โปรแปลกปลุกอสังหาฯจีน วางดาวน์ด้วยสินค้าเกษตร-ซื้อบ้านแถมหมู

23 มิ.ย. 2565 | 23:17 น.

อสังหาริมทรัพย์จีนกำลังเผชิญภาวะขาลงที่เลวร้ายและยาวนานที่สุด ดัชนีชี้วัดยอดขายอพาร์ทเมนต์และบ้าน ร่วงลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ไม่น่าแปลกใจถ้าหากช่วงนี้จะเห็นการกระหน่ำจัดโปรโมชันเรียกลูกค้าของบรรดาโครงการ แต่โปรฯ ต่อไปนี้อาจจะแปลกแหวกแนวกว่าที่เคยเห็นมา

จากหลากหลายเหตุปัจจัยลบที่รุมเร้า ทั้ง เศรษฐกิจจีน ที่ชะลอตัว ข้อจำกัดด้านโควิด-19 ที่เข้มงวด และวิกฤตหนี้ที่กำลังแพร่สะพัดในแวดวง บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจีน ทำให้ ตลาดอสังหาฯ ของจีน เวลานี้อยู่ในช่วงที่เรียกได้ว่า “ตกต่ำอย่างหนัก”

 

สถิติของทางการจีนที่เผยแพร่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาชี้ว่า ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ลดลง 31.5% ในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค. หรือ 5 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่การสำรวจล่าสุดโดยบริษัทวิจัย ไชน่า เรียลเอสเตท อินฟอร์เมชัน (China Real Estate Information) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยของเอกชน พบว่า ยอดขายของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ 100 อันดับแรกของจีนลดลง 59% ในเดือน พ.ค. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

 

แม้ว่าที่ผ่านมา ทางการจีนได้พยายามฟื้นฟูตลาดอสังหาฯ ด้วยการผ่อนปรนกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ในการซื้อบ้าน อาทิ การลดเงินดาวน์ และมีโครงการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ที่จะซื้อบ้าน และแม้กระทั่ง ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนองลงในเดือนพ.ค. แต่ยอดขายบ้านในเมืองใหญ่ก็ยังคงดิ่งลงกว่า 40% เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ส่งผลให้ธุรกิจต่าง ๆ ต้องหยุดทำการและมีจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มมากขึ้น

สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์บางรายงัดกลยุทธ์สุดแหวกแนวมาใช้ เพื่อดึงดูดผู้ซื้อหรือกระตุ้นยอดขาย ต่อไปนี้เป็น “โปรโมชันพิสดาร” ที่เรา ๆท่าน ๆ อาจไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน สะท้อนถึงสภาวะเลวร้ายที่อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในจีนกำลังเผชิญอยู่ ทำให้ผู้ประกอบการต้องดิ้นรน จัดทุกโปรโมชันเท่าที่จะรังสรรค์ขึ้นมาได้ อาทิ

 

การซื้อบ้านด้วยข้าวสาลีหรือกระเทียมแทนเงินสด

บริษัท เซ็นทรัล ไชน่า เรียลเอสเตท (Central China Real Estate) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในมณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของจีน เป็นเจ้าของโปรโมชันที่ระบุชัดเจนว่า ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านเขตหมินฉวนของเหอหนาน จะสามารถชำระเงินดาวน์ด้วย “ข้าวสาลี” แทนเงิน

 

โฆษณาโปรโมชันดังกล่าว มีการโพสต์เผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย WeChat ซึ่งเป็นสื่อยอดฮิต ระบุรายละเอียดว่า ผู้ซื้อสามารถใช้ธัญพืชแทนเงินดาวน์ได้สูงถึง 160,000 หยวน (ราว 840,000 บาท) โดยอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 2 หยวน (ประมาณ 10 บาท) ต่อข้าวสาลี 1 จิน (เป็นอัตราตวงวัดของจีน เทียบเท่า 0.5 กิโลกรัม)

 

ทั้งนี้ ตัวแทนขายของเซ็นทรัล ไชน่า เรียลเอสเตท ที่ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อ อธิบายว่า โปรโมชันนี้มุ่งเป้าไปที่เกษตรกรในพื้นที่เป็นหลัก ระยะเวลาจัดโปรฯ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ (20 มิ.ย.) ไปจนถึงวันที่ 10 ก.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม หลังจากโปรฯ ดังกล่าวมีการแชร์ต่อและมีการพูดถึงอย่างมากในสื่อจีนเอง รวมทั้งในโลกโซเชียลมีเดีย ทางบริษัทก็ได้ลบโฆษณาชิ้นนั้นออกจาก WeChat แล้วเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (22 มิ.ย.)

โปรโมชันของบริษัท เซ็นทรัล ไชน่า เรียลเอสเตท  วางเงินดาวน์ได้ด้วยข้าวและกระเทียม

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา เซ็นทรัล ไชน่า เรียลเอสเตท เคยจัดโปรฯ ลักษณะคล้าย ๆกันมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยครั้งนั้น บริษัทรับชำระเงินดาวน์บ้านพักอาศัยด้วย “กระเทียม” สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยในเขตชี่ (Qi) ของมณฑลเหอหนาน บริษัทระบุใน WeChat ว่า “เนื่องในโอกาสฤดูกาลใหม่ของการปลูกกระเทียม บริษัทได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะมอบประโยชน์ให้เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมในเขตชี่ เรากำลังช่วยเหลือเกษตรกรด้วยความรัก และทำให้พวกเขาซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น” โปรโมชันนี้มีระยะเวลา 16 วัน

 

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทระบุว่า โปรโมชันชำระเงินดาวน์ด้วยกระเทียมจะคิดในอัตรา 5 หยวน (ราว 125 บาท) ต่อกระเทียม 1 จิน (0.5 กิโลกรัม)  รายงานข่าวระบุว่า โปรฯ ดังกล่าว สามารถดึงดูดให้มีผู้สนใจเข้าชมโครงการได้ถึง 852 ครั้ง และมีลูกค้าตกลงซื้อขายบ้านประมาณ 30 ราย มีการรับกระเทียมแทนเงินดาวน์ 860,000 จิน (430,000 กิโลกรัม หรือ 430 ตัน)

 

ซื้อบ้าน ได้ “สุกร” อู๊ดๆ เป็นของแถม

บริษัทโพลี เรียลเอสเตท (Poly Real Estate) เป็นหนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แถวหน้าของจีน ที่โฆษณาว่า ลูกค้าที่ซื้อบ้านในโครงการที่อยู่อาศัยในเมืองเหลียนหยุนกัง มณฑลเจียงซู ทางตะวันออกของประเทศ จะได้ของแถมเป็น “หมูเป็น ๆ” น้ำหนัก 100 จิน

 

โฆษณาโปรฯ ดังกล่าว เผยแพร่ใน WeChat เช่นกัน เริ่มตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื้อหาระบุว่า “ซื้อบ้านแถมหมูน้ำหนัก 200 จิน มีชีวิตที่ดีได้ในที่เดียว” ทั้งนี้ หากลูกค้าต้องการ ทางโครงการยังรับเชือดหมูให้ลูกค้าอีกด้วย

ซื้อบ้าน แถมหมู

บทสรุปที่น่าเศร้าสำหรับผู้ประกอบการ

นายจาง จื้อเหว่ย ประธานและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัท พินพอยท์ แอสเซ็ท แมเนจเมนท์ (Pinpoint Asset Management) อธิบายปรากฏการณ์ดังกล่าวว่า เศรษฐกิจของจีนกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา

 

ด้วยความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการล็อกดาวน์ที่เป็นผลตามมา ทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการจึงค่อนข้างระมัดระวัง การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของพวกเขาส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างมาก ซึ่งหมายความว่า เศรษฐกิจจีนในช่วงเวลานี้ น่าจะดำเนินไปในระดับ “ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น” เว้นเสียแต่ว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดและเต็มอัตราศึกเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

 

ข้อมูลอ้างอิง