อิสราเอลกำลังเผชิญกับการทดสอบครั้งสำคัญของระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ได้รับการยกย่องว่าทันสมัยที่สุดในโลก หลังจากอิหร่านปล่อยโดรนและขีปนาวุธโจมตีข้ามคืน
ระบบป้องกันหลายชั้นของอิสราเอล ซึ่งประกอบด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง 3 ระบบหลัก ได้แสดงให้เห็นทั้งจุดแข็งและข้อจำกัดในการรับมือกับการโจมตีครั้งนี้
ระบบ Iron Dome หรือ "เหล็กโดม" มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด สามารถสกัดกั้นเป้าหมายในระยะทาง 70 กิโลเมตร และความสูงไม่เกิน 10 กิโลเมตร ด้วยหัวรบระเบิดแบบ blast-fragmentation ที่ออกแบบมาเพื่อทำลายเป้าหมายโดยเฉพาะ
Iron Dome สามารถในการติดตามเป้าหมายได้ถึง 1,100 เป้าหมายพร้อมกัน และอิสราเอลอ้างว่ามีอัตราความสำเร็จสูงถึง 90% ในการสกัดกั้นขีปนาวุธระยะสั้น
David's Sling หรือ "สายสลิงของดาวิด" เป็นระบบป้องกันชั้นที่สองที่รับผิดชอบสกัดกั้นขีปนาวุธขนาดใหญ่ ขีปนาวุธนำวิถี และขีปนาวุธครูซในระยะทางสูงสุด 300 กิโลเมตร
ความพิเศษของระบบนี้คือการใช้ขีปนาวุธสกัดกั้นยาว 4.6 เมตร ที่ไม่มีหัวรบระเบิด แต่ทำลายเป้าหมายด้วยการชนโดยตรง - เทคนิคที่เรียกว่า "hit-to-kill" ซึ่งต้องการความแม่นยำสูงมาก
ระบบ Arrow หรือ "ลูกศรแห่งความหวัง" เป็นระบบหลักสุดท้ายในการป้องกันขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ แบ่งเป็น 2 รุ่น
Arrow 2 สามารถสกัดกั้นเป้าหมายในระยะ 100 กิโลเมตร ด้วยหัวรบแบบกระจาย
ส่วน Arrow 3 เป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สามารถสกัดกั้นขีปนาวุธข้ามทวีปในอวกาศ ก่อนที่จะเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ ด้วยระยะทางสูงสุดถึง 2,400 กิโลเมตร
แม้จะมีระบบป้องกันที่ซับซ้อนและทันสมัย แต่การโจมตีข้ามคืนของอิหร่านยังคงสร้างความเสียหายอาคารหลายแห่งถูกโจมตีโดยตรง มีทั้งผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก