สงครามยูเครน-วิกฤตพลังงาน ดันกระแสโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ฟื้นชีพ

27 ส.ค. 2565 | 22:49 น.

วิกฤตพลังงานโลกกำลังปลุกอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ในภูมิภาคเอเชียให้ฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง ขณะที่หลายประเทศได้เร่งกระบวนการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้พลังงานสะอาดที่ไม่สร้างมลภาวะและเชื่อถือได้มากขึ้น

หลังจากที่ รัสเซียรุกรานยูเครน ส่งผลให้ราคา ก๊าซและถ่านหิน ทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ หลายประเทศใน เอเชีย ได้เริ่มหันกลับมาสนับสนุนการใช้ พลังงานนิวเคลียร์ อีกครั้ง บ้างก็เร่งกระบวนการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้พลังงานสะอาดที่เชื่อถือได้มากขึ้น

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า วิกฤตพลังงาน ทั่วโลกทำให้ภูมิภาคเอเชียต้องหันมาสนับสนุนอุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์อีกครั้งหลังจากที่เคยหลีกเลี่ยงไปแล้วหลังเกิดเหตุการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีจากโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิ ที่จังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่นในปี 2554

เกิดการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีจากโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิ ในญี่ปุ่น เมื่อปี 2554 สร้างผลกระทบและต้องอพยพประชาชนจำนวนมาก

โดยในขณะนี้ รัฐบาล ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ กำลังยกเลิกนโยบายต่อต้านนิวเคลียร์ ขณะที่ จีน และ อินเดีย มีแผนเตรียมจะสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพิ่มมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะขาดแคลนพลังงานในอนาคตและควบคุมการปล่อยมลพิษ

แม้กระทั่งประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ก็กำลังทำการสำรวจเทคโนโลยีนิวเคลียร์กันอยู่

 

ทั้งนี้ เสียงสนับสนุนการใช้พลังงานนิวเคลียร์ที่ดังขึ้นอีกครั้งในเอเชียนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่ราคาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินซึ่งใช้ในการผลิตพลังงานส่วนใหญ่ของเอเชีย พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ ซึ่งเป็นผลจากการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลกพากันคว่ำบาตรพลังงานจากรัสเซียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันยังคงตึงตัว และราคาพลังงานยังจะพุ่งสูงขึ้นต่อไปในอนาคต

สงครามยูเครน-วิกฤตพลังงาน ดันกระแสโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ฟื้นชีพ

รัฐบาลนานาประเทศจึงได้หันมาให้ความสนใจพลังงานนิวเคลียร์ซึ่งมีความสะอาดและเชื่อถือได้ โดยหวังว่าการใช้พลังงานนิวเคลียร์จะนำมาซึ่งประโยชน์หลัก 3 ประการ คือ

  • ช่วยควบคุมเงินเฟ้อ
  • บรรลุเป้าหมายในการรักษาสิ่งแวดล้อม
  • ลดพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ

เดวิด เฮสส์ นักวิเคราะห์นโยบายของสมาคมนิวเคลียร์โลก ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า การต่อต้านพลังงานนิวเคลียร์กำลังพังทลายลงอย่างรวดเร็ว สาเหตุเพราะเห็นได้ชัดว่า การผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานนิวเคลียร์นั้นมีข้อได้เปรียบทางเศรษฐกิจเมื่อเทียบกับโรงไฟฟ้าพลังงานฟอสซิล  

 

"โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีอยู่แล้วสามารถผลิตไฟฟ้าได้ในราคาถูกที่สุด ยิ่งเมื่อราคาก๊าซธรรมชาติพุ่งทะยานขึ้นในช่วงเวลานี้(ซึ่งเป็นผลจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน) ก็ยิ่งทำให้ความได้เปรียบทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนเหล่านี้ มีความชัดเจนมากขึ้นไปอีก"