"เทสลา"พยุงกำไรบริษัท ตัดใจเทขายบิตคอยน์ 75% หลังราคาทรุดกว่า 50%

21 ก.ค. 2565 | 02:19 น.

เทสลา อิงค์ ( Tesla) เทขายบิตคอยน์ 75% ของที่ถือครอง หลังราคาทรุดหนักกว่า 50% และหวังเพิ่มสภาพคล่องบริษัทฯ จากการขายเป็นเงินกว่า 936 ล้านดอลลาร์

บริษัทเทสลา อิงค์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ขายบิตคอยน์ในสัดส่วนสูงถึง 75% ของจำนวนบิตคอยน์ที่บริษัทถือครองอยู่ คิดเป็นมูลค่าการขาย 936 ล้านดอลลาร์

 

การเทขาย"บิตคอยน์"ของเทสลาในครั้งนี้  เกิดขึ้นหลังจากมูลค่าของบิตคอยน์ทรุดตัวลงอย่างหนัก โดยร่วงลงมากกว่า 50% แล้วในปีนี้
          

"ณ สิ้นสุดไตรมาส 2 ปีนี้ เทสลาได้เทขายบิตคอยน์ไปประมาณ 75% ของจำนวนบิตคอยน์ที่เราถือครอง ซึ่งทำให้งบดุลบัญชีของเรามีเงินสดเพิ่มขึ้น 936 ล้านดอลลาร์" เทสลาระบุในการแถลงผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ในวันพุธ (20 ก.ค.)

 

เทสลาระบุในแถลงการณ์ดังกล่าวว่า บิตคอยน์เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้


         

ที่ผ่านมานั้น นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเทสลาเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สนับสนุนคริปโทเคอร์เรนซี โดยเขามักจะโพสต์ข้อความลงบนทวิตเตอร์และส่งผลให้ราคาคริปโทเคอร์เรนซีพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์และดอจคอยน์
         

เทสลาเปิดเผยในเดือนก.พ. 2564 ว่า บริษัททุ่มเงินลงทุนในบิตคอยน์สูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนแห่ซื้อบิตคอยน์ตาม และยังเป็นแรงหนุนราคาบิตคอยน์พุ่งเกือบแตะระดับ 70,000 ดอลลาร์ในเดือนพ.ย. 2564 ก่อนที่ราคาจะทรุดตัวลงในเวลาต่อมา โดยขณะนี้ราคาบิตคอยน์เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 25,000 ดอลลาร์

 

ในปี 2564 เทสลาประกาศระงับการรับบิตคอยน์ในการซื้อรถยนต์ของบริษัท โดยระบุถึงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการขุดเหมืองบิตคอยน์ต้องใช้ไฟฟ้าในปริมาณมาก
         

ทั้งนี้ข่าวเทสลาเทขายบิตคอยน์ในสัดส่วนถึง 75% ของที่ถือครอง ส่งผลให้ราคาบิตคอยน์ลดลงสู่ระดับต่ำกว่า 24,000 ดอลลาร์ในช่วงเช้านี้ หลังจากที่พุ่งขึ้นทะลุระดับ 24,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือนเมื่อวานนี้

 

โดย ณ เวลา 09.12 น. เช้านี้ ( 21 ก.ค.65) ราคาบิตคอยน์เคลื่อนไหวอยู่ระดับ 23,279.3 ดอลลาร์สหรัฐ  เปลี่ยนแปลง +0.22% ใน 24 ชั่วโมง 

ขณะที่การเคลื่อนไหวราคาหุ้นเทสลาพุ่งขึ้น 1.45% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้านี้ หลังบริษัทเปิดเผยกำไรที่สูงเกินคาด โดยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2/2565 อยู่ที่ 2.27 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ของเรฟินิทิฟ (Refinitiv) คาดการณ์ที่ระดับ 1.81 ดอลลาร์
          

อย่างไรก็ดี รายได้ในไตรมาส 2 ของเทสลาอยู่ที่ 1.693 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 1.71 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีอัตราส่วนกำไรขั้นต้น (Gross Margin) ในไตรมาส 2 ปีนี้อยู่ที่ 27.9% ลดลงจากไตรมาส 1 ที่ระดับ 32.9% และลดลงจากไตรมาส 2 ปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 28.4% โดยอัตรากำไรขั้นต้นได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ รวมทั้งการแข่งขันในธุรกิจแบตเตอรีและอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ที่ใช้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า