เบื้องหลัง “ไบเดน” บินเงียบโผล่ยูเครน สุดยอดภารกิจลับ สะท้านเครมลิน

21 ก.พ. 2566 | 02:22 น.

การเยือนยูเครนของปธน.โจ ไบเดน ถือเป็นภารกิจบิ๊กเซอร์ไพรส์ที่ไม่มีใครคาดคิด เว้นแต่ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง แม้จะใช้เวลาในกรุงเคียฟเพียง 5 ชม. แต่นี่คือสุดยอดปฏิบัติการลับ

 

เมื่อคำนึงถึงความปลอดภัยของ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ การเดินทางเยือนกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เมื่อวันจันทร์ (20 ก.พ.) ถือว่าประสบความสำเร็จจากหลายปัจจัย ได้แก่ การที่ทำเนียบขาวสามารถปกปิดการเดินทางของปธน.ไบเดน, การเดินทางภายใต้ความมืดในเวลากลางคืน และการแจ้งให้ รัสเซีย ทราบในนาทีสุดท้ายของการตัดสินใจของทางสหรัฐ

ก่อนหน้านี้ มีข่าวลือแพร่สะพัดว่า ปธน.ไบเดนจะเดินทางเยือนยูเครน หลังจากที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ผู้นำสหรัฐจะเดินทางเยือนโปแลนด์ในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยืนยันหลายครั้งว่าปธน.ไบเดนจะไม่เดินทางเยือนยูเครนแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ปธน.ไบเดน ยังพยายามแสดงตัวต่อสาธารณชนในกรุงวอชิงตัน ดีซี โดยได้ออกไปรับประทานอาหารค่ำกับนางจิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งในวันเสาร์ที่ผ่านมา (18 ก.พ.) จนกระทั่งปธน.ไบเดนได้ปรากฎตัวอีกครั้งที่กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนวานนี้ (20 ก.พ.)  

ปธน.โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ พบกับปธน.เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ที่กรุงเคียฟ 20 ก.พ.2566

ขณะเดียวกัน หมายกำหนดการเกี่ยวกับการปฏิบัติภารกิจประจำวันของปธน.ไบเดนที่ทำเนียบขาวแจ้งต่อสื่อมวลชนก็ไม่ได้มีการระบุถึงการเดินทางเยือนยูเครนแต่อย่างใด โดยผู้สื่อข่าวได้ขึ้นเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันไปกับปธน.ไบเดน โดยไม่ทราบว่ากรุงเคียฟจะเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง จนกระทั่งเครื่องบินลงจอดที่โปแลนด์วานนี้ และปธน.ไบเดนได้เดินทางจากโปแลนด์เข้าสู่ยูเครนโดยรถไฟ 

ปฏิบัติการดังกล่าวได้ผ่านการหารือระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐเป็นเวลาหลายเดือนก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะมีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายในวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 ก.พ.) ซึ่งปธน.ไบเดนกล่าวว่า เขายินดีแบกรับความเสี่ยงในการเดินทางครั้งนี้

รายงานข่าวระบุว่า หลังการตัดสินใจดังกล่าว ทำเนียบขาวก็ได้แจ้งให้รัสเซียทราบเกี่ยวกับการเดินทางครั้งนี้

แจ้งให้รัสเซียรู้ล่วงหน้าเพียงไม่กี่ชั่วโมง

นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า สหรัฐได้แจ้งล่วงหน้าให้รัสเซียทราบเกี่ยวกับการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะเดินทางเยือนยูเครนในวันที่ 20 ก.พ. ก่อนที่การเดินทางจะเริ่มขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยสหรัฐให้เหตุผลกับรัสเซียว่า การเดินทางของปธน.ไบเดนมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้น

นายซัลลิแวนเปิดเผยกับสื่อในภายหลังว่า การจัดเตรียมการเดินทางสำหรับปธน.ไบเดนในครั้งนี้มีความซับซ้อนมากกว่าการเดินทางเยือนอิรักและอัฟกานิสถาน เนื่องจากสหรัฐไม่มีกำลังทหารประจำการอยู่ในยูเครน

หลังสร้างความประหลาดใจด้วยการเดินทางเยือนกรุงเคียฟอย่างไม่มีการแจ้งกำหนดมาก่อน ปธน.ไบเดนเริ่มภารกิจด้วยการเข้าพบประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เพื่อแสดงการสนับสนุนของสหรัฐก่อนครบรอบ 1 ปี ของการที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารโจมตียูเครนในวันที่ 24 ก.พ.2565

มีเสียงไซเรนดังทั่วกรุงเคียฟในระหว่างที่ปธน.ไบเดนหารือกับปธน.เซเลนสกีภายในอาสนวิหารนักบุญไมเคิลกลางกรุงเคียฟ แต่ไม่มีรายงานว่ารัสเซียได้ทำการโจมตีทางอากาศ หรือยิงขีปนาวุธโจมตีกรุงเคียฟแต่อย่างใด

ผู้นำสหรัฐได้กล่าวยกย่องความกล้าหาญของชาวยูเครนในการสู้รบกับรัสเซีย และยืนยันว่าสหรัฐจะยังคงให้การสนับสนุนยูเครน “ตราบนานเท่านาน” พร้อมประกาศให้ความช่วยเหลือทางการทหารเพิ่มเติมแก่ยูเครนอีกในวงเงิน 500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรายละเอียดของความช่วยเหลือดังกล่าวจะมีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการในวันนี้ (21 ก.พ.)           

หลังจากใช้เวลาอยู่ในยูเครนนาน 5 ชั่วโมง คณะของปธน.ไบเดนก็ได้มุ่งหน้าสู่โปแลนด์

ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนได้เคยเดินทางเยือนกรุงเคียฟเป็นเวลา 6 ครั้งในช่วงที่ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐ แต่ครั้งนี้นับเป็นการเดินทางเยือนครั้งแรกในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐ

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การที่ปธน.โจ ไบเดน เดินทางเยือนยูเครน ถือเป็นการจงใจ “ยั่วยุ” รัสเซีย

ผู้เชี่ยวชาญชี้อันตราย "ไบเดน" จงใจเยือนยูเครน ยั่วยุ "ปูติน"

ผู้เชี่ยวชาญด้านรัสเซียระบุว่า การที่ปธน.โจ ไบเดน เดินทางเยือนยูเครน ถือเป็นการจงใจ “ยั่วยุ” รัสเซีย ก่อนที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย จะทำการ แถลงนโยบายประจำปี (State of the Nation Address) ต่อรัฐสภารัสเซียในวันนี้ (21 ก.พ.ตามเวลาท้องถิ่น)

"นี่เป็นการยั่วยุของปธน.ไบเดน และผมคิดว่าพฤติกรรมของเขาจะถูกปธน.ปูตินนำไปพิจารณาสำหรับการจัดเตรียมถ้อยแถลงต่อรัฐสภา" นายวลาดิเมียร์ ซาริคิน รองผู้อำนวยการสถาบันแห่งประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) ให้ความเห็น และว่า

"ปธน.ไบเดนจงใจเยือนยูเครนเพียง 1 วันก่อนที่จะมีการแถลงนโยบายประจำปี ซึ่งถือเป็นการท้าทาย ปธน.ปูติน ผมคิดว่าเขาจะถูกตอบโต้กลับ" นายซาริคินกล่าวทิ้งท้ายว่า การกระทำของปธน.ไบเดนเป็นการบ่งชี้ว่า นักการเมืองสายเหยี่ยวในรัฐบาลสหรัฐกำลังประสบชัยชนะ