KEY
POINTS
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (16 ก.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันนี้
นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันนี้ (17 ก.ย. ) เพื่อพยุงตลาดแรงงานที่อ่อนแอลงอย่างมาก
ส่วนข้อมูลที่มีการเปิดเผยล่าสุดบ่งชี้ว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนส.ค. แต่ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้ทำให้นักลงทุนเปลี่ยนแปลงความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากนัก
อย่างไรก็ดี นักกลยุทธ์การลงทุนจากบริษัท Private Wealth Management กล่าวว่า ข้อมูลใด ๆ ที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะยิ่งตอกย้ำมุมมองของกรรมการเฟดสายเหยี่ยวในคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) และอาจจะทำให้เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด แสดงความเห็นในเชิงสนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงิน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ค. ส่วนเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 5.0% ในเดือนส.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 4.1% ในเดือนก.ค.
นักลงทุนแทบไม่ได้ให้ความสนใจกับข่าวที่ว่า วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้อนุมัติให้สตีเฟน มิแรน ที่ปรึกษาเศรษฐกิจทำเนียบขาว เข้าดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟด แทนเอเดรียนา คูเกลอร์ที่ประกาศลาออกก่อนครบวาระ รวมทั้งข่าวที่ว่าศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ ปฏิเสธคำร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะปลดลิซา คุก ออกจากตำแหน่งสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟด
นอกเหนือจากการประชุมเฟดแล้ว นักลงทุนยังติดตามความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศสเปน โดยล่าสุด สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าสหรัฐฯ จะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับจีน
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนสูงถึง 145% แต่ได้ถูกระงับไว้เนื่องจากการเจรจายังคงดำเนินต่อไป โดยการพักรบชั่วคราวมีกำหนดสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 12 ส.ค. แต่ปธน.ทรัมป์ได้ขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 10 พ.ย.