OECD หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีหน้า โตแค่ 2.2%

28 ก.ย. 2565 | 09:45 น.

OECD หั่นคาดการณ์การขยายตัวของ GDP โลกปีหน้า (2566) เหลือเพียง 2.2% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 2.8% ผลกระทบจากดอกเบี้ยขาขึ้น-แบงก์ชาติทั่วโลกคุมเข้มนโยบายการเงินสกัดเงินเฟ้อ

 

องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เปิดเผยรายงานคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2566 จะขยายตัว 2.2% ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.8% เนื่องจากเศรษฐกิจถูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วพากันใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินเพื่อสกัดเงินเฟ้อ


สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า OECD ได้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่น จะขยายตัว 1.4% ในปี 2566 ซึ่งลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 1.8% แม้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงดำเนินนโยบายตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษก็ตาม


ทั้งนี้ การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงในไตรมาส 2 ปีนี้ เนื่องจากการที่รัสเซียส่งกำลังทหารเข้าทำสงครามกับยูเครนได้ส่งผลให้ราคาพลังงาน อาหาร และวัตถุดิบประเภทอื่น ๆ ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค

OECD คาดปีหน้า (2566) เศรษฐกิจโลกขยายตัวเพียง 2.2%

ขณะเดียวกัน OECD คาดการณ์ว่า ภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจะยังคงเกิดขึ้นต่อไปอีกระยะหนึ่ง อันเนื่องมาจากผลกระทบของการที่หลายประเทศพากันใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงิน

สำหรับในปี 2565 นี้ OECD คาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นจะชะลอตัวลงสู่ 1.5% และ 1.6% ตามลำดับ ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้


ขณะเดียวกันคาดว่า เศรษฐกิจจีน ในปีหน้า (2566) จะขยายตัวที่อัตรา 4.7% เพิ่มขึ้นจากระดับ 3.2% ในปีนี้ (2565) โดยตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิม


นอกจากนี้ OECD คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยูโรโซน จะขยายตัว 3.1% ในปี 2565 แต่จะชะลอตัวลงอย่างรุนแรงจนแตะที่ระดับ 0.3% ในปี 2566 โดยระบุว่ายุโรปซึ่งต้องพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียในระดับสูงนั้น ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้น

ทั้งนี้ ปัญหาเงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างความยากลำบากให้กับธนาคารกลางทั่วโลก โดย OECD คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะพุ่งขึ้น 6.2% ในปี 2565 และจากนั้นจะเพิ่มขึ้น 3.4% ในปี 2566 ขณะเดียวกันคาดว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนจะพุ่งขึ้น 8.1% ในปี 2565 และเพิ่มขึ้น 6.2% ในปี 2566