LA ตึงเครียด ทรัมป์ส่งนาวิกฯ 700 นาย หนุนจับผู้ว่าฯ แคลิฟอร์เนีย

10 มิ.ย. 2568 | 00:18 น.
อัปเดตล่าสุด :10 มิ.ย. 2568 | 00:33 น.

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งระดมนาวิกโยธิน 700 นายเข้าประจำการ พร้อมหนุนข้อเสนอให้จับกุมผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียที่ออกมาต้านคำสั่งส่งกำลัง National Guard

กองทัพสหรัฐฯ เตรียมส่งนาวิกโยธินราว 700 นายไปยังลอสแอนเจลิสเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการระดมกำลังจากหน่วยพิทักษ์แห่งชาติ (National Guard) เพิ่มเติม ถือเป็นการยกระดับมาตรการตอบโต้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อการประท้วงตามท้องถนนซึ่งปะทุขึ้นจากนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวด

กองบัญชาการเหนือของสหรัฐฯ (U.S. Northern Command) ระบุว่า จะส่งกำลังหนึ่งกองพันเพื่อปกป้องทรัพย์สินของรัฐบาลกลางและเจ้าหน้าที่ของรัฐ จนกว่าหน่วยพิทักษ์แห่งชาติชุดอื่นจะเดินทางมาถึง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลทรัมป์ยังไม่ประกาศใช้ กฎหมายการจลาจล (Insurrection Act) ซึ่งจะเปิดทางให้ทหารมีอำนาจเข้าร่วมในการบังคับใช้กฎหมายพลเรือนโดยตรง 

สถานการณ์ตึงเครียดรุนเเรงขึ้นนับตั้งแต่ทรัมป์สั่งระดมกำลัง National Guard เมื่อวันเสาร์ ซึ่งพรรคเดโมแครตมองว่าเป็นการยั่วยุโดยไม่จำเป็น หลังเกิดเหตุประท้วงจากการบุกตรวจคนเข้าเมืองในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ นี่ถือเป็นจุดเดือดใหญ่ที่สุดในความพยายามของรัฐบาลทรัมป์ในการเนรเทศผู้อพยพที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ โดยผิดกฎหมาย

ทรัมป์กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องสั่งระดมกำลังเพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ความรุนแรงลุกลามไปมากกว่านี้ เขายังสนับสนุนข้อเสนอของเจ้าหน้าที่ชายแดนที่แนะให้จับกุม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย แกวิน นิวซัม หลังจากที่นิวซัมจากพรรคเดโมแครตประกาศฟ้องรัฐบาลกลางเพื่อขัดขวางการส่งกำลัง National Guard

รัฐบาลทรัมป์ให้เหตุผลว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ปล่อยให้ผู้อพยพจำนวนมากเกินควรเข้าประเทศ และเมืองใหญ่ที่บริหารโดยเดโมแครต เช่น ลอสแอนเจลิส ก็ก้าวก่ายภารกิจเนรเทศของรัฐบาลกลางโดยไม่เหมาะสม

การชุมนุมยังดำเนินต่อเนื่องทุกวัน

ตั้งแต่วันศุกร์ มีการปะทะระหว่างนักเคลื่อนไหวกับเจ้าหน้าที่นายอำเภอ ในวันจันทร์ ผู้ประท้วงหลายร้อยคนรวมตัวกันหน้าศูนย์กักตัวในดาวน์ทาวน์ที่มีผู้อพยพถูกควบคุมตัว รวมถึงอีกจุดหนึ่ง โดยมีเจ้าหน้าที่จำนวนมากตรึงกำลังรอบพื้นที่ ผู้ประท้วงถือป้ายต่อต้านรัฐบาลทรัมป์ ขณะวงดนตรีบรรเลงเพลงเม็กซิกัน

การชุมนุมเพิ่มเติมถูกวางแผนในเมืองใหญ่อีกหลายแห่ง เช่น แอตแลนตา บอสตัน ชิคาโก นิวยอร์กซิตี้ และซานฟรานซิสโก ประเด็นคือการใช้กำลังทหาร ทั้ง National Guard และนาวิกโยธิน ซึ่งพรรครีพับลิกันบางรายสนับสนุนว่าจำเป็น ขณะที่พรรคเดโมแครตมองว่าเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต

นาวิกโยธินสหรัฐฯ เคยถูกใช้ในประเทศในกรณีภัยพิบัติใหญ่

เช่น พายุเฮอร์ริเคนคาทรีนา และเหตุการณ์ 9/11 โดยทั่วไปแล้วพวกเขามักเป็นผู้ไปถึงก่อนและออกทีหลังในภารกิจแทรกแซงต่างประเทศ แต่แทบไม่เคยถูกนำมาใช้กับงานบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศ

ทรัมป์สามารถสั่งระดมนาวิกโยธินได้ภายใต้กฎหมายบางฉบับ

หรือในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด แต่หากไม่ได้ประกาศใช้กฎหมายการจลาจล การดำเนินงานของนาวิกโยธินและ National Guard จะยังอยู่ภายใต้ข้อจำกัดทางกฎหมายที่ไม่อนุญาตให้ทหารบังคับใช้กฎหมายพลเรือนโดยตรง และมักจำกัดภารกิจอยู่เพียงการปกป้องทรัพย์สินและเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลาง

ครั้งสุดท้ายที่มีการใช้กฎหมายการจลาจลเพื่อให้ทหารเข้าร่วมภารกิจตำรวจโดยตรง คือในปี 1992 เมื่อผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียในขณะนั้นร้องขอให้ประธานาธิบดีจอร์จ เอช.ดับเบิลยู. บุช ส่งทหารเข้าช่วยเหลือระหว่างเหตุจลาจลในลอสแอนเจลิสหลังคำตัดสินยกฟ้องตำรวจที่ทำร้ายร่างกายร็อดนีย์ คิง ชาวผิวดำ

แม้จะเป็นเพียงบทบาทสนับสนุน แต่การใช้นาวิกโยธินในภารกิจด้านตำรวจ ย่อมกระตุ้นให้พรรคเดโมแครตคัดค้านหนักขึ้น โดยพวกเขากล่าวหาทรัมป์ว่ายกระดับความตึงเครียดในลอสแอนเจลิสโดยไม่จำเป็น สำนักงานของนิวซัมโพสต์ข้อความผ่าน X

การยกระดับสถานการณ์นี้ไม่สมเหตุสมผล ไม่จำเป็น และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน 

ร็อบ บอนตา อัยการสูงสุดรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุในแถลงการณ์ว่า สำนักงานได้ยื่นฟ้อง อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ไม่สามารถยืนยันได้ในทันทีว่ามีการยื่นฟ้องแล้วจริงหรือไม่

รัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวหาว่าทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขตตามกฎหมาย และร้องขอให้ศาลประกาศว่าการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมาย

ขณะเดินทางกลับทำเนียบขาวในวันจันทร์หลังค้างคืนที่แคมป์เดวิด ทรัมป์ถูกผู้สื่อข่าวถามว่า เจ้าหน้าที่ชายแดน ทอม โฮแมน ควรจับกุมนิวซัมหรือไม่ โฮแมนเคยขู่ว่าจะจับกุมทุกคนที่ขัดขวางการปฏิบัติการด้านคนเข้าเมือง รวมถึงผู้ว่าการรัฐ

ถ้าผมเป็นทอม ผมก็จะทำ ผมคิดว่ามันเยี่ยมมาก 

ทำเนียบขาวและสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสให้เหตุผลว่า การประท้วงครั้งนี้เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่สภาควรผ่านร่างกฎหมาย “One Big Beautiful Bill” ของทรัมป์ ที่จะเพิ่มงบความมั่นคงชายแดนและงบกองทัพ ร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณาในวุฒิสภา จะลดภาษี ลดสวัสดิการ Medicaid และยกเลิกนโยบายพลังงานสะอาด

มาตรการคุ้มกัน

กองบัญชาการเหนือของสหรัฐฯ ระบุว่า มีสมาชิก National Guard ราว 300 นายจากรัฐแคลิฟอร์เนียถูกส่งไปยัง 3 จุดในพื้นที่ลอสแอนเจลิส กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) ระบุว่าภารกิจของหน่วยพิทักษ์ฯ คือการปกป้องอาคารของรัฐบาลกลาง

ในวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำตามทางแยกรอบอาคารรัฐบาลกลาง Edward R. Roybal ซึ่งเป็นสถานที่คุมตัวผู้อพยพจำนวนมากหลังปฏิบัติการของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร หรือ ICE ในหลายย่านของลอสแอนเจลิส โดยมีทหาร National Guard บางส่วนยืนประจำที่ประตูทางเข้ายานพาหนะของศูนย์กักกัน

บนผนังและหน้าต่างของอาคารรัฐบาลกลางเต็มไปด้วยกราฟฟิตีต่อต้าน ICE และเจ้าหน้าที่กำลังพยายามลบข้อความเหล่านั้นออกด้วยสีทาทับ

ผู้ประท้วงหลายร้อยคนรวมตัวกันใกล้ศาลาว่าการนครลอสแอนเจลิสเพื่อสนับสนุนเดวิด ฮูเอร์ตา ผู้นำสหภาพแรงงานที่ถูกควบคุมตัว พร้อมชูป้ายเรียกร้องให้ปล่อยตัวฮูเอร์ตา และตะโกนเป็นภาษาสเปนว่า “พวกเราคือเดวิด ฮูเอร์ตาทุกคน”

ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายให้ได้มากเป็นประวัติการณ์ และควบคุมพรมแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกอย่างเข้มงวด โดยตั้งเป้าการจับกุมผู้อพยพโดย ICE ให้ได้อย่างน้อย 3,000 คนต่อวัน