เวียดนามเตรียมรับมือ “ไข้เลือดออก” ระบาดหนัก พบครึ่งปีผู้ป่วยเพิ่มเท่าตัว

15 ก.ค. 2565 | 02:13 น.

สธ.เวียดนามแจ้งโรงพยาบาลทั่วประเทศเตรียมรับมือการแพร่ระบาดของ “ไข้เลือดออก” หลังพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว อัตราการตายเพิ่มเป็นสามเท่า

กระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม เปิดเผยวานนี้ (14 ก.ค.) ว่า เวียดนาม พบยอดผู้ป่วย โรคไข้เลือดออก จนถึงปัจจุบันเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (2564) พร้อมเตือนว่า โรงพยาบาลต้องเตรียมพร้อมรับมือกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โรคไข้เลือดออก เป็นโรคที่มี ยุงลาย เป็นพาหะนำโรค และพบได้ทั่วไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ในกรณีอาการที่รุนแรงอาจส่งผลให้มีเลือดออกภายในร่างกายได้ และสามารถทำให้ผู้ป่วยถึงเสียชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที 

 

เวียดนามพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก 89,120 รายในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 ซึ่งพุ่งขึ้น 148% จาก 35,936 รายในปีก่อนหน้า ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 3 เท่า เป็น 34 รายในช่วงเวลาเดียวกัน

โรคไข้เลือดออก ภัยร้ายที่มากับยุงลาย และมักระบาดในฤดูฝน

โดยปกติแล้ว เวียดนามซึ่งมีประชากร 98 ล้านคนนั้นพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกราว 110,000 รายต่อปีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมักมีการติดเชื้อสูงสุดระหว่างเดือนมิ.ย.-ต.ค.

กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามซึ่งได้เผยแพร่แนวทางปฏิบัติพิเศษแก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในสัปดาห์นี้คาดการณ์ว่า ยอดผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ดังนั้น ทางกระทรวงฯ จึงกำชับว่า โรงพยาบาลทุกแห่งทั้งระดับจังหวัดและระดับอำเภอต้องให้ความสำคัญกับบุคลากรการแพทย์และทรัพยากร เพื่อรองรับและรักษาผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง

 

ทำความรู้จักไข้เลือดออกโดยสังเขป

โรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่เกิดจาก เชื้อไวรัสเดงกี (Dengue Virus) ที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค สามารถพบได้ในทุกกลุ่มอายุ อาการของโรคไข้เลือดออกแม้จะไม่รุนแรง แต่หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจนทำให้เสียชีวิตได้

 

หากพบว่ามีอาการดังกล่าว ควรพบแพทย์ทันที และห้ามซื้อยารับประทานเองเด็ดขาด วิธีเบื้องต้นในการป้องกันโรคไข้เลือดออก คือ ระวังอย่าให้ยุงกัด และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง โดยเฉพาะภาชนะที่มีน้ำขัง

 

สามารถสังเกตอาการของโรคไข้เลือดออกได้ ดังนี้

  • มีไข้สูง 39 – 40 องศา เกิน 2 วัน
  • ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว
  • อ่อนเพลีย ซึมลง
  • ปัสสาวะสีเข้ม
  • เบื่ออาหาร อาเจียน
  • อาจพบจ้ำเลือดหรือจุดเลือดตามผิวหนัง
  • อุจจาระมีสีดำ

 

โรคไข้เลือดออก มักระบาดหนักมากในช่วงฤดูฝน โดยมีจำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตจากโรคนี้เพิ่มขึ้นทุกปี นอกจากการดูแลตนเองไม่ให้ถูกยุงกัด และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายซึ่งเป็นพาหะนำเชื้อแล้ว เราสามารถป้องกันตนเองด้วยวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก (Dengue Vaccine) ซึ่งเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่สามารถช่วยป้องกันอาการป่วยด้วยไข้เลือดออกได้ หรืออย่างน้อยก็ช่วยลดอาการรุนแรงและลดอัตราการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลลงได้