาร่วมกับแพทย์และทีมสำหรับผู้ป่วยใน ล่าสุด ใช้ Apple เทคโนโลยี สร้าง Digital Experience เพื่อดูแลสุขภาพของผู้รับบริการ ภายใต้คอนเซ็ปท์ #เราไม่อยากให้ใครห่วง เผยการปรับบริการที่สะดวกและรวดเร็ว ส่งผลให้ยอดรายได้ 9 เดือนของทั้งกลุ่ม เติบโตทะลุเป้า 9.9% คาดทั้งปีรายได้แตะ 1.7 หมื่นล้าน

น.พ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ร.พ.สมิติเวช และ ร.พ.บีเอ็นเอช กล่าวว่า สมิติเวชรองรับ Healthcare 4.0 ด้วยการให้บริการทางสุขภาพผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่สะดวก-รวดเร็ว-ครบ-จบ ด้วยมือถือเพียงเครื่องเดียวตั้งแต่ก่อนมาโรงพยาบาล ขณะอยู่ในโรงพยาบาล และกลับไปพักฟื้นที่บ้าน โดยพัฒนาระบบบนพื้นฐาน ภายใต้แนวคิด #เราไม่อยากให้ใครห่วง อาทิ ไม่อยากรอนานทั้งพบแพทย์และชำระเงิน กังวลระหว่างเข้าพักรักษาในโรงพยาบาล และเป็นห่วงญาติขณะผ่าตัด โดยใช้บริการผ่านแอพพลิเคชันบนมือถือ (Mobile Health)


re_MOOK1619

บริการด้านสุขภาพที่สมิติเวชให้บริการผ่านโทรศัพท์มือถือ ได้แก่ 1.แอพพลิเคชัน "สมิติเวช พลัส" (Samitivej Plus) การรอนานทั้งการพบแพทย์และจ่ายเงินเป็นปัญหาใหญ่ของผู้รับบริการ แต่ด้วยแอพพลิเคชัน "สมิติเวช พลัส" ผู้รับบริการสามารถรู้ระบบคิว-ชำระเงินได้อย่างรวดเร็วผ่านสมิติเวช FastPay ซึ่งอยู่ในแอพพลิเคชันและยังสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อชำระเงินได้ที่จุด FastPay Station โดยระบบนี้ได้เชื่อมต่อกับระบบบิลของโรงพยาบาล ทำให้ผู้ใช้บริการเห็นค่าใช้จ่ายและสแกนเพื่อชำระเงินได้ทันที หลังจากเปิดให้บริการไปตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ช่วยลดเวลาการรอคอยของผู้ใช้บริการได้กว่า 60% 2. "Samitivej" LINE Official Account การที่ผู้รับบริการเกิดความเจ็บป่วย หรือ อยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ แต่ไม่รู้จะหาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ สมิติเวชได้แก้ปัญหาของผู้รับบริการด้วยช่องทาง Official LINE @Samitivej ที่สามารถตอบปัญหาสุขภาพได้ โดยตอบมาแล้วมากกว่า 300,000 ครั้ง จนถึงปัจจุบันมีผู้ใช้บริการร่วม 100,000 คน


re_MOOK1729

3.ใช้ Apple เทคโนโลยี สมิติเวชได้พัฒนาเทคโนโลยีผ่าน Apple Platform ในการดูแลสุขภาพ ที่ไม่จำกัดเฉพาะในโรงพยาบาล ด้วยการเชื่อมต่อข้อมูลผ่าน Apple's HealthKit รวมถึงการพัฒนา Digital Experience อื่น ๆ เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นของผู้รับบริการ ซึ่งทั้งหมดนี้จะได้สัมผัสในปี 2562

4.Samitivej PACE ครั้งแรกในไทยกับการดูสถานะการผ่าตัดผ่านโทรศัพท์มือถือ ช่วยให้ญาติคลายความกังวลขณะคนไข้อยู่ในห้องผ่าตัด และยังช่วยให้คนไข้ได้ทราบถึงวิธีการปฏิบัติตัวก่อนและหลังผ่าตัด ซึ่งญาติสามารถรับลิงก์ที่เป็นข้อมูลของผู้ใช้บริการได้โดยตรงผ่าน Official LINE @Samitivej และ 5.Ward Tracking เพื่อคลายความกังวลให้กับผู้รับบริการและญาติให้ได้ทราบถึงกิจกรรมทางการพยาบาลขณะรักษาในโรงพยาบาล เป็นระบบที่ผู้รับบริการจะรู้แผนการรักษา ขั้นตอน และเวลาการทำหัตถการ สามารถวางแผนการรักษาและกำหนดเวลาร่วมกับแพทย์และทีม และสามารถเลือกห้องพักได้ด้วยตัวเอง สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการรักษา ทราบถึงแผนการรักษาและระยะเวลาการพักฟื้น เชื่อมต่อข้อมูลทางการรักษากับระบบเบิกจ่ายของบริษัทประกัน เพื่อความรวดเร็วในการบริการผู้รับบริการ


โปรโมทแทรกอีบุ๊ก

บริการทั้งหมดนี้ เริ่มใช้กับ "สมิติเวช ศรีนครินทร์" ก่อน หลังจากนั้นจะขยายไปสู่ทุก ๆ โรงพยาบาลในเครือ และในอีก 4-5 เดือนข้างหน้า ยังมีแผนเปิดบริการใหม่ที่รองรับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการในโลกสุขภาพยุคใหม่

น.พ.ชัยรัตน์ กล่าวอีกว่า จากภาพรวมของธุรกิจโรงพยาบาลและสุขภาพยังเติบโตได้เป็นอย่างดี โดยปกติจะเติบโตเฉลี่ย 1.5% หรือเติบโตเป็น 2 เท่าของจีดีพีประเทศ สำหรับ "กลุ่มสมิติเวช" จากเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ประมาณ 6% ขณะนี้หลังจากผ่านไปแล้ว 9 เดือน สามารถเติบโตได้กว่า 9.9% โดยสิ้นปีจะมีรายได้รวมราว 1.7 หมื่นล้านบาท จากโรงพยาบาลทั้งเครือสมิติเวชและบีเอ็นเอช จำนวน 8 โรงพยาบาล

ส่วนการลงทุนจะวางงบต่อปีเฉลี่ย 10% ของรายได้ และประมาณ 300-500 ล้านบาท หรือประมาณ 30% จะนำมาปรับเปลี่ยนอุปกรณ์และพัฒนาด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ เพิ่มประสิทธิภาพการบริการ โดยล่าสุด ได้ลงทุนสร้างโรงพยาบาล Samitivej Japanese Regional Hospital ที่สุขุมวิท รองรับคนไข้ชาวญี่ปุ่น เป็นอาคาร 7 ชั้น แบ่งเป็น เตียงสำหรับรองรับคนไข้ญี่ปุ่นมากกว่า 30 เตียง และคาดว่าจะเปิดบริการได้ราวไตรมาสแรกปี 2562 ซึ่งเป็นการรองรับตลาดอีอีซี ที่มีคนญี่ปุ่นเข้ามาทำงานและลงทุนในเมืองไทย โดยคนกลุ่มนี้ต้องการทั้งโรงเรียนและโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ซึ่งกลุ่มสมิติเวชมีแผนที่จะลงทุนสร้างโรงพยาบาลในเขตอีอีซีด้วยเช่นกัน

595959859