นักวิจัยเร่งพัฒนาวัคซีนโควิดแนวใหม่ ทั้งแบบ'ผสมสูตร' และ 'ฉีดจมูก'

25 เม.ย. 2565 | 00:59 น.

แนวทางการฉีดวัคซีนโควิดมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อบรรดาบริษัทผู้ผลิตยากำลังทดสอบวิธีใหม่ ๆ เพื่อนำมาใช้กับบรรดาเชื้อโคโรนาไวรัสกลายพันธุ์ เช่น การผสมวัคซีนข้ามสูตร หรือการใช้วัคซีนแบบฉีดจมูก แทนการฉีดวัคซีนแบบเดิม ๆ

แพทย์หญิง เบ็ธ เบลล์ แห่งมหาวิทยาลัยรัฐวอชิงตัน (University of Washington) ที่ปรึกษาของ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ ซีดีซี เปิดเผยกับสำนักข่าวเอพีว่า ตนมีความกังวลว่าขณะนี้ประชาชนอเมริกันกำลังเกิดความเบื่อหน่ายใน การฉีดวัคซีนโควิด และอาจเกิดความไม่มั่นใจต่อวัคซีนซึ่งยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญในการรับมือการระบาดของ โควิด-19 พวกเขามีความสับสนว่าประชาชนกลุ่มใดที่ควรเข้ารับวัคซีนบูสเตอร์เข็มที่สองในตอนนี้เลย หรือใครที่ควรรอไปก่อน นอกจากนี้ ยังมีการถกเถียงว่าจำเป็นต้องมีการฉีดวัคซีนบูสเตอร์เข็มต่อไปในช่วงปลายปีนี้หรือไม่ อย่างไร

 

แม้ที่ผ่านมา วัคซีนโควิดได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิผลสูงในการป้องกันอาการป่วยรุนแรงหรือการเสียชีวิตจากโควิด แต่ก็มีแรงกดดันเพิ่มขึ้นให้บริษัทยาต่าง ๆ ต้องพัฒนาวัคซีนที่สามารถป้องกันอาการป่วยเล็กน้อยได้ รวมถึงวัคซีนที่สามารถป้องกันเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ใหม่ ๆ ด้วยเช่นกัน

โลกกำลังจะมีแนวทางใหม่ๆ สำหรับการป้องกันโควิด-19

การคิดค้นวัคซีนสูตรใหม่

บริษัทยาต่าง ๆ กำลังหาวิธีพัฒนาวัคซีนโควิดใหม่ ๆ โดยอ้างอิงจากวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน กล่าวคือ ไม่ต้องปรับปรุงสูตรวัคซีนตามสายพันธุ์ไวรัสที่พบในขณะนั้น เพราะไวรัสอาจกลายพันธุ์ไปได้ตลอดเวลา แต่อาจใช้วิธีผลิตวัคซีนแบบเดียวที่สามารถใช้กับไวรัสได้ 3-4 สายพันธุ์ และฉีดเพียงปีละครั้ง เป็นต้น

 

เวลานี้ บริษัทยา โมเดอร์นา (Moderna) และ ไฟเซอร์ (Pfizer) กำลังทดสอบวัคซีนโควิดแบบ 2-in-1 คือการผสมวัคซีนโควิดแบบเดิมที่ใช้ได้ผลมาแล้ว กับวัคซีนโควิดสำหรับสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งทางโมเดอร์นาส่งสัญญาณว่าวัคซีนแบบใหม่นี้น่าจะสามารถนำมาใช้ได้จริงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

อย่างไรก็ตาม สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) กล่าวว่า หากต้องการให้วัคซีนโควิดแบบผสมสูตรดังกล่าวออกมาใช้ทันฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ซึ่งเป็นช่วงที่โคโรนาไวรัสมักกลับมาระบาดอีกครั้งในสหรัฐอเมริกา ทาง FDA จำเป็นต้องตรวจสอบและรับรองสูตรวัคซีนใหม่ดังกล่าวภายในฤดูร้อนปีนี้ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น

วัคซีนเข็มบูสเตอร์ยังจำเป็นหรือไม่

นายแพทย์เดวิด คิมเบอร์ลิน ที่ปรึกษาของซีดีซี จากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแอละบามา วิทยาเขตเบอร์มิงแฮม (University of Alabama at Birmingham) กล่าวว่า สำหรับบุคคลทั่วไปผู้ที่ได้รับวัคซีนสองเข็มและบูสเตอร์หนึ่งเข็ม ของบริษัทโมเดอร์นาและไฟเซอร์ (รวมสามเข็ม) ก็เพียงพอสำหรับการสร้างภูมิคุ้มกันพื้นฐานและพร้อมกับการฉีดวัคซีนโควิดเพียงปีละเข็มต่อไปจากนี้

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอกว่าคนปกติ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หรือผู้ที่ทำงานซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อไวรัส การได้รับวัคซีนเข็มบูสเตอร์เพิ่มอีกอย่างน้อยหนึ่งเข็มก็อาจช่วยให้สามารถป้องกันโควิดได้ดียิ่งขึ้น

 

ขณะนี้ คนอเมริกันอายุ 50 ปีขึ้นไป สามารถเข้ารับวัคซีนบูสเตอร์เข็มที่สองได้แล้ว เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศ เช่น อิสราเอล ที่เสนอให้ผู้สูงอายุเข้ารับวัคซีนโควิดเข็มที่สี่นี่แล้วเช่นกัน

 

ยาฉีดจมูก: แนวทางใหม่ของวัคซีนโควิด?

สำหรับหลาย ๆ คน เข็มฉีดยาและการฉีดวัคซีนโควิดที่ต้นแขนนั้นอาจทำให้พวกเขาเลี่ยงการเข้ารับวัคซีนโควิดเข็มต่อ ๆ มา ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่า การพัฒนาวัคซีนแบบฉีดเข้าจมูกอาจสามารถเข้ามาเสริมในส่วนนี้ได้

นักวิจัยกำลังเร่งพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิดแบบพ่นจมูก

เวลานี้ บริษัทยาหลายบริษัทกำลังพัฒนาวัคซีนแบบฉีดจมูก หนึ่งในนั้นคือบริษัทภารัตไบโอเทคในอินเดีย ซึ่งกำลังทดสอบในขั้นตอนท้าย ๆ แต่ยังคงไม่สามารถระบุได้ว่า จะมีวัคซีนแบบฉีดจมูกนี้ออกมาให้ใช้กันได้หรือไม่? และเร็วแค่ไหน?

 

แพทย์หญิง เกรซ ลี แห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด หนึ่งในคณะกรรมาธิการของซีดีซี กล่าวว่า การหาแนวทางใหม่เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนเข็มบูสเตอร์นั้นเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการระบาดของไวรัสระลอกใหม่

 

ที่มา: เอพี/วีโอเอ