เวิลด์แบงก์เตือนโลกรับมือ เงินเฟ้อพุ่งรุนแรงจากวิกฤตยูเครน

27 เม.ย. 2565 | 07:59 น.

รายงานของธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เตือนภาวะสงครามที่ยืดเยื้อระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และผลกระทบจากการเผชิญหน้าดังกล่าว จะส่งผลทำให้ราคาอาหาร พลังงาน รวมทั้งสินค้าจำเป็นต่าง ๆ พุ่งแรงในปีนี้

ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ออกรายงานเตือน โลกจะพบกับภาวะ ราคาอาหารและสินค้า ที่ปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้ โดยระบุว่า สงครามที่ยืดเยื้อ ระหว่าง รัสเซีย และ ยูเครน ได้ส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งยังสร้างความเสียหายต่อระบบการค้า การผลิต และการอุปโภคบริโภคทั่วโลก

 

ธนาคารโลกเปิดเผยรายงาน "แนวโน้มตลาดสินค้าโภคภัณฑ์” (Commodity Markets Outlook) เมื่อวันอังคาร (26 เม.ย.) ระบุว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์จำพวกอาหารซึ่งผลิตโดยรัสเซียและยูเครนนั้น ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ราคาปุ๋ยซึ่งจำเป็นต้องใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิต พุ่งขึ้นรุนแรงที่สุดในรอบ 14 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์จำพวกอาหารจะปรับตัวสูงขึ้น

รายงานของธนาคารโลกคาดการณ์ว่า ราคาพลังงานจะพุ่งขึ้นกว่า 50% ในปี 2565 ก่อนที่จะชะลอตัวลงในปี 2566 และ 2567

ทั้งนี้ คาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2565 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2556 และเพิ่มขึ้นกว่า 40% เมื่อเทียบกับระดับในปี 2564 จากนั้น คาดว่าราคาจะปรับตัวลงมาอยู่ที่ 92 ดอลลาร์ในปี 2566 แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ราคายังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ส่วนราคาสินค้านอกกลุ่มพลังงาน อาทิ สินค้าโภคภัณฑ์และโลหะ คาดว่าจะพุ่งขึ้นเกือบ 20% ในปี 2565 และจะลดลงในปีต่อ ๆ ไปหลังจากนั้น

 

ธนาคารโลกยังคาดการณ์ด้วยว่า

  • ราคาข้าวสาลีจะทะยานขึ้นกว่า 40% และแตะที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ (2565)
  • ส่วนราคาโลหะจะปรับตัวขึ้น 16% ในปี 2565 ก่อนที่จะชะลอตัวลงในปี 2566 แต่ก็จะยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก

ในกรณีที่สงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ หรือมีการใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม ราคาสินค้าต่าง ๆ ก็จะพุ่งขึ้นอีก

นอกจากนี้ ธนาคารโลกระบุว่า ในกรณีที่สงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ หรือมีการใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมขึ้นไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ราคาสินค้าต่าง ๆ ก็จะพุ่งขึ้นอีก และจะมีความผันผวนมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ในปัจจุบัน