นายเฟรเดอริก ดับเบิลยู. สมิธ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารของ FedEx คอร์ปอเรชั่น เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ด้วยวัย 80 ปี ตามที่นายราช ซูบราแมเนียม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปัจจุบันของบริษัท ประกาศในบันทึกข้อความถึงพนักงานทั่วโลก
จากแนวคิดในห้องเรียนสู่ยักษ์ใหญ่โลจิสติกส์
นายสมิธ เกิดเมื่อปี 1944 ที่รัฐมิสซิสซิปปี สหรัฐอเมริกา ได้คิดแนวคิดการส่งสินค้าแบบใหม่ขณะเป็นนักศึกษาปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเยล หลังจากรับใช้ในกองทัพนาวิกโยธินสหรัฐฯ และเข้าร่วมสงครามเวียดนาม เขาได้ก่อตั้งบริษัท เฟดเดอรัล เอ็กซ์เพรส (ปัจจุบันคือ FedEx) เมื่อปี 1971 และเริ่มดำเนินการจริงเมื่อปี 1973
ในช่วงเริ่มต้น บริษัทมีเครื่องบินเพียง 14 ลำ พนักงาน 389 คน และให้บริการขนส่งพัสดุเพียง 186 ชิ้นจากเมืองเมมฟิส ไปยัง 25 เมืองในสหรัฐอเมริกา
การเติบโตสู่จักรวรรดิโลจิสติกส์
ปัจจุบัน FedEx ได้เติบโตเป็นบริษัทขนส่งและโลจิสติกส์ชั้นนำของโลก มีฟลีตเครื่องบินกว่า 700 ลำ ยานพาหนะกว่า 200,000 คัน และสิ่งอำนวยความสะดวกการปฏิบัติการกว่า 5,000 แห่งทั่วโลก
บริษัทมีพนักงานมากกว่า 500,000 คนทั่วโลก จัดการการส่งสินค้าหลายล้านชิ้นต่อวัน และมีรายได้ประจำปีประมาณ 88 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นวัตกรรมที่เปลี่ยนโลก
นายสมิธ เป็นผู้บุกเบิกระบบ "ฮับแอนด์สโปค" (Hub-and-Spoke) ในการขนส่ง ที่รวบรวมสินค้าจากหลายพื้นที่มาที่จุดศูนย์กลาง แล้วกระจายไปยังปลายทางต่างๆ รวมถึงการพัฒนาระบบติดตามสินค้าแบบเรียลไทม์ ซึ่งกลายเป็นมาตรฐานของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์สมัยใหม่
เทคโนโลยีเหล่านี้ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการทำธุรกิจออนไลน์และการค้าระหว่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ FedEx มีบทบาทสำคัญในการขนส่งวัคซีนและเวชภัณฑ์
นายสมิธ ได้ลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารเมื่อเดือนมิถุนายน 2022 และส่งต่อหน้าที่ให้กับนายซูบราแมเนียม ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของบริษัท โดยตนเองยังคงรับตำแหน่งประธานกรรมการบริหารต่อไป
"เฟรดไม่เพียงแต่เป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมและผู้ก่อตั้งบริษัทที่ยิ่งใหญ่ของเรา เขาคือหัวใจและจิตวิญญาณของ FedEx เป็นพี่เลี้ยงของหลายคนและเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคน" นายซูบราแมเนียม กล่าวในบันทึกข้อความ
ผลกระทบต่อตลาดการเงิน
การเสียชีวิตของนายสมิธ คาดว่าจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะสั้น แม้ว่าบริษัทจะมีโครงสร้างการบริหารงานที่มั่นคงและแผนการสืบทอดงานที่ชัดเจนแล้วก็ตาม
FedEx ยังคงเป็นหนึ่งในบริษัทขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีการเติบโตของการค้าออนไลน์อย่างรวดเร็ว
สำหรับประเทศไทย FedEx มีบทบาทสำคัญในการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม รวมถึงการสนับสนุนธุรกิจ SME ที่ต้องการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ
ข้อมูลอ้างอิง: รอยเตอร์