"สี จิ้นผิง" เยือนฮานอย กับการทูต "ไผ่ลู่ลม" ของเวียดนาม 

12 ธ.ค. 2566 | 10:23 น.

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เดินทางเยือนเวียดนามครั้งแรกในรอบ 6 ปี โดยเดินทางถึงกรุงฮานอยแล้ววันนี้ (12 ธ.ค.) หวังเสริมสร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมมากขึ้นและคานอำนาจสหรัฐอเมริกา 

 

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เดินทางถึง กรุงฮานอย เมืองหลวงของ ประเทศเวียดนาม แล้วในวันนี้ (12 ธ.ค.) ซึ่งนับเป็นการเดินทางเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ 6 ปี หรือนับจากปี 2017  โดยมีเป้าหมายเพื่อ กระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี ระหว่างจีนกับเวียดนามให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น หลังเวียดนามกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศต่าง ๆ ในแถบตะวันตก รวมทั้งสหรัฐอเมริกา ในระยะหลังๆนี้

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และภริยา เดินทางถึงกรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนามแล้วในวันนี้ (12 ธ.ค.2566) ภาพจาก VnExpress

สำนักข่าวอัลจาซีราห์รายงานว่า การเดินทางเยือนเวียดนามของปธน.สีในครั้งนี้มีขึ้น 3 เดือนหลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเดินทางเยือนกรุงฮานอย โดยทั้งจีนและสหรัฐต่างก็พยายามเพิ่มอิทธิพลในประเทศดาวรุ่งทางเศรษฐกิจแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รายนี้  นอกจากนี้ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ก็เพิ่งเดินทางเยือนเวียดนามเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา  

กระทรวงการต่างประเทศเวียดนามระบุว่า ปธน.สีจะพบกับนายเหงียน ฟู่ จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม และประธานาธิบดีหว่อ วัน เถือง ผู้นำเวียดนาม รวมทั้งนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม

สื่อของรัฐบาลจีนรายงานว่า ผู้นำจีนซึ่งเคยเดินทางเยือนเวียดนาม 2 ครั้ง คือในปี 2015 และ 2017 ครั้งนี้จะหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงลึกในเรื่องยุทธศาสตร์ที่สำคัญต่อทิศทางความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างจีน-เวียดนาม นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองฝ่ายจะหารือข้อกังวลที่มีร่วมกันทั้งในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ

นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ให้การต้อนรับผู้นำจีนและคณะที่สนามบิน Noi Bai Airport กรุงฮานอย (ภาพจากสำนักข่าว VNA)

รายงานระบุว่า เวียดนามดำเนินวิธีการทูตแบบ ไผ่ลู่ลม (bamboo diplomacy) มาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งมั่นที่จะรักษาความสัมพันธ์เชิงบวกกับทั้งสองชาติมหาอำนาจ โดยเวียดนามและสหรัฐมีข้อกังวลร่วมกันต่อท่าทีแข็งกร้าวของจีนในทะเลจีนใต้ โดยทะเลจีนใต้เป็นพื้นที่พิพาทระหว่างจีนกับหลายประเทศ แต่ขณะเดียวกันเวียดนามเองก็มีความสัมพันธ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกับจีน

ทั้งนี้ เวียดนามและจีนเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์รอบด้าน (comprehensive strategic partnership) กันอยู่แล้ว ซึ่งเป็นสถานะการทูตระดับสูงสุดของเวียดนาม ขณะที่สหรัฐและเวียดนามเพิ่งยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันขึ้นมาสู่ระดับเดียวกันในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา

เวียดนามและจีน เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์รอบด้าน (comprehensive strategic partnership) กันอยู่แล้ว ซึ่งเป็นสถานะการทูตระดับสูงสุดของเวียดนาม

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เตรียมเยือนเวียดนามในสัปดาห์หน้า เพื่อผลักดันความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างสองประเทศ ตามการเปิดเผยของกระทรวงการต่างประเทศจีนเมื่อวันพฤหัสบดี

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงก่อนการเดินทางของผู้นำจีนว่า การเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นเวลา 2 วัน ในครั้งนี้ (12-13 ธ.ค.) เป็นไปตามคำเชิญของนายเหงียน ฟู่ จ่อง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม แลนายหว่อ วัน เถือง ประธานาธิบดีเวียดนาม

"ปธน.สี จะพบกับผู้นำเวียดนาม เพื่อหารือในการยกระดับความสัมพันธ์จีน-เวียดนามขึ้นไปอีกขั้น จีนจะผลักดันการเสริมสร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมมากขึ้นระหว่างสองประเทศในช่วงเวลาที่โลกอยู่ในยุคแห่งความปั่นป่วนวุ่นวายและการเปลี่ยนแปลงที่มีความไม่มั่นคงและไม่แน่นอนมากขึ้นเรื่อย ๆ" หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าว