กัมพูชา เสริมกำลังแนวชายแดน-กองทัพบก ชี้แจงกิจกรรมปั่นจักรยานปราสาทตาเมือนธม

22 มิ.ย. 2568 | 12:22 น.
อัปเดตล่าสุด :22 มิ.ย. 2568 | 12:26 น.

โฆษกกองทัพบก เผยกัมพูชา เพิ่มกำลังทหารและยุทโธปกรณ์บริเวณแนวชายแดนหลายจุด เป็นเหตุให้ต้องปิดจุดผ่านแดนช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์ ส่วนกิจกรรมปั่นจักรยานไปปราสาทตาเมือนธม ยืนยันว่าประสานตามขั้นตอนแล้ว และไม่มีการละเมิดข้อตกลงใดๆ

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณี การปิดจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์ ว่าเป็นมาตรการที่หน่วยทหารในพื้นที่ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วว่า มีความจำเป็นต้องดำเนินการ โดยอาศัยการประเมินภาพรวมของสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่ รวมถึงยังคงพบท่าทีของทหารฝ่ายกัมพูชา ในการเพิ่มกำลังทหารและยุทโธปกรณ์บริเวณแนวชายแดน หลายจุด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยรอบ

 

ส่วนข้อเท็จจริง กรณีกิจกรรมนักปั่นจักรยานเยี่ยมชมพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกแถลงการณ์แสดงความกังวล โดยอ้างว่าคณะนักปั่นไทยเข้าไปก่อนเวลาเปิดทำการ โดยไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้า

กัมพูชา เสริมกำลังแนวชายแดน-กองทัพบก ชี้แจงกิจกรรมปั่นจักรยานปราสาทตาเมือนธม

โฆษกกองทัพบก ชี้แจงประเด็นนี้ว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ จัดโดยสำนักการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ภายใต้ชื่อว่า “ปั่น 2 ปราสาท สัมผัสทุเรียนเมืองช้าง @พนมดงรัก 2025” ซึ่งในช่วงเช้าของวันที่ 22 มิถุนายน 2568 เวลา ประมาณ 07.30 น. คณะนักปั่นจักรยานประมาณ 150 คน ได้ออกเดินทางจากตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก มุ่งหน้าสู่บริเวณปราสาทตาเมือนธม และมีการแวะเยี่ยมชมสถานที่ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามแผนกิจกรรมที่ได้วางไว้

ทั้งนี้ ในวันที่ 21 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันก่อนหน้ากิจกรรม ได้มีการประสานล่วงหน้าโดยชุดประสานงานปราสาทตาเมือนธมของฝ่ายไทย ไปยังชุดประสานงานของฝ่ายกัมพูชาแล้วว่า จะมีกิจกรรมปั่นจักรยานเข้ามาในช่วงเช้า ซึ่งในระหว่างการจัดกิจกรรม ฝ่ายกัมพูชาได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดประสานงานเข้ามาสังเกตการณ์ที่บริเวณปราสาทตามปกติ และเมื่อเสร็จสิ้นการเยี่ยมชมบริเวณปราสาทตาเมือนธมแล้ว คณะนักปั่นฯ ได้เดินทางต่อไปยังปราสาทตาควายตามกำหนดการ และตลอดระยะเวลาดังกล่าว ไม่ปรากฏว่าฝ่ายกัมพูชามีการคัดค้าน หรือแสดงความไม่พอใจ แต่อย่างใด

     

โฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า ปราสาทตาเมือนธม ตั้งอยู่ในเขตราชอาณาจักรไทย และกรณีดังกล่าวได้มีการประสานงานของเจ้าหน้าที่ตามขั้นตอน และไม่มีการละเมิดข้อตกลงใด ๆ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า อาจเกิดจากความคลาดเคลื่อนในการสื่อสารภายในระหว่างหน่วยงานทหารของกัมพูชากับรัฐบาลกลางของตนเอง จนนำไปสู่ความเข้าใจคลาดเคลื่อนในเหตุการณ์นี้