KEY
POINTS
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (19 ก.ย.) และปิดเพิ่มขึ้นในรอบสัปดาห์นี้
โดยได้รับแรงหนุนจากราคาหุ้น FedEx ที่ปรับตัวขึ้นหลังรายงานผลประกอบการออกมาดีกว่าคาด
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 1.05%, ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 1.2% และดัชนี Nasdaq บวก 2.2%
ดัชนีหลักทั้ง 3 ตัวของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังอยู่ในแดนบวกในเดือนก.ย.นี้ ซึ่งตามปกติถือว่าเป็นเดือนที่ไม่ดีต่อหุ้นสหรัฐฯ โดยนับตั้งแต่ปี 2543 ดัชนี S&P500 มีค่าเฉลี่ยร่วงลง 1.4% ในเดือนก.ย. ตามข้อมูลของ LSEG
หุ้น FedEx พุ่งขึ้น 2.1% หลังรายงานกำไรและรายได้รายไตรมาสสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ เนื่องจากมาตรการลดต้นทุนและความแข็งแกร่งในการจัดส่งพัสดุภายในประเทศช่วยชดเชยปริมาณการจัดส่งระหว่างประเทศที่ชะลอตัวลง
หุ้น Apple พุ่งขึ้น 3.2% หลัง J.P. Morgan ปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย ขณะที่
หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงมากที่สุด
ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ทำสถิติปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สาม โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในปี 2568 และส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นในการซื้อขายหุ้นที่เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก็มีส่วนช่วยหนุนตลาดด้วย
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน สนทนาทางโทรศัพท์กันในวันศุกร์ หลังจากนั้นทรัมป์กล่าวว่า ผู้นำทั้งสองมีความคืบหน้าในการเจรจาเกี่ยวกับติ๊กต๊อก (TikTok) และตกลงที่จะพบปะกันแบบตัวต่อตัวภายในเดือนหน้าที่ประเทศเกาหลีใต้
ด้านวุฒิสภาสหรัฐฯ คว่ำร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้นในวันศุกร์ ทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะมีการปิดหน่วยงานรัฐบาล
สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวอื่น ๆ นั้น หุ้น Lennar ร่วงลง 4.2% หลังบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายนี้รายงานกำไรไตรมาส 3 ลดลง และคาดการณ์การส่งมอบบ้านในไตรมาส 4 ต่ำกว่าที่ประเมินไว้