เปิดใจ ... 'คีรี กาญจนพาสน์' ประสบการณ์ 20 ปี วงการระบบขนส่งมวลชน
ในที่สุดก็ทนกระแสโจมตีบนโลกโซเชียลไม่ไหว ต้องนำทีมออกโรงแถลงข่าวด้วยตนเอง สำหรับ 'คีรี กาญจนพาสน์' ประธานกรรมการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กรณีเหตุการณ์รถไฟฟ้าบีทีเอสขัดข้อง ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 25 มิ.ย. 2561 ที่ผ่านมา ล่าสุด ได้ออกมาแจงความชัดเจนในมาตรการดูแลผู้โดยสาร เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของการใช้บริการระบบขนส่งมวลชนที่บีทีเอสบริหารจัดการโครงการดังกล่าว
กำหนดมาตรการคืนเงินผู้ใช้บริการอย่างไรบ้าง
'คีรี' เปิดใจต่อสื่อมวลชน พร้อมย้ำชัดเจนว่า นับตั้งแต่ได้รับแจ้งรถไฟฟ้าขัดข้องได้เพิ่มมาตรการในทันที นอกจากนั้น ยังชี้แจงมาตรการที่จะเยียวยาในผลกระทบครั้งนี้อีกว่า ในกรณีที่มีการประกาศหยุดจนทำให้เกิดความล่าช้าเกิน 30 นาที ยังประกาศให้ผู้โดยสารที่ใช้บัตรประเภทตั๋วเที่ยวเดียว (Single Journey Ticket) สามารถนำบัตรโดยสารมาขอคืนเงินค่าโดยสารได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วในวันเดียวกัน หรือ สามารถนำบัตรโดยสารมาใช้เดินทางภายใน 14 วันนับจากวันที่ออกบัตร
[caption id="attachment_296556" align="aligncenter" width="335"]
ประธานกรรมการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)[/caption]
ส่วนกรณีบัตรโดยสารประเภทแบบเติมเงิน สำหรับบุคคลทั่วไป นักเรียน นักศึกษา หรือ ผู้สูงอายุ (Rabbit Card) บัตรโดยสารจะไม่ถูกตัดเงินค่าโดยสาร โดยจะต้องออกประตูที่เจ้าหน้าที่กำหนด เช่นเดียวกับผู้ถือบัตรโดยสารบีทีเอสประเภทเที่ยวเดินทาง 30 วัน (30-Day Pass) สำหรับบุคคลทั่วไป นักเรียน นักศึกษา บัตรโดยสารจะไม่ถูกตัดเที่ยวเดินทางและจะเพิ่มเที่ยวเดินทางพิเศษให้จำนวน 2 เที่ยวต่อวันที่เกิดความล่าช้า
ประการสำคัญยังกล่าวถึงมาตรการคืนค่าโดยสารให้กับผู้ใช้บริการที่เกิดความล่าช้าเมื่อวันที่ 25-27 มิ.ย. 2561 สำหรับผู้ใช้บัตรโดยสารประเภทตั๋วเที่ยวเดียวสามารถนำกลับมาใช้ได้ภายใน 14 วัน หากกรณีไม่ต้องการเดินทางสามารถขอคืนเงินได้ภายในวันที่ 31 ก.ค. 2561 ส่วนบัตรโดยสารประเภทแบบเติมเงิน สำหรับบุคคลทั่วไป หรือ นักเรียน นักศึกษษ หรือ ผู้สูงอายุ (Rabbit Card) ผู้ใช้บัตรในช่วงที่มีความล่าช้าสามารถมาขอรับเที่ยวเดินทางพิเศษได้จำนวน 3 เที่ยว และผู้ถือบัตรโดยสารประเภทเที่ยวเดินทาง 30 วัน สำหรับบุคคลทั่วไป หรือ นักเรียน นักศึกษา (30-Day Pass) ที่มีเที่ยวเดินทางคงเหลือในช่วงที่เกิดความล่าช้าสามารถมาขอรับเที่ยวเดินทางพิเศษจำนวน 6 เที่ยว
โดยให้นำบัตรโดยสารมาติดต่อขอรับการเติมเที่ยวเดินทางพิเศษได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารสถานีบีทีเอสทุกสถานี ตั้งแต่วันที่ 7-31 ก.ค. 2561 และสามารถใช้เดินทางได้ภายใน 45 วันนับจากวันที่มาเติมเที่ยวพิเศษ และจะมีอายุการใช้งานอีก 30 วันนับจากการใช้เที่ยวพิเศษเดินทางครั้งแรก
นอกจากนั้น บีทีเอสยังเตรียมเปิดช่องทางใหม่ในการแจ้งข้อมูลการให้บริการ โดยจะมีแอพพลิเคชันในชื่อ BTS Sky Train ให้ดาวน์โหลด ทั้งใน Apple App Store และ Google Play Store ใช้งานได้ทั้งการแจ้งเหตุการณ์รถไฟฟ้าขัดข้อง แจ้งความหนาแน่นของแต่ละสถานีแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับทราบข้อมูลก่อนใช้บริการ โดยจะเปิดใช้งานในวันที่ 1 ส.ค. 2561 นี้
"ขอความเห็นใจในความผิดพลาดกรณีให้บริการบีทีเอส ยืนยันไม่ได้ขี้เหนียวเงินลงทุน และเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่คิดว่าจะรุนแรงขนาดนี้ แต่พนักงานไม่ได้ท้อแท้ ทุกคนยืนยันสู้เต็มที่ เร่งปรับแก้ไขให้ดีขึ้น แต่ยังต้องมีเวลาปรับให้เข้าที่อีกสักระยะหนึ่ง ไม่มีใครอยากเห็นระบบขนส่งมวลชนได้รับผลกระทบให้เสียเวลามาก บีทีเอสดำเนินการมาแล้ว 19 ปี ไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้ เมื่อเกิดเหตุก็ได้เข้าไปแก้ไขในทันทีจะทำให้ดีที่สุด อยากให้เข้าใจบีทีเอสว่า ตลอด 19 ปี ให้ความสำคัญกับบริการผู้โดยสาร ยอมรับว่า 20 ปีที่ผ่านมา อาจจะตัดสินใจที่ผิดพลาด"
จากเหตุการณ์นี้ยังจะประมูลโครงการอื่นหรือไม่
บีทีเอสได้เตรียมความพร้อมส่วนต่อขยายสีเขียว สีชมพู ที่ยังมีความต้องการเพิ่มบุคลากรไปดูแล อีกทั้งยังเดินหน้าเข้าประมูลอีกหลายโครงการที่รัฐเปิดให้เอกชนเข้าไปมีส่วนร่วม สำหรับไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบินนั้น ทีโออาร์ชัดเจนและบีทีเอสยืนยันความพร้อม ความเป็นเมืออาชีพด้านระบบราง จะเข้าร่วมประมูลในครั้งนี้ด้วย ดีใจที่ได้เห็นเอกชนเข้ามาประมูลจำนวนมาก มั่นใจว่างานโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ หากทำได้เร็วจะยิ่งดีต่อประเทศชาติ
[caption id="attachment_296560" align="aligncenter" width="335"]
ประธานกรรมการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)[/caption]
"กรณีรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง พบว่า มีผู้สนใจซื้อซองเอกสารประกวดราคามากถึง 16 ราย แต่ก็มีมายื่นเพียง 2 รายเท่านั้น ฝ่ายจีนก็มีเข้ามาร่วมด้วยเช่นกัน ดังนั้น จึงคาดการณ์กรณีประมูลรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ว่าท้ายที่สุดแล้วจะมีกี่ราย สำหรับบีทีเอสจะเข้าไปร่วมประมูลด้วย นอกเหนือจากจะมีเหตุที่ไม่คาดคิดเท่านั้น เช่นเดียวกับรถไฟฟ้าโครงการอื่น ๆ ล่าสุด อย่างน้อยจำนวน 2 ประเทศ แถบเอเชียและยุโรป ที่เข้ามาขอร่วมกับบีทีเอส แต่ยังไม่ขอเปิดเผยชื่อในขณะนี้ ซึ่งมีประสบการณ์ทั้งบริหารที่ดิน เดินรถ จัดซื้อรถ ทั้งน้ี ถ้ามีความจำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ บีทีเอสพร้อมจับมือกับทุกบริษัทไม่เว้น แม้กระทั่งกลุ่มซีพีที่หารือร่วมกันมาโดยตลอด"
……………….
สัมภาษณ์พิเศษ : คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,381 วันที่ 8-11 ก.ค. 2561 หน้า 12
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● ‘คีรี’ฉวยจังหวะหุ้นลง ดอดซื้อBTS-VGI
● 'คีรี' ท้ารบ 'ซีพี' ชิงไฮสปีด! เปิดอาณาจักรแสนล้าน - 'บีทีเอส' ประกาศยึดทุกโปรเจ็กต์
