รัสเซียต้องมีกองทัพใหญ่แค่ไหน ถึงจะไม่ต้องอาศัย"ทหารรับจ้าง"ช่วยรบ

27 มิ.ย. 2566 | 17:05 น.
อัปเดตล่าสุด :27 มิ.ย. 2566 | 23:59 น.

กองทัพรัสเซียต้องมีทหารอาชีพประจำการถึง 7,000,000 นาย จึงจะเพียงพอ และไม่ต้องอาศัยบริการของนักรบรับจ้างเอกชนอย่าง "กลุ่มแวกเนอร์"

 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างอิงการแสดงความเห็นของนายลีโอนิด สลุตสกี สมาชิกรัฐสภารัสเซียวานนี้ (26 มิ.ย.) ที่ระบุว่า รัสเซีย ต้องการอัตรากำลังพลของทหารอาชีพ ประจำการ 7,000,000 นาย นอกเหนือไปจากทหารเกณฑ์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ เพื่อให้กองทัพมีกำลังพลเพียงพอ โดยไม่ต้องพึ่งพา ทหารรับจ้าง ที่เป็นเอกชน อย่างเช่น กลุ่มแวกเนอร์ ข่าวระบุว่า สลุตสกี เป็นบุคคลที่มีบทบาทในการเจรจาหลายครั้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ทำสงครามยืดเยื้อกันมานานถึง 16 เดือนแล้วนับจนถึงขณะนี้

ผู้นำรัสเซียสนับสนุนอัตรากำลังพลในกองทัพให้มีกำลังรบ 1.5 ล้านนาย ซึ่งรวมถึงทหารสัญญาจ้าง 695,000 นาย จากกำลังพลทั้งหมด 1.15 ล้านนาย

จากข้อมูล ณ สิ้นปี 2565 พบว่า รัฐบาลรัสเซียภายใต้การนำของ ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน สนับสนุนอัตรากำลังพลในกองทัพให้มีกำลังรบ 1.5 ล้านนาย ซึ่งรวมถึงทหารสัญญาจ้าง 695,000 นาย จากกำลังพลทั้งหมด 1.15 ล้านนาย

แต่ทั้งนี้ หากต้องการบรรจุบุคคลเข้าเป็นทหารประจำการอีก 7 ล้านนาย จะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ซึ่งไม่สอดคล้องกับสถานะทางเศรษฐกิจของรัสเซียในเวลานี้ ซึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามที่ทำกับยูเเครน และการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกที่ตามมา

ในปี 2565 เศรษฐกิจรัสเซียหดตัว 2.2%  และคาดว่าจะดีดตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยในปีนี้ (2566) 

การแสดงความคิดเห็นของนายสลุตสกี ซึ่งเป็นนักการเมืองคนดังของรัสเซีย เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์กองกำลังทหารรับจ้างกลุ่มแวกเนอร์ได้ก่อกบฎเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการเจรจาไกล่เกลี่ยโดยมี นายอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ประธานาธิบดีของประเทศเบลารุส เป็นคนกลาง ทำให้กลุ่มนักรบแวกเนอร์ที่นำโดยนายเยฟเกนี พริโกชิน หัวหน้ากลุ่ม ยินยอมยกเลิกแผนบุกกรุงมอสโกและสลายตัวในวันที่ 25 มิ.ย. ภายใต้ข้อตกลงที่ปธน.ปูติน รับปากว่าจะไม่เอาผิดผู้ร่วมก่อการทั้งหมด และเปิดทางให้นายพริโกชินรวมทั้งนักรบของเขาบางส่วน ลี้ภัยไปยังเบลารุส

นายเยฟเกนี พริโกชิน หัวหน้ากลุ่มนักรบรับจ้าง "แวกเนอร์ กรุ๊ป"(ที่สามจากซ้าย) กับนักรบของเขาในสมรภูมิบัคห์มุต ประเทศยูเครน

นอกจากนี้ บางส่วนที่สมัครใจเป็นทหารอยู่ในรัสเซีย ก็สามารถกลับเข้าไปร่วมรบกับทหารประจำการของรัสเซียได้ต่อไป โดยต้องทำสัญญาเข้าอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพรัสเซีย

ย้อนไปในเดือน ก.พ. 2565 เมื่อรัสเซียเริ่มยกทัพบุกยูเครน ปูตินมั่นใจว่าจะตีกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนแตกได้ในเวลาไม่กี่วัน แต่จนปัจจุบันสงครามก็ยังคงยืดเยื้อ ไม่ยุติ ซึ่งมีข้อสังเกตว่าเกิดจากจุดอ่อนหลายประการของกองทัพรัสเซีย รวมถึงความขัดแย้งภายในว่าด้วยแนวทางการทำสงคราม

ทั้งนี้ ทหารรับจ้างกลุ่มแวกเนอร์ทำงานแบบเอกชน พวกเขาได้รับค่าตอบแทนราว 1,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน หรือราว 49,000 บาท และอาจมากถึง 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 65,000 บาทขึ้นอยู่กับปฏิบัติการ

ทหารรับจ้างกลุ่มนี้เข้าร่วมการสู้รบจริง ๆ ทั้งกับกองทัพรัสเซีย และประเทศอื่นๆ อาทิ การร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับกองทัพของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย นอกจากนี้ ยังสนับสนุนนายพลคาลีฟา ฮัฟตาร์ ในการสู้กับรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติในลิเบียด้วย

แม้จะคาดการณ์ว่ามีชายถึง 15,000 คน เซ็นสัญญารบให้กับกลุ่มแวกเนอร์ระหว่างปี 2557 ถึงปี 2564 นี่ก็ยังนับว่าเป็นจำนวนที่จำกัด ในรัสเซียมีคนไม่มากที่รู้ว่ามีกลุ่มทหารรับจ้างนี้อยู่ ทุกอย่างเพิ่งจะมาเปลี่ยนไปหลังจากรัสเซียบุกรุกรานยูเครนนี่เอง