เกาหลีใต้ชะลอโครงการน้ำในกัมพูชา เซ่นพิษ ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์/หลอกแรงงาน’

19 ต.ค. 2568 | 04:11 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ต.ค. 2568 | 03:43 น.

STEPI เลื่อนโครงการบริหารจัดการน้ำให้กัมพูชาไม่มีกำหนด ตอบโต้ปมวิกฤตความปลอดภัย หลังพลเมืองเกาหลีใต้ ตกเป็นเหยื่อแก๊งอาชญากรรมออนไลน์พุ่งสูง รัฐบาลส่งทีมพิเศษเจรจาฮุน มาเนต แก้วิกฤติแรงงานข้ามชาติ

ท่ามกลางกระแสความตึงเครียดทางสังคมและการทูตที่กำลังปะทุระหว่างกรุงโซลกับพนมเปญ รัฐบาลเกาหลีใต้ตัดสินใจชะลอโครงการความร่วมมือเพื่อพัฒนาการจัดการน้ำในประเทศกัมพูชาไว้ชั่วคราว หลังมีรายงานชาวเกาหลีจำนวนมากตกเป็นเหยื่อขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติที่แฝงตัวอยู่ในกัมพูชา

สถาบันนโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Science and Technology Policy Institute – STEPI) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดรัฐบาลเกาหลีใต้ ออกแถลงเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ระบุว่า โครงการดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ได้ถูกชะลอออกไปไม่มีกำหนด หลังสถานการณ์อาชญากรรมที่มุ่งเป้าชาวเกาหลีในกัมพูชาทวีความรุนแรง

โครงการนี้ถูกออกแบบให้เป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความยืดหยุ่นของชุมชนลุ่มแม่น้ำโขงต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมีประเทศในภูมิภาค เช่น กัมพูชา ไทย เวียดนาม และลาว เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างประเทศ

STEPI รับหน้าที่พัฒนาโครงการนำร่องด้านการจัดการและจัดหาน้ำ โดยใช้พลังงานหมุนเวียนร่วมกับภาคเอกชนของเกาหลีใต้ เพื่อให้เป็นต้นแบบขยายผลในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดระบุว่า พิธีการโอนโครงการให้รัฐบาลกัมพูชา ซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ได้ถูกเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด ขณะที่ STEPI จะยังคงดำเนินงานโครงการลักษณะเดียวกันในประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคต่อไป

การเลื่อนโครงการครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่เกาหลีใต้มีโครงการความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (Official Development Assistance – ODA) อยู่หลายโครงการในกัมพูชา ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ล่าสุด โดยเฉพาะหลังเกิดกรณีอาชญากรรมต่อพลเมืองเกาหลีใต้หลายรายในพื้นที่

อาชญากรรมที่มุ่งเป้าคนเกาหลีใต้ในกัมพูชาได้กลายเป็นประเด็นสังคมใหญ่ภายในประเทศ ภายหลังกรณีนักศึกษามหาวิทยาลัยรายหนึ่งเสียชีวิตจากการถูกทรมานอย่างโหดเหี้ยม โดยกลุ่มอาชญากรที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายหลอกลวงทางออนไลน์เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เหตุสะเทือนขวัญนี้ได้กระตุ้นให้รัฐบาลเกาหลีใต้ต้องขยับเชิงรุกมากขึ้นทั้งในระดับการทูตและการสืบสวน

รัฐบาลโซลได้จัดตั้งคณะทำงานพิเศษลงพื้นที่ในกัมพูชา เพื่อหารือกับนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต โดยตรงเกี่ยวกับวิกฤติ “แก๊งหลอกแรงงาน” และปัญหาการค้ามนุษย์ที่ทวีความรุนแรง ซึ่งไม่เพียงสร้างความเสียหายต่อชีวิตของชาวเกาหลีใต้ แต่ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นในความร่วมมือด้านการพัฒนาและโครงการระหว่างประเทศ

ล่าสุดมีรายงานว่าชาวเกาหลีใต้กว่า 60 คนซึ่งถูกควบคุมตัวโดยเครือข่ายอาชญากรรมในกัมพูชา ได้รับการช่วยเหลือให้เดินทางกลับประเทศแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของอาชญากรรมข้ามชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกลายเป็นแรงกดดันให้รัฐบาลเกาหลีใต้ต้องทบทวนแนวทางความร่วมมือกับกัมพูชาอย่างรอบคอบ

การชะลอโครงการน้ำครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการเลื่อนพิธีการทางเทคนิค แต่เป็นสัญญาณของความเปราะบางในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ซึ่งต้องเร่งสร้างกลไกคุ้มครองพลเมืองและสร้างความเชื่อมั่นใหม่ หากต้องการเดินหน้าความร่วมมือด้านการพัฒนาในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงต่อไปอย่างยั่งยืน