KEY
POINTS
ผู้นำประเทศชั้นนำในเวทีสหประชาชาติ ทั้งจากยุโรป ตะวันออกกลาง และอีกหลายภูมิภาค ออกมาสนับสนุนการรับรอง "รัฐปาเลสไตน์" อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางสถานการณ์สงครามในกาซาที่ดำเนินมาอย่างยาวนานเกินสองปี โดยยังไร้สัญญาณหยุดยิง
ความเคลื่อนไหวนี้สวนทางกับท่าทีของ อิสราเอล และ สหรัฐอเมริกา ที่ยืนกรานว่า "ไม่ยอมรับรัฐปาเลสไตน์" และมองว่าการรับรองดังกล่าวเป็นเพียงการแสดงออกที่ไม่ส่งผลต่อความสงบสุขในภูมิภาค
ความเคลื่อนไหวที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกนี้เริ่มจากการประชุมที่สหประชาชาติในนครนิวยอร์ก โดยประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ได้ประกาศในที่ประชุมว่าจะผลักดันการรับรองรัฐปาเลสไตน์ พร้อมทั้งระบุแผนการตั้งสถานทูตให้แล้วเสร็จ หากมีการปฏิรูป การหยุดยิง และการปล่อยตัวประกันเกิดขึ้น คำประกาศนี้ได้รับการต้อนรับอย่างกึกก้องในห้องประชุม และถูกมองว่าเป็น "จุดเปลี่ยน" ในความพยายามที่จะทำให้แนวทางสองรัฐกลับมาเป็นไปได้อีกครั้ง
ฝรั่งเศส อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย โปรตุเกส รวมถึงหลายประเทศในยุโรป เช่น ลักเซมเบิร์ก มอลตา เบลเยียม และโมนาโก เข้าร่วมสนับสนุน ขณะที่ซาอุดีอาระเบียได้ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดเวทีหารือร่วมกับฝรั่งเศส ซึ่งส่งสัญญาณถึงความพยายามทางการทูตที่กำลังเกิดขึ้นเพื่อกดดันอิสราเอลให้หยุดการโจมตีในกาซา
ทางฝั่งอิสราเอลได้ตอบโต้ด้วยการยืนยันว่าการรับรองแบบนี้จะทำลายโอกาสในการสร้างสันติภาพ โดยนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ได้ย้ำชัดเจนว่า "รัฐปาเลสไตน์" จะไม่มีวันได้รับการยอมรับ ฝ่ายทูตอิสราเอลที่ UN ได้กล่าวว่า เรื่องเหล่านี้ควรจะถูกกำหนดผ่านการเจรจาระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ในอนาคต ไม่ใช่ถูกบังคับจากแรงกดดันของนานาชาติ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางเสียงวิจารณ์ที่เพิ่มขึ้นต่อการดำเนินการทางทหารของอิสราเอลในกาซา โดยตามรายงานจากหน่วยงานสาธารณสุขท้องถิ่น มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วกว่า 65,000 คน และยังมีความเสี่ยงที่อิสราเอลจะดำเนินการผนวกบางส่วนของเวสต์แบงก์ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง อาจทำให้ความสัมพันธ์กับชาติอาหรับที่เคยทำข้อตกลงสันติภาพกับอิสราเอลเกิดความตึงเครียด เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
แม้ว่าการเคลื่อนไหวเพื่อการรับรองจะมีการขยายตัว แต่ก็ยังมีเสียงคัดค้านจากประเทศเศรษฐกิจหลักในยุโรป เช่น เยอรมนีและอิตาลี ที่มองว่าการรับรองในเวลานี้อาจ “สร้างผลกระทบในทางลบมากกว่าดี” โดยเยอรมนีเน้นย้ำว่าต้องไม่มีการผนวกดินแดนเพิ่มเติม และการรับรองควรจะเกิดขึ้นควบคู่กับการเจรจาสองรัฐที่มีความเป็นรูปธรรม ขณะที่อิตาลีเตือนว่าการเคลื่อนไหวนี้อาจทำให้สันติภาพถอยหลัง
ในทางฝั่งปาเลสไตน์ ประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ได้กล่าวผ่านวิดีโอลิงก์เพื่อเรียกร้องให้ประเทศสมาชิก UN ที่ยังลังเลหันมาสนับสนุน พร้อมให้สัญญาว่าจะจัดการปฏิรูปและการเลือกตั้งภายในหนึ่งปีหลังจากการหยุดยิง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือในการเป็นตัวแทนของประชาชน
ปัจจุบันมีประเทศมากกว่า 150 ประเทศจากทั้งหมด 193 ชาติสมาชิก UN ที่ได้แสดงการรับรองรัฐปาเลสไตน์ แต่ปัญหาหลักยังคงอยู่ที่การขอเก้าอี้เต็มตัวในสหประชาชาติ ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติจากมติคณะมนตรีความมั่นคง และสหรัฐอเมริกาในฐานะพันธมิตรหลักของอิสราเอลมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธได้ทุกเมื่อ