กระตุ้นท่องเที่ยวปี67 เช็คลิสต์ประเทศที่มาเที่ยวไทยได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า
ในปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจากประเทศที่ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องขอวีซ่าเมื่อเดินทางมาไทยและพำนักไม่เกิน 30 วัน มีจำนวนมากกว่า 60 ประเทศ คาดว่าปีนี้ ตัวเลขยิ่งจะเพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุด ไทยกำลังจะยกเลิกวีซ่าถาวรให้กับจีน เรามาดูกันว่า กว่า 60 ประเทศที่ว่านั้นมีใครบ้าง
การที่ “กรุงเทพฯ” ปาดหน้ากรุงปารีส เข้ามาเป็นอันดับ 1 ของเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลกประจำปี 2023 โดยมีภูเก็ตและพัทยา ตามเข้ามาอยู่ใน 20 อันดับแรกด้วย สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศไทย นั้น ขึ้นแท่นที่หนึ่งในดวงใจของทัวริสต์ต่างชาติ ซึ่งนอกจากเสน่ห์ของสถานที่ท่องเที่ยวเองที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดสำคัญ มาตรการกระตุ้น และส่งเสริมก็มีส่วนอย่างมาก รวมทั้ง มาตรการ “วีซ่าฟรี” (Visa Free) หรือ การยกเว้นการตรวจลงตราเข้าไทย ซึ่งก็คือการยกเว้นการขอวีซ่าเข้าประเทศไทยให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติบางประเทศนั่นเอง
โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา ไทยได้นำมาตรการวีซ่าฟรีแบบชั่วคราวมาใช้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนและคาซัคสถาน เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.2566 ถึงวันที่ 29 ก.พ.2567 แต่ในส่วนของจีนนั้น กำลังจะยกสถานะเป็นการยกเว้นวีซ่าถาวรในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ จากความตกลงที่ทั้งสองฝ่ายกำลังจะมีร่วมกัน ขณะที่อินเดียและไต้หวัน ซึ่งเป็นอีกสองชาติที่นักท่องเที่ยวนิยมมาไทยอย่างมาก ก็ได้รับการยกเว้นวีซ่าชั่วคราวในปีที่ผ่านมา มีผลตั้งแต่ 10 พ.ย. 2566 ถึง 10 พ.ค. 2567
ส่วน “รัสเซีย” ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพำนักกันยาวๆในเมืองชายทะเลอย่างพัทยาและภูเก็ต ก็ได้รับการขยายระยะเวลาพำนักในไทยแบบวีซ่าฟรีจาก 30 วันเป็น 90 วัน มีผลตั้งแต่ 1 พ.ย.2566 ถึง 30 เม.ย.2567
คราวนี้ เรามาดูกันว่า นอกจากประเทศ/ดินแดน ที่กล่าวมานี้แล้ว ยังมีนักท่องเที่ยวจากประเทศหรือดินแดนใดอีกบ้าง ที่ผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของเขา ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราเมื่อเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยและพำนักไม่เกิน 30 วัน
ข้อมูลจาก กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ อัปเดตเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ระบุว่า บุคคลต่างด้าวต่อไปนี้เข้าราชอาณาจักรไทยเพื่อการท่องเที่ยวได้โดยได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา (ยกเว้นวีซ่า) ตาม ผ.30 ซึ่งเป็นมาตรการที่ไทยให้แต่ฝ่ายเดียว พำนักได้ไม่เกิน 30 วัน ได้แก่
- อันดอร์รา
- ออสเตรเลีย
- ออสเตรีย
- เบลเยียม
- บาห์เรน
- บรูไน
- แคนาดา
- จีน (25 ก.ย.66-29 ก.พ.67)
- เช็ก
- เดนมาร์ก
- เอสโตเนีย
- ฟินแลนด์
- ฝรั่งเศส
- เยอรมนี
- กรีซ
- ฮังการี
- ไอซ์แลนด์
- อินเดีย (10 พ.ย.66-10 พ.ค.67)
- อินโดนีเซีย
- ไอร์แลนด์
- อิสราเอล
- อิตาลี
- ญี่ปุ่น
- คาซัคสถาน (25 ก.ย.66-29 ก.พ.67)
- คูเวต
- ลัตเวีย
- ลิกเตนสไตน์
- ลิทัวเนีย
- ลักเซมเบิร์ก
- มาเลเซีย
- มัลดีฟส์
- มอริเชียส
- โมนาโก
- เนเธอร์แลนด์
- นิวซีแลนด์
- นอร์เวย์
- โอมาน
- ฟิลิปปินส์
- โปแลนด์
- โปรตุเกส
- กาตาร์
- ซานมารีโน
- ซาอุดีอาระเบีย (และ Visa on Arrival: VOA)
- สิงคโปร์
- สโลวัก
- สโลวีเนีย
- สเปน
- แอฟริกาใต้
- สวีเดน
- สวิตเซอร์แลนด์
- ไต้หวัน (10 พ.ย.66-10 พ.ค.67)
- ตุรกี
- ยูเครน
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- สหราชอาณาจักร
- สหรัฐอเมริกา
- บราซิล*
- เกาหลีใต้*
- เปรู*
- ฮ่องกง**
- เวียดนาม**
- รัสเซีย (1 พ.ย.66-30 เม.ย.67 พำนักได้ถึง 90 วัน)
ทั้งนี้ * ชาวบราซิล เกาหลีใต้ และเปรู ได้รับสิทธิการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวและพำนักได้ไม่เกิน 30 วัน ในขณะเดียวกัน ทั้งสามประเทศดังกล่าวก็มีความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต ราชการ และธรรมดา กับไทย ซึ่งมีผลให้คนชาติทั้งสามพำนักอยู่ในประเทศไทยได้ไม่เกิน 90 วันโดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตรา
** ชาวเวียดนามและฮ่องกง ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวและพำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน ในขณะเดียวกัน ก็มีความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต ราชการ และธรรมดา กับไทย มีระยะเวลาพำนักในประเทศไทยได้ไม่เกิน 30 วัน โดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตรา
นอกจากนี้ ภายใต้ความตกลงระหว่างกัน (ทวิภาคี) บุคคลต่างด้าวผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของประเทศดังต่อไปนี้ ยังเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้โดยได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา แต่มีระยะเวลาพำนักสูงสุดแตกต่างกันไป
- (14 วัน) ได้แก่ กัมพูชา เมียนมา (เฉพาะที่ท่าอากาศยานนานาชาติ)
- (30 วัน) ได้แก่ ฮ่องกง** ลาว มาเก๊า มองโกเลีย รัสเซีย เวียดนาม**
- (90วัน) อาร์เจนตินา บราซิล* ชิลี เกาหลีใต้* เปรู*
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ