เทศมองไทย เหยียบคันเร่งกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่าน "วีซ่าฟรีถาวร" ไทย-จีน

03 ม.ค. 2567 | 21:25 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ม.ค. 2567 | 21:50 น.

สื่อนอกสะท้อน "ไทย-จีน" เห็นชอบจัดทำข้อตกลงทวิภาคีในการยกเลิกข้อกำหนดด้านวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศเป็นการถาวร มีผล 1 มีนาคมนี้ นับเป็นท่าทีในการเร่งการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทยหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างอิงการให้สัมภาษณ์ของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลังของไทยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (2 ม.ค.) ว่า นักท่องเที่ยวจีน ที่มาเยือนไทยจะได้รับ การยกเว้นวีซ่า ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมศกนี้ เป็นต้นไป ขณะที่ฝ่ายจีน ก็จะยกเว้นวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวไทยเป็นการถาวรในช่วงเวลาเดียวกัน โดยพลเมืองทั้งสองประเทศจะสามารถเดินทางเข้า-ออกและพำนักในประเทศได้สูงสุด 30 วันต่อการเดินทางเข้าประเทศ 1 ครั้ง

โฆษกรัฐบาลไทยเปิดเผยว่า การลงนามข้อตกลงทวิภาคี ระหว่าง ไทยและจีน เกี่ยวกับเรื่องนี้ จะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2567 โดยภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว นักท่องเที่ยวจีนจะพำนักในไทยได้สูงสุด 30 วัน เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวไทยที่ไปจีน ก็จะพำนักในจีนได้สูงสุด 30 วันโดยไม่ต้องขอวีซ่า แต่ถ้าหากมีการเข้า-ออกหลายครั้งภายในช่วงเวลา 180 วัน ก็จะสามารถพำนักจำนวนวันรวมกันได้ไม่เกิน 90 วัน

“การยกเว้นวีซ่าให้กันและกันจะช่วยส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชนต่อประชาชนมากยิ่งขึ้น” หวัง เหวินปิ่น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าว และว่า ขณะนี้ ไทยและจีนกำลังหารือกันอย่างใกล้ชิดในประเด็นดังกล่าว   

เทศมองไทย เหยียบคันเร่งกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่าน "วีซ่าฟรีถาวร" ไทย-จีน

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งผู้นำรัฐบาลไทย นายเศรษฐาได้ออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสามารถทำรายได้คิดเป็นสัดส่วนถึง 12% ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ อีกทั้งยังมีการจ้างงานในภาคการท่องเที่ยวเกือบ 1 ใน 5 ของกำลังแรงงานทั้งประเทศ

ในปีที่ผ่านมา (2566) ไทยได้ยกเว้นวีซ่าชั่วคราวให้กับนักท่องเที่ยวจากรัสเซีย คาซัคสถาน อินเดีย และไต้หวัน ทั้งยังวางแผนจะอนุญาตให้มีการพำนักระยะยาวสำหรับนักท่องเที่ยวจากบางประเทศ เพื่อหวังกระตุ้นการจับจ่ายของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ยกตัวอย่างรัสเซียได้รับการขยายเวลาท่องเที่ยวและพำนักในไทยเป็นเวลาสูงสุดถึง 90 วัน

ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 64 ของ Henley Passport Index ซึ่งจัดอันดับพาสปอร์ต หรือหนังสือเดินทางที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก โดยพลเมืองไทยสามารถเดินทางเข้าประเทศต่าง ๆ ได้ 80 ประเทศทั่วโลกโดยไม่ต้องขอวีซ่า (รวมหนังสือเดินทางทุกรูปแบบทั้งการทูต ข้าราชการ และธรรมดา) ขณะที่ สิงคโปร์ยังคงครองแชมป์หนังสือเดินทางที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก เพราะสามารถเดินทางเข้าออก 193 ประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า

เทศมองไทย เหยียบคันเร่งกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่าน "วีซ่าฟรีถาวร" ไทย-จีน

รายงานข่าวของบลูมเบิร์กระบุว่า หลังจากที่มีข่าวว่าจะเกิดมาตรการวีซ่าฟรีถาวรไทย-จีน ที่คาดว่าจะทำให้มีนักท่องเที่ยวจากจีนหลั่งไหลมายังประเทศไทย และนักท่องเที่ยวไทยทะลักไปจีนมากขึ้น ทำให้หุ้นสายการบิน โรงแรม และท่าอากาศยานไทย ปรับตัวเพิ่มขึ้นในการซื้อขายเมื่อวันอังคาร (2 ม.ค.)

เมื่อปี 2562 จีนเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่สุดที่มาเยือนไทย โดยนักท่องเที่ยวจีนคิดเป็นสัดส่วนกว่า 1 ใน 4 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคนที่มาเยือนไทยในปีนั้น แต่เมื่อปีที่ผ่านมา (2566) นักท่องเที่ยวจีนกลับมาเยือนไทยเพียงแค่ 3.5 ล้านคน จากยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทั้งสิ้น 28 ล้านคนที่มาท่องเที่ยวประเทศไทย (ข้อมูลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย)

ทั้งนี้ ไทยทำรายได้จากนักท่องเที่ยว 1.2 ล้านล้านบาทเมื่อปี 2566 โดยในจำนวนนี้ นักท่องเที่ยวมาเลเซียครองอันดับ 1 ที่ 4.56 ล้านคน ส่วนจีน เกาหลีใต้ อินเดีย และรัสเซีย เกาะกลุ่มใน 5 อันดับแรก

อย่างไรก็ตาม สำหรับปี 2567 นี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนไทยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 35 ล้านคน โดยในจำนวนนี้ คาดว่า 8.2 ล้านคนเป็นนักท่องเที่ยวจากจีน

ข้อมูลอ้างอิง