"World Expo 2025" งานแสดงนิทรรศการระดับโลก คืออะไร จัดที่ไหน สำคัญอย่างไร จัดวันไหน ถึงวันไหน และในงานมีไฮไลท์สำคัญอะไรบ้าง?
ล้วนเป็นคำถามที่ "ฐานเศรษฐกิจ" รวบรวมหาข้อมูลมาให้ เพื่อทำความรู้จักนิทรรศการระดับโลกครั้งนี้
ข้อมูลจากเว็บไซต์ www.expo2025.or.jp ซึ่งเป็นข้อมูลกลางอย่างเป็นทางการของงาน "World Expo 2025" หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า "EXPO 2025 Osaka, Kansai, Japan" ระบุว่า เป็นงานนิทรรศการระดับโลกที่จัดขึ้นภายใต้การกำกับขององค์การนิทรรศการนานาชาติ (Bureau International des Expositions - BIE) ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น นับเป็นการกลับมาจัดอีกครั้งของเมืองที่เคยเป็นเจ้าภาพถึงสองครั้งในอดีต
World Expo หรือ นิทรรศการโลก เป็นงานแสดงนิทรรศการระดับนานาชาติขนาดใหญ่ที่จัดขึ้นทุก 5 ปี โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้นำเสนอความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม ศิลปวัฒนธรรม และวิสัยทัศน์ในการพัฒนาสังคม World Expo มีประวัติศาสตร์อันยาวนานย้อนกลับไปถึงปี ค.ศ. 1851 เมื่อมีการจัดงาน "The Great Exhibition" ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นครั้งแรก
สำหรับ World Expo 2025 จะเป็นนิทรรศการโลกครั้งที่ 3 ที่จัดขึ้นที่เมืองโอซากา หลังจากเคยจัดมาแล้วในปี ค.ศ. 1970 และ 1990 โดยการจัดงานในปี 1970 มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากเป็นการจัดงาน World Expo ครั้งแรกในทวีปเอเชีย และสร้างสถิติมีผู้เข้าร่วมชมมากกว่า 60 ล้านคน สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จอย่างล้นหลามของงานในครั้งนั้น
ในครั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าเยี่ยมชมงานประมาณ 28 ล้านคนตลอดระยะเวลา 6 เดือนของการจัดงาน ซึ่งแม้จะน้อยกว่าครั้งแรกที่จัดในปี 1970 แต่ก็ยังถือว่าเป็นจำนวนที่มากและสะท้อนถึงความสนใจของผู้คนทั่วโลกที่มีต่องานนี้
การแข่งขันเพื่อเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Expo 2025 มีความเข้มข้นอย่างมาก โดยมีเมืองที่ยื่นขอเป็นเจ้าภาพถึง 4 เมือง ได้แก่ 1.บากู (ประเทศอาเซอร์ไบจาน) 2.โอซากา (ประเทศญี่ปุ่น) 3.เยคาเตรินบุร์ก (ประเทศรัสเซีย) และ 4.ปารีส (ประเทศฝรั่งเศส) - ถอนตัวในภายหลังเนื่องจากภาระงบประมาณ
การลงคะแนนของสมัชชาใหญ่องค์การนิทรรศการนานาชาติเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2018 มีผลให้โอซากาได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพด้วยคะแนน 85 เสียง ขณะที่เยคาเตรินบุร์กได้รับคะแนน 48 เสียง และบากูได้รับคะแนน 23 เสียง
ความสำเร็จของโอซากาในการได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพนั้นมาจากหลายปัจจัย ทั้งความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ประสบการณ์ในการจัดงานระดับโลกมาก่อน และแนวคิดการจัดงานที่มีความโดดเด่นและตอบโจทย์ความท้าทายของโลกในปัจจุบัน
World Expo 2025 จะจัดขึ้นที่ "เกาะยูเมะชิมะ" (Yumeshima Island) หรือ "เกาะแห่งความฝัน" ซึ่งเป็นเกาะเทียมที่สร้างขึ้นจากการถมทะเลบริเวณปากแม่น้ำโยโดะในอ่าวโอซากา ประเทศญี่ปุ่น
เกาะยูเมะชิมะมีความพิเศษตรงที่เป็นโครงการพัฒนาพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เกิดจากวิสัยทัศน์ด้านการวางผังเมืองของญี่ปุ่น การเลือกใช้พื้นที่นี้เป็นสถานที่จัดงานยังช่วยกระตุ้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจในพื้นที่ได้อีกด้วย
พื้นที่จัดงานทั้งหมดมีขนาดประมาณ 155 เฮกเตอร์ หรือ ประมาณ 970 ไร่ และตั้งอยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง Universal Studios Japan และ Osaka Aquarium ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนเที่ยวได้หลากหลายในพื้นที่ใกล้เคียง
การพัฒนาพื้นที่จัดงานมีงบประมาณในการก่อสร้างและเตรียมการจัดงานประมาณ 2.35 แสนล้านเยน (ประมาณ 57,000 ล้านบาท) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทของประเทศญี่ปุ่นในการเป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งนี้
งาน World Expo 2025 มีกำหนดการจัดงานดังนี้:
ช่วงเวลาดังกล่าวครอบคลุมฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นช่วงที่มีอากาศเหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวและจัดกิจกรรมกลางแจ้ง นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความงดงามของธรรมชาติญี่ปุ่นในหลากหลายช่วงเวลา ตั้งแต่ดอกซากุระบานในช่วงเริ่มต้นงาน ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงปลายของการจัดงาน
ธีมหลักของการจัดงาน World Expo 2025 คือ "ออกแบบสังคมอนาคต เพื่อชีวิตคนเรา" (Designing Future Society for Our Lives) ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจของผู้จัดงานที่ต้องการให้งานนี้เป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาสังคมในอนาคตที่ยั่งยืนและเอื้อต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของมนุษย์
ธีมหลักถูกแบ่งออกเป็น 3 แนวคิดย่อย ซึ่งครอบคลุมประเด็นสำคัญที่ท้าทายสังคมโลกในปัจจุบัน
1. Saving Lives - การปกป้องชีวิตของผู้คน
2. Empowering Lives - การพัฒนาคุณภาพชีวิต
3.Connecting Lives - ส่งเสริมความเข้าใจในความแตกต่างของวัฒนธรรม
งานนี้จะเป็นการรวมตัวของเทคโนโลยีล้ำสมัย นวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และความคิดสร้างสรรค์จากหลากหลายสาขาเพื่อร่วมกันออกแบบสังคมในอนาคตที่มีความยั่งยืนและเอื้อต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของมนุษย์
World Expo 2025 ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากประเทศและองค์กรระหว่างประเทศทั่วโลก มีการยืนยันการเข้าร่วมจัดแสดงจากกว่า 150 ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของงานนี้ในเวทีโลก
ประเทศที่จะมีศาลาของตนเอง (National Pavilion) ในงานมีมากกว่า 35 ประเทศ ได้แก่
นอกจากนี้ยังมีศาลากลุ่มประเทศนอร์ดิก ซึ่งประกอบด้วย เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ไอซ์แลนด์, นอร์เวย์ และสวีเดน
องค์กรระหว่างประเทศที่เข้าร่วมจัดแสดงในงาน มีดังนี้
อย่างไรก็ตาม มีบางประเทศที่ได้ประกาศถอนตัวจากการเข้าร่วมงาน ได้แก่ เอสโตเนีย, เม็กซิโก และรัสเซีย โดยเฉพาะรัสเซียซึ่งเคยเป็นหนึ่งในผู้แข่งขันเพื่อเป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งนี้
การจัดแสดงใน World Expo 2025 จะมีความหลากหลายและน่าตื่นตาตื่นใจ ประกอบด้วย
1. ศาลาประจำชาติ (National Pavilions) - แต่ละประเทศจะมีพื้นที่จัดแสดงเป็นของตัวเอง นำเสนอวัฒนธรรม เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่โดดเด่นของประเทศ ศาลาเหล่านี้มักมีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และสะท้อนอัตลักษณ์ของประเทศนั้นๆ
2. ศาลาธีมหลัก (Thematic Pavilions) - เป็นพื้นที่จัดแสดงตามธีมย่อยของงาน ได้แก่ Saving Lives, Empowering Lives และ Connecting Lives โดยจะนำเสนอแนวคิดและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับธีมเหล่านั้น
3. เวทีกิจกรรมและการแสดง (Event Stages) - จะมีการจัดกิจกรรมและการแสดงมากมายตลอดระยะเวลา 6 เดือนของการจัดงาน ทั้งการแสดงทางวัฒนธรรม คอนเสิร์ต และการเสวนาทางวิชาการ
4. พื้นที่นวัตกรรม (Innovation Areas) - เป็นพื้นที่ที่จัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัยจากทั่วโลก เช่น ยานพาหนะไร้คนขับ, หุ่นยนต์, พลังงานทดแทน และเทคโนโลยีการแพทย์สมัยใหม่
5. พื้นที่อาหารและเครื่องดื่ม (Food and Beverage Areas) - นำเสนออาหารและเครื่องดื่มจากทั่วโลก รวมถึงอาหารท้องถิ่นของโอซากาซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น "ครัวของชาติ" ในประเทศญี่ปุ่น
6. วันประจำชาติและวันพิเศษ (National Days and Special Days) - แต่ละประเทศที่เข้าร่วมจะมีวันพิเศษของตนเองในงาน โดยจะมีการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองวัฒนธรรมและความสำเร็จของประเทศนั้นๆ
ไฮไลท์ที่คาดว่าจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษใน World Expo 2025 ได้แก่
ราคาตั๋วเข้าชมงาน World Expo 2025 มีหลายระดับ ดังนี้
การเตรียมความพร้อมในการซื้อตั๋วล่วงหน้ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าชมงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดและเทศกาลสำคัญของญี่ปุ่น
สำหรับ "การเดินทางไปยังงาน World Expo 2025" เกาะยูเมะชิมะ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน World Expo 2025 ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองโอซากา ทำให้มีความสะดวกในการเดินทาง มีวิธีการเดินทางไปยังงานดังนี้
การเยี่ยมชมงาน World Expo 2025 ยังเป็นโอกาสดีในการท่องเที่ยวและสำรวจภูมิภาคคันไซ ซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในภูมิภาคคันไซ มีดังนี้
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาทีจากโอซากา
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45-60 นาทีจากโอซากา
สำหรับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ World Expo 2025 สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ทางการของงาน www.expo2025.or.jp/en