ทำเนียบขาวของบเพิ่ม รับมือการลุกลามของโอมิครอน BA.2

15 มี.ค. 2565 | 07:41 น.

คาดโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย  BA.2 ระบาดในสหรัฐมาสักพักแล้ว ทำเนียบขาววอนคองเกรสของบประมาณเพิ่ม เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาด

ทำเนียบขาว เปิดเผยวานนี้ (14 มี.ค.) ว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ย่อย BA.2 ของ โอมิครอน แพร่ระบาดใน สหรัฐอเมริกามาระยะหนึ่งแล้ว โดยมีผู้ติดเชื้อประมาณ 35,000 รายในขณะนี้ และจำเป็นต้องใช้งบประมาณมากขึ้นเพื่อรับมือกับ BA.2 เป็นการด่วน

 

นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า เครื่องมือต่าง ๆ ที่สหรัฐมีรวมทั้งวัคซีนและยารักษาโควิด-19 นั้น ล้วนเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับ BA.2

เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว

"เราต้องการเงินทุนสำหรับโควิดเพิ่มเติม" นางซากีกล่าว ซึ่งหมายถึงการที่ทำเนียบขาวของบเพิ่มจากสภาคองเกรส

"หากเราไม่ได้รับเงินทุน บางโครงการอาจต้องยุติกระทันหันหรือจำเป็นต้องปรับลดโครงการลง และอาจส่งผลกระทบต่อวิธีที่เราจะสามารถรับมือกับไวรัสโควิดสายพันธุ์ต่าง ๆ"

 

ทั้งนี้ การทดลองในห้องปฏิบัติการและในสัตว์ทดลองบ่งชี้ว่า ไวรัสโควิดโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 อาจทำให้เกิดอาการป่วยหนักกว่าสายพันธุ์โอมิครอนดั้งเดิม ขณะที่ผลการศึกษาช่วงแรกพบ สายพันธุ์ BA.2 อาจแพร่เชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์โอมิครอนดั้งเดิมถึง 30%

 

ในส่วนของประเทศไทยนั้น นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยวานนี้ (14 มี.ค.) ว่า โควิด-19 ในประเทศไทยเป็นโอมิครอน 99.7% โดยมีสัดส่วนสายพันธุ์ย่อย BA.2 เพิ่มขึ้นจาก 52% เป็น 68% และพบ 4 ราย ที่มีการกลายพันธุ์เข้าข่าย BA.2.2 แต่ต้องรอการวิเคราะห์รายละเอียด และการกำหนดชื่อสายพันธุ์อย่างเป็นทางการจาก GISAID ก่อน

ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 ในไทยช่วงวันที่ 5-11 มี.ค. 2565 พบสายพันธุ์เดลตาเพียง 6 ราย คิดเป็น 0.3% ที่เหลือ 1,961 ราย เป็นสายพันธุ์โอมิครอน หรือคิดเป็น 99.7% และ เมื่อจำแนกสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน พบว่า เป็น

  • BA.1 จำนวน 610 ราย คิดเป็น 32%
  • BA.2 จำนวน 1,272 ราย คิดเป็น 68% เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนที่พบ 52% และมีการกระจายทุกเขตสุขภาพทั่วประเทศ

 

นพ.ศุภกิจกล่าวว่า สำหรับ BA.2 ยังมีการแบ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยอีก 3 สายพันธุ์ คือ BA.2.1 , BA.2.2 และ BA.2.3 ซึ่งเป็นการแบ่งของกลุ่มนักวิเคราะห์ข้อมูลที่เตรียมส่งเข้ามายังฐานข้อมูลโลก GISAID แต่ยังไม่ได้กำหนดชื่อสายพันธุ์อย่างเป็นทางการ เนื่องจากต้องรอการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ก่อน คาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็ววันนี้