"ชาญชัย"จ่อฟ้อง“คิงเพาเวอร์”รอบ 2 ริบทรัพย์คืนแผ่นดินอีก 1.8 หมื่นล.

14 ก.ค. 2560 | 09:43 น.
“ชาญชัย” จ่อฟ้องศาลอาญาคดีทุจริต รอบ 2 “กลุ่มคิงเพาเวอร์-เจ้าหน้าที่ ทอท.” ร่วมกระทำผิดสัญญาแบ่งผลประโยชน์ ลดรายได้-ต่อสัญญา อ้างเหตุพันธมิตรฯ ปิดสนามบิน เพื่อริบทรัพย์คืนแผ่นดินอีกกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(14 กรกฎาคม 2560) นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านกลไกในการปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) แถลงข่าว ความคืบหน้าของกรณีการฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ คือ บริษัท ท่าอากาศไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) และบริษัทเอกชนที่เป็นคู่สัญญากับรัฐ คือ บริษัท คิงเพาเวอร์ดิวตี้ฟรี จำกัด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553

[caption id="attachment_179763" align="aligncenter" width="503"] นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์[/caption]

“คณะกรรมการบริหารการท่าฯ ในขณะนั้น ได้อนุมัติลดรายได้ตนเองจากสัญญาที่ต้องเรียกเก็บแบ่งผลประโยชน์ตั้งแต่ปีแรกถึง 5 ปี ปีละ 15% ปีที่ 6 ถึงปีที่ 10 เพิ่มปีละ 1% แต่คณะกรรมการฯได้อนุมัติการเยียวยาชดเชย และลดรายได้ เลื่อนการส่งรายได้ และต่อสัญญาให้กับผู้ประกอบการ โดยการอ้างเหตุ กลุ่มพันธมิตรปิดสนามบิน 10 วัน และเหตุเศรษฐกิจโลกตกต่ำ โดยการลดรายได้และต่อสัญญา โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบความเสียหาย และเหตุผลไม่ถูกต้องและสมควรแก่เหตุ ซึ่งต้องคำนวณได้ ห้ามมิให้นำเอาเหตุการณ์ความเสียหายที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นในอนาคตมาคำนวณเพื่อการชดเชย”นายชาญชัย กล่าวและว่า

แต่ ทอท. ได้ลดรายได้ปีที่ 6 ลง 1% บางปีลด 3% ไปตลอดอายุสัญญา และต่ออายุสัญญาให้แก่บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี โดยอ้างว่า ทอท. มีอำนาจทำได้เพราะอ้างคำพิพากษาศาลแพ่งว่า ได้จ้างเอกชนมาคำนวณว่า โครงการดังกล่าวไม่ต้องเข้า พ.ร.บ. ร่วมทุนปี 2535 เพราะจ้างเอกชน คือ บริษัท ฟินันซ่า จำกัด มาคำนวณและนำเอกสารไปอ้างต่อศาลแพ่ง และนำความดังกล่าวมาอ้างต่อสัญญามาตลอดว่า โครงการดังกล่าวไม่เกิน 1,000 ล้าน โดยขณะนี้มีหลักฐานยืนยันว่า ทอท. และบริษัทกลุ่มคิงเพาเวอร์เป็นเอกสารไม่ชอบไปแสดงต่อศาล จึงก่อให้เกิดผลเสียหายนับหมื่นล้านบาท เป็นการจงใจเจตนาเอื้อประโยชน์ให้เอกชนได้รับผลประโยชน์ตามความต้องการ และไม่ได้รักษาผลประโยชน์ของรัฐ และผู้ถือหุ้นรายย่อย

7652 ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตกันว่า เหตุใดจึงมายื่นฟ้องในเวลานี้นั้น นายชาญชัย บอกว่า ได้เคยทำหนังสือเตือน ทอท.ไปแล้วเมื่อปี 2559 ให้แก้ไข แต่ ทอท.ตอบว่า ทำไปตามมติ ครม. ซึ่งตนเองได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ครม.ไม่ได้มีมติ แต่คณะกรรมการท่าฯมีมติไปดำเนินการเองเกิดผลเสียหาย โดยศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้กลุ่มที่ปิดสนามชดใช้ค่าเสียหาย 555 ล้านบาท จึงเป็นเหตุให้เปรียบเทียบกับ ทอท.ที่อนุมัติไป เสียหายไม่น้อยกว่า 18,000 ล้านบาท จึงขอให้ศาลพิจารณารับฟ้องคดีที่ 2 เพื่อริบทรัพย์เข้าแผ่นดิน และลงโทษผู้กระทำความผิดตามกฎหมายต่อไป

“ครั้งนี้ผมยื่นฟ้องในนามผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ได้รับผลกระทบต่อการทุจริตและเสียหายต่อสาธารณะอย่างมาก เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม และให้การบังคับใช้กฎหมายได้สมดังเจตนารมณ์ในการจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตฯ เพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบให้ได้ผลประโยชน์แก่สาธารณะเป็นหลักของบ้านเมืองต่อไป” นายชาญชัย กล่าวทิ้งท้าย