'พราว เรียล เอสเตท' มุ่งเป้า! ผู้นำมิกซ์ยูสท่องเที่ยวแนวใหม่
ในที่สุด! การปักหมุด ‘วานา นาวา หัวหิน’ ของบริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด ซึ่งได้ทุ่มงบลงทุนไปแล้วเกือบ 4 พันล้านบาท ก็กำลังจะเป็นโมเดลที่ถูกนำไปพัฒนาต่อในภูเก็ต รวมไปถึงการมองโอกาสในการรับเป็นที่ปรึกษาและต่อยอดการบริหารสวนน้ำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ... สัมภาษณ์พิเศษ ‘พราว ลิปตพัลลภ’ กรรมการบริหาร พราว เรียลเอสเตท จำกัด
[caption id="attachment_262420" align="aligncenter" width="503"]
เปิดตัว รร. ในสวนน้ำ
ในช่วงที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า ธุรกิจสวนน้ำในไทยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก วันนี้เราจะเห็นสวนน้ำในทุกสเกลในไทย ไม่ว่าจะเป็น สวนน้ำในระดัลสเกลเดียวกับ วานา นาวา หัวหิน ซึ่งเป็นสวนน้ำระดับมาตรฐานสากล ขายบัตรในราคากว่า 1,000 บาท ที่ก็มีเพิ่มขึ้น ไปจนถึงสวนน้ำสเกลไม่ใหญ่มาก ที่มีเครื่องเล่นสไลเดอร์ 2-3 ตัว อยู่ภายในสวนน้ำ ขายบัตรในราคาราวกว่า 500 บาท และสวนน้ำในลักษณะเครื่องเล่นเป่าลม ขายบัตรในราคา 50-100 บาท
นั่นแสดงว่า สวนน้ำเป็นธุรกิจที่รองรับลูกค้า โดยเฉพาะครอบครัว ได้เป็นอย่างดี ซึ่งสวนน้ำในแต่ละรูปแบบก็จะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันไป การแข่งขันในธุรกิจนี้มีเพิ่มขึ้น แต่เราก็มองว่า ด้วยแผนการพัฒนาโครงการวานา นาวา หัวหิน ที่จะเป็นมิกซ์ยูสท่องเที่ยวแนวใหม่ ที่มีสวนน้ำเป็นส่วนประกอบ จะทำให้โครงการของเราที่หัวหิน กลายเป็น ‘วีกเอนด์ เดสติเนชัน’ ที่สมบูรณ์ และครบวงจร
เนื่องจากที่ผ่านมา ไม่เพียงเราจะเปิดให้บริการสวนน้ำที่กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ล่าสุด ยังได้เพิ่มโซนใหม่ ‘วานา วันเดอร์แลนด์’ ซึ่งจะเป็นโซนสวนน้ำสำหรับเด็กเล็ก และส่วนที่เป็นห้องเรียนและศูนย์การเรียนรู้สำหรับกลุ่มนักเรียนที่จะมาทัศนศึกษาที่สวนน้ำ
ทั้งล่าสุด ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ สำหรับ ‘ฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน’ โรงแรมภายในสวนน้ำ ขนาด 300 ห้อง พร้อมห้องบอลรูมกว่า 1,500 ตารางเมตร ซึ่งจัดว่า มีพื้นที่สำหรับการรองรับกลุ่มการประชุมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในหัวหินด้วย และยังเหลือการลงทุนในเฟสสุดท้าย คือ ‘วานา นาวา เรสซิเดนท์’ ที่จะเป็นคอนโดมิเนียม ขนาดราว 100-200 ห้อง ที่จะขายแบบ Free Hold คาดว่า อาจจะเปิดตัวได้ในปลายปี 2561 และจะใช้เวลาในการก่อสร้างราว 2-3 ปี
[caption id="attachment_262418" align="aligncenter" width="503"]
ดัน! หัวหิน วีกเอนด์ ฮอลิเดย์
การเปิดโรงแรมในสวนน้ำ และยังมีห้องประชุมขนาดใหญ่รวมอยู่ด้วย จะทำให้ลูกค้ามาใช้บริการสวนน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งตั้งเป้าว่า จะเพิ่มขึ้นอีกราว 1-1.5 แสนคนต่อปี จากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่มีลูกค้าใช้บริการราว 2 แสนคนต่อปี เนื่องจากเรามองว่า การมีที่พักอยู่ด้วย จะเป็นการรวมประสบการณ์ ทำให้การพักผ่อนกลายเป็นสถานที่เดียวกัน ซึ่งลูกค้าที่มาพักโรงแรมก็จะสามารถเข้ามาเที่ยวในสวนน้ำกี่ครั้งก็ได้ในระหว่างการเข้าพัก โดยเราได้นำเอาเทคโนโลยี ‘RFID’ ที่ลูกค้าจะได้รับสายรัดข้อมือ RFID ซึ่งสามารถใช้เข้าสู่สวนน้ำ เปิดประตูห้องหักโรงแรม และจ่ายค่าอาหาร ค่าบริการทั้งหมดได้
รวมทั้ง เรายังได้ดีไซน์แพ็กเกจประชุม + สวนน้ำ เราสามารถจัดพูลปาร์ตี้ในสวนน้ำ และกิจกรรมทีมบิลดิ้งภายในสวนน้ำได้ด้วย ซึ่งก็ถือว่า เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ ทำให้หัวหินกลายเป็น ‘วีกเอนด์ ฮอลิเดย์’ สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบครอบครัว จากเดิมที่มาเที่ยวแค่สวนน้ำเท่านั้น
ขณะเดียวกัน เราก็มีแผนที่จะเชื่อมโยงการให้บริการการขายของโรงแรมเข้ากับการลงทุนของบริษัทในโครงการอื่น ๆ ที่หัวหิน ได้แก่ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน, บลูพอร์ต หัวหิน และทรูอารีน่า หัวหิน เพื่อจะสร้างความแตกต่างในการมาพักที่หัวหิน และคาดว่า โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน จะมีอัตราราคาห้องพักเฉลี่ยต่อวันที่สูงกว่าคู่แข่งอย่างน้อยเกือบ 20% มีอัตราการเข้าพักอยู่ระหว่าง 60-70% ในปีแรกที่เปิดให้บริการ
ทั้งนี้ การขายในส่วนของห้องพักของโรงแรมทางเชนอินเตอร์คอนติเนนตัล (IHG) จะเป็นคนบริหาร แต่ในส่วนสวนน้ำ เรามีทีมบริหารเอง ซึ่งก็จะมีการหารือกับโรงแรมต่าง ๆ ในหัวหิน เพื่อดึงดูดให้มาใช้บริการสวนน้ำด้วย
นอกจากนี้ เรายังจะเน้นขยายฐานลูกค้าในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราเริ่มชัดเจนว่า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจากเอเชียและจีน เดินทางมาเที่ยวสวนน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนปัจจุบัน คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 50% แล้ว ที่เป็นเช่นนี้ 1.เราได้ไปทำการตลาดกับเอเยนต์ทัวร์และการไปออกบูธในต่างประเทศ 2.ตลาดหัวหินเริ่มมีนักท่องเที่ยวจากจีนและเอเชียมากขึ้น และสวนน้ำ จัดว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต้องการใช้บริการ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเอเชีย ที่มีการขยายตัวมากขึ้นและมีอายุน้อยลง
จากการเปิดบริการในส่วนของโรงแรมที่เพิ่มขึ้นมาในปีนี้ ก็จะทำให้รายได้ของบริษัทมีการเติบโตสูงขึ้นอย่างน้อยราว 20-30% จากรายได้ของบริษัทในธุรกิจต่าง ๆ ที่มีการลงทุนอยู่แล้วในหัวหิน ซึ่งในปีที่ผ่านมา มีรายได้ราวกว่า 2 พันล้านบาท
ขยายลงทุนต่อที่ภูเก็ต
จากความสำเร็จในการพัฒนามิกซ์ยูสท่องเที่ยวแนวใหม่ที่หัวหิน ทำให้เราจะเอาโมเดลนี้ไปพัฒนาในภูเก็ตต่อไป ซึ่งทางบริษัทได้ซื้อที่ดิน 50 ไร่ ใจกลางเมืองภูเก็ต จากทางเดอะมอลล์ ในการพัฒนาโครงการนี้ไว้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ ที่จะมีทั้งสวนน้ำ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ โดยจะเป็นสวนน้ำที่ใหญ่กว่าที่หัวหิน 2 เท่า คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี สำหรับสวนน้ำ หรือน่าจะพอเห็นได้ในช่วงปลายปี 2562 หรือต้นปี 2563 ซึ่งโครงการจะอยู่ติดกับโครงการบูลพอร์ต ภูเก็ต ของเดอะมอลล์
“เป้าหมายของพราว ต้องการเป็นผู้นำการท่องเที่ยวที่เป็นมิกซ์ยูส ที่มีสวนน้ำเป็นส่วนประกอบ เราจึงมองการพัฒนาโมเดลนี้ในไทย เพราะแม้ในไทยจะมีสวนน้ำเกิดขึ้นมามาก แต่ยังไม่มีใครครองตลาดนี้จริงจัง ซึ่งไม่เหมือนกับที่มาเลเซีย ที่มีโครงการซันเวย์ ลากูน สวนน้ำขนาดใหญ่เป็นเจ้าตลาดอยู่ โดยมีอยู่ 2 แห่ง มีนักท่องเที่ยวใช้บริการใน 2 สวนน้ำนี้ รวมกัน 3 ล้านคน”
[caption id="attachment_270888" align="aligncenter" width="503"]
ส่วนโครงการก่อสร้างโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต ลงทุน 2 พันล้านบาท ที่หาดกมลา พื้นที่ 22 ไร่ น่าจะเปิดปลายปีนี้หรือต้นปี 2562
รุกบริหารสวนน้ำในเอเชีย
รวมไปถึงคุณพราวยังมองภาพรวมของธุรกิจสวนน้ำในระยะยาว โดยมองขยายการรับบริหารสวนน้ำในภูมิภาคเอเชีย หลังจากไม่นานมานี้ได้ร่วมลงทุนกับบริษัท ไวท์วอเตอร์ เวสต์ แคนาดา จัดตั้งบริษัท ไวท์วอเตอร์ เซ้าท์อีสต์ เอเชีย จำกัด ในไทย สัดส่วนการถือหุ้น 51 : 49 ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท ในการให้คำแนะนำแบบครบวงจรสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนทำสวนน้ำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ปัจจุบัน ได้รับเป็นที่ปรึกษาให้แล้วใน 6 โครงการ อาทิ ในฟิลิปปินส์, เวียดนาม, มาเลเซีย, กัมพูชา, เมียนมา และมีสวนน้ำที่ระหว่างก่อสร้าง 3-4 โครงการในเอเชีย และเรามองที่จะต่อยอดการเข้าไปรับบริหารสวนน้ำในภูมิภาคนี้ด้วยนั่นเอง
……………….
สัมภาษณ์พิเศษ โดย ธนวรรณ วินัยเสถียร
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,343 วันที่ 25-28 ก.พ. 2561 หน้า 22
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● บิ๊กธุรกิจทุ่ม 3 พันล้าน! บูม “หัวหิน” | “พราว” เปิด รร.สวนน้ำ - “ไมเนอร์” ร่วมทุน - “เอ็นริช” ปักธงกลางเมือง
● 3 บิ๊กธุรกิจ! ทุ่ม 3.2 พันล้าน บูมหัวหิน - “พราวฯ” ผุด “โรงแรมสวนน้ำ”
