5 คำเตือน! จาก IMF "วิกฤตเศรษฐกิจรออยู่เบื้องหน้าแล้ว" 

09 ต.ค. 2565 | 00:34 น.

“กอบศักดิ์” แนะไทยเตรียมรับมือเศรษฐกิจโลกถดถอย หลัง IMF ออกโรงเตือน-จ่อหั่นคาดการณ์ GDP ปีหน้า (2566) ลงอีก ส่งสัญญาณวิกฤตรออยู่เบื้องหน้าแล้ว

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กส่วนตัว วานนี้ (8 ต.ค.) เตือนประเทศไทยและทุกคนต้องเตรียมความพร้อมให้มากขึ้น ในการรับมือความเสี่ยง เศรษฐกิจโลกถดถอย หลังจากเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว นางคริสตาลินา จอร์จีวา กรรมการผู้จัดการ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ไปกล่าวสุนทรพจน์ เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนการประชุมใหญ่ประจำปีของ ผู้ว่าแบงก์ชาติและรัฐมนตรีคลังประเทศต่างๆ โดยมีคำเตือนที่น่าสนใจอยู่ 5 เรื่อง ดังนี้

 

คำเตือนที่ 1 - เศรษฐกิจโลกกำลังทรุดตัวอย่างน่ากังวลใจ โอกาสของ Global Recessions กำลังเพิ่มขึ้น โดยสัปดาห์หน้า IMF จะปรับลดประมาณการเศรษฐกิจลงเป็นครั้งที่ 4 สำหรับปี 2566 

 

ที่สำคัญ 1/3 ของเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่การหดตัวของเศรษฐกิจ 2 ไตรมาสต่อกัน ภายในปีนี้ (2565) และปีหน้า (2566) ความเสียหายจาก Output Loss หรือ เศรษฐกิจที่ควรโตแต่ไม่โต อยู่ที่ 4 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณเท่ากับเศรษฐกิจเยอรมนีทั้งประเทศ

 

คำเตือนที่ 2 - ประเทศต่างๆ ต้องระวังการ "เดินนโยบายผิดพลาด" เงินเฟ้อยังดื้อแพ่ง ไม่ยอมลง นโยบายการเงินยังต้องเดินหน้าต่อไป

 

ต้องไม่ใจอ่อน ต้องไม่หยุด ก่อนเวลาอันควร การตัดสินใจต้องเด็ดเดี่ยว แม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอลง ไม่เช่นนั้น การใจอ่อน จะนำมาซึ่งความเสียหายที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ในอนาคต

5 คำเตือนจาก IMF

คำเตือนที่ 3 - ประเทศต่างๆ ระวังการออกนโยบายการคลังที่ "ไม่เหมาะสม" นโนบายการเงินและการคลังต้องไปด้วยกัน อย่าไปคนละทาง อย่างอังกฤษเสนอ ต้องไม่ควรช่วยเป็นการทั่วไป เพราะถ้าช่วยทุกคน จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ บ่อนทำลายการสู้ศึกเงินเฟ้อของแบงก์ชาติ

 

สิ่งที่ควรทำ คือ ช่วยเป็นจุดๆ  เน้นกลุ่มเปราะบางเป็นสำคัญ เป็นการชั่วคราว

 

คำเตือนที่ 4 - มรสุม Emerging Markets Debt Crisis กำลังก่อตัว ดอลลาร์แข็ง ดอกเบี้ยกู้ที่เพิ่ม เงินที่กำลังไหลออกจาก Emerging Markets กำลังทำให้ประเทศเกิดใหม่เริ่มเซ  โอกาสที่เงินจะไหลออกจากกลุ่ม Emerging Markets ในช่วง 3 ข้างหน้า ได้เพิ่มขึ้นเป็น 40%

 

โดยมากกว่า 25% ของประเทศ Emerging Markets ได้ผิดนัดชำระหนี้หรือราคาพันธบัตรรัฐบาลตกแรงมาอยู่ระดับ "Distressed Level" ที่จะทำให้กู้ยากต่อไปและถ้าเจาะลึกลงไปที่ประเทศในกลุ่ม Low-income Countries พบว่า เกินครึ่ง หรือ 60% กำลังมีหรือจะมีปัญหา Debt Distress ที่ราคาพันธบัตรตก ดอกเบี้ยพุ่งสูง มีปัญหาในการกู้ยืมจากตลาด

 

คำเตือนที่ 5 - ต้อง Work together จะรอดจากปัญหานี้ได้ จะลดความเสียหายให้น้อยได้ ทุกประเทศต้องทำงานร่วมกันไม่ไปคนละทิศคนละทางเหมือนช่วงที่สู้ศึกโควิด

 

ดร.กอบศักดิ์ ระบุว่า ทั้งหมดนี้ เป็นคำเตือนก่อนประชุมใหญ่ (ระหว่าง IMF ผู้ว่าแบงก์ชาติและรัฐมนตรีคลังประเทศต่างๆ) ให้การบ้านทุกคนทำ ทุกคนคิด ก่อนที่จะมาเจอกันสัปดาห์หน้า 10-16 ตุลาคม ซึ่งปกติแล้ว IMF ก็จะระมัดระวังเรื่องการพูด พยายามที่จะปลอบตลาดให้สบายใจ ไม่ตกใจ การที่ออกมาเช่นนี้ ชี้ว่า สถานการณ์คงมีปัญหา จนต้องยอมพูด

 

ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์จริงในปีหน้า คงแย่กว่าที่ IMF ออกมาเตือน เพราะปกติแล้ว การประมาณการเศรษฐกิจจะวิ่งตามสิ่งที่เกิดขึ้น โดยช่วงวิกฤต ตัวเลขจะออกมาพลาด สูงกว่าจริงอยู่ระยะหนึ่ง และในส่วนของวิกฤต Emerging Markets นั้น IMF จะเห็นมากที่สุด เพราะเป็นห้องฉุกเฉินที่คอยดูแลประเทศที่เกิดปัญหา การที่ยอมบอกว่า 1/4 ของ Emerging Markets เริ่มมีปัญหา และมากกว่าครึ่งของ Low-income Countries กำลังมีปัญหา เป็นระฆังเตือนภัย ครั้งใหญ่ที่มีนัยยะต่อไปว่า "วิกฤตได้อยู่ข้างหน้าเรียบร้อย"

 

ประเทศไทยและเราทุกคนต้องเตรียมความพร้อมให้มากขึ้น ซึ่งหากเราใช้เวลาที่เหลือ เตรียมให้ดี ก็จะสามารถ "ผ่อนหนักเป็นเบา พอผ่านไปได้"