“ปานปรีย์”เผยข่าวดี “ฟรีวีซ่าญี่ปุ่น” ไร้ปัญหา คนไทยไปได้ถึง มิ.ย. 68
“ปานปรีย์” คุยทูตญี่ปุ่นแล้ว เผย "ฟรีวีซ่า" ไร้ปัญหา คนไทยไปได้ถึงมิถุนายน 2568 จึงจะมีการพิจารณาทบทวนอีกครั้ง ระหว่างนี้ วอนคนไทยส่วนน้อยอย่าทำผิดกฎหมาย
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าววันนี้ (9 เม.ย.) ถึงกรณีที่มีข่าวว่า ญี่ปุ่น อาจ ยกเลิกฟรีวีซ่าให้คนไทย หากจำนวน “ผีน้อย” หรือ คนไทยที่ลักลอบอยู่ในญี่ปุ่นเกินวีซ่ายังคงเพิ่มขึ้น ขอชี้แจงว่า หลังมีข่าวดังกล่าว ได้เชิญเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยมาพูดคุย ซึ่งยอมรับว่ามีคนไทยบางส่วน แต่อาจจะเป็นจำนวนไม่มาก ที่ทำผิดกฎหมายอยู่เกินระยะเวลา ซึ่งทางญี่ปุ่นก็เข้าใจ และตอนนี้เวลาที่จะพิจารณาเรื่อง ฟรีวีซ่า ที่ตกลงกันไว้ในเบื้องต้น จะพิจารณาอีกครั้งในเดือนมิถุนายนปี 2568
ดังนั้น จากวันนี้ไปจนถึงมิถุนายนปีหน้า คนไทยก็ยังสามารถเดินทางไปญี่ปุ่นได้ภายใต้มาตรการยกเว้นวีซ่า (ฟรีวีซ่า) โดยไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ซึ่งทางไทยก็ยืนยันกับทางญี่ปุ่นว่า จะดูแลให้ดีที่สุดและบอกกับพี่น้องคนไทยทุกคนว่า หากจะเดินทางไปต่างประเทศ ขอให้นึกถึงคนอื่นที่ต้องการไปท่องเที่ยวด้วย อย่าทำผิดกฎหมาย เพราะเวลาคนอื่นเดินทางมาประเทศเรา เราก็ไม่ต้องการให้เขาทำผิดกฎหมายเช่นกัน
ส่วนที่คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ เสนอให้นิรโทษกรรมให้กับผีน้อยนั้น นายปานปรีย์ กล่าวว่า อันนี้เป็นอีกประเด็นหนึ่ง ยังไม่ได้หยิบยกขึ้นมาหารือกับทางญี่ปุ่น เอาเฉพาะเรื่องฟรีวีซ่าก่อน ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว ดังนั้น ที่ตนจะเดินทางไปญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคม ก็คงมีประเด็นอื่นที่จะหารือกันต่อไป
ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม 2556 เป็นต้นมา ผู้ถือหนังสือเดินทางไทยที่ประสงค์จะเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อท่องเที่ยวและพำนักไม่เกิน 15 วัน ไม่ต้องขอวีซ่า เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทยที่มีวัตถุประสงค์จะพำนักที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่เกิน 15 วัน
สำหรับ เอกสารที่ควรนำติดตัวไป เพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่ญี่ปุ่น (หากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไม่ได้ร้องขอ ไม่ต้องแสดง) นอกเหนือจากหนังสือเดินทางที่ยังมีอายุการใช้งานเกิน 6 เดือน ได้แก่
- ตั๋วเครื่องบินขาออกจากประเทศญี่ปุ่น
- สิ่งที่ยืนยันว่าท่านสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างที่พำนักในประเทศญี่ปุ่น (เช่น เงินสด บัตรเครดิต เป็นต้น)
- ชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ระหว่างที่พำนักในประเทศญี่ปุ่น (เช่น คนรู้จัก โรงแรม และอื่นๆ)
- กำหนดการเดินทางระหว่างที่พำนักในประเทศญี่ปุ่น
กรณีต้องการเดินทางเข้าญี่ปุ่นด้วยจุดประสงค์อื่น นอกเหนือจากการท่องเที่ยว ยังคงต้องดำเนินการขอวีซ่าตามปกติ หรือหากต้องการพำนักในญี่ปุ่นนานกว่า 15 วัน ก็ต้องขอวีซ่าเช่นกัน