คว่ำบาตร"ปูติน"! ปฏิกริยาผู้นำนานาประเทศหลังรัสเซียบุกกินรวบยูเครน

26 ก.พ. 2565 | 04:37 น.

นานาประเทศได้ออกโรงประณาม-คว่ำบาตร-เรียกร้องการเจรจาแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี หลังรัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการทางการทหารโจมตียูเครนอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา และสามารถเข้าถึงกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนภายในวันที่สองของการโจมตี (25 ก.พ.)

ผู้นำนานาประเทศ ได้ออกมาเรียกร้องให้มี การเจรจาสันติภาพ ขณะเดียวกันบางประเทศก็เพิ่ม มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย เพื่อสร้างแรงกดดันให้เร่งกระบวนการเจรจาเพื่อการคลี่คลายวิกฤตโดยสันติวิธี หลัง กองทัพรัสเซีย บุกกระหน่ำโจมตีเมืองหลวงของ ยูเครน 

 

สหรัฐอเมริกา

สหรัฐสั่งคว่ำบาตร "ปูติน" โดยตรง พร้อมจนท.ระดับสูงของรัสเซียแล้ว หลังกองทัพรัสเซียบุกถึงชานกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนวานนี้ (25 ก.พ.) กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย ได้แก่

  • นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศ
  • นายเซอร์เก ชอยกู รมว.กลาโหม
  • นายวาเลรี เจราซิมอฟ เสนาธิการทั่วไป

เพื่อตอบโต้กรณีที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน

เป็นครั้งแรกที่สหรัฐคว่ำบาตรที่ตัวปธน.ปูติน ผู้นำรัสเซียโดยตรง

“รัสเซียจะต้องได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและทางการทูตอย่างรุนแรงสำหรับการเดินหน้ารุกรานยูเครน"นางเจเนต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐระบุในแถลงการณ์ และยังเพิ่มเติมว่า หากจำเป็น สหรัฐก็พร้อมจะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมกับรัสเซียสำหรับพฤติกรรมที่น่ากลัวในเวทีโลก นอกจากนี้ โฆษกทำเนียบขาวยังระบุในทวีตเมื่อวันศุกร์ (25 ก.พ.) ว่า กระทรวงการคลังสหรัฐจะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรอย่างเต็มรูปแบบต่อกองทุนเพื่อการลงทุนโดยตรงของรัสเซีย (Russian Direct Investment Fund) ที่เป็นของรัฐบาลรัสเซียด้วย

ก่อนหน้านี้ สหรัฐเคยประกาศคว่ำบาตรบุคคลระดับสูงของรัสเซียมาหลายคนแล้ว รวมทั้งครอบครัวของพวกเขา แต่ยังไม่เคยคว่ำบาตรปธน.ปูตินโดยตรง นอกจากนี้ สหรัฐยังประกาศห้ามชาวอเมริกันทำธุรกิจใน DPR (สาธารณรัฐโดเนตสก์) และ LPR (สาธารณรัฐลูฮันสก์) ซึ่งประกาศตัวเป็นรัฐอิสระจากยูเครน และยังประกาศแผนปิดกั้นการซื้อขายที่เกี่ยวข้องกับธนาคาร VEB และธนาคารกองทัพรัสเซีย ที่สำคัญคือ สหรัฐยังจะตัดขาดรัฐบาลรัสเซียออกจากระบบการเงินของชาติตะวันตก เพื่อเล่นงานตราสารหนี้ของรัสเซียด้วย  

 

ผู้นำสหรัฐยังประกาศจะส่งทหารและยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่แล้วในยุโรป ไปเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ชาติพันธมิตรแถบทะเลบอลติก โดยย้ำว่า นี่เป็นการเคลื่อนไหวเชิงป้องกัน ไม่ใช่เพื่อจะต่อสู้กับรัสเซีย

 

แคนาดา

นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซียและประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียชุดใหม่

 

"เราขอประณามรัสเซียที่จู่โจมยูเครนโดยปราศจากการยั่วยุและไม่ยุติธรรมต่อรัฐอธิปไตยของยูเครน ผู้นำรัสเซียเพิกเฉยต่อกฎหมายระหว่างประเทศ ประชาธิปไตย และชีวิตมนุษย์อย่างโจ่งแจ้ง เป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงต่อความมั่นคงและสันติภาพทั่วโลก" นายทรูโดยังกล่าวด้วยว่า แคนาดากำลังจะออกมาตรการคว่ำบาตรอย่างรุนแรง ที่พุ่งเป้าหมายไปยังบุคคลและหน่วยงานของรัสเซีย 58 รายรวมถึงสมาชิกของชนชั้นสูงของรัสเซียและสมาชิกในครอบครัวของพวกเขา

ทัพรถถังของรัสเซียรุกถึงชานกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนเมื่อวันศุกร์ (25 ก.พ.)

ออสเตรเลีย

นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ที่เคยคาดการณ์ว่า รัสเซียจะโจมตียูเครนภายใน 24 ชั่วโมงและเหตุการณ์ก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ (เมื่อวันที่ 24 ก.พ.) เขาได้กล่าวประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซียว่ารุนแรงเกินไปทั้งที่ปราศจากการยั่วยุ

 

ออสเตรเลียตัดสินใจประกาศคว่ำบาตรสถาบันการเงินรัสเซียอีก 4 แห่ง และบุคคลรัสเซีย 25 ราย พุ่งเป้าไปที่ผู้บัญชาการกองทัพ คณะมนตรีกลาโหม สมาชิกความมั่นคงแห่งรัสเซีย นอกจากนี้ จ่อคว่ำบาตรเพิ่มเติมอีกมากกว่า 300 ราย นายมอร์ริสันย้ำว่า รัสเซียกำลังละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรสหประชาชาติอย่างโจ่งแจ้ง โดยเลือกที่จะทำสงคราม ออสเตรเลียและประชาคมโลก จึงขอประณามการกระทำที่ชั่วร้ายของรัสเซียและจะตอบโต้ด้วยมาตรการคว่ำบาตรในระดับ “รุนแรงที่สุด”

 

ฝรั่งเศส

นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่พยายามรักษาสันติภาพโดยจะสวมบทบาทเป็นคนกลางจัดการประชุมระหว่างผู้นำสองมหาอำนาจ รัสเซีย-สหรัฐ เพื่อหาทางออกให้กับวิกฤตยูเครน ยังต้องออกมาประณามการตัดสินใจรุกรานยูเครนของปธน.ปูตินว่า นี่เป็นการโจมตีสันติภาพที่ “ร้ายแรงที่สุด” ในรอบหลายทศวรรษ

 

“การเลือกทำสงคราม ประธานาธิบดีปูตินไม่ได้แค่โจมตียูเครน เขาได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการโจมตีที่ร้ายแรงที่สุดต่อกระบวนการสันติภาพ และต่อความมั่นคงของยุโรปที่มีมายาวนานหลายทศวรรษ" มาครง กล่าว

 

อังกฤษ

อังกฤษเป็นอีกพันธมิตรที่ชัดเจนของสหรัฐในกรณีความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ออกมาประณามรัสเซียว่า "ความกลัวที่เลวร้ายที่สุดของเราได้เป็นจริงแล้ว และคำเตือนทั้งหมดของเราได้รับการพิสูจน์แล้วว่าแม่นยำอย่างน่าเศร้า ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นในนามของคุณ (วลาดิเมียร์ ปูติน) หรือคุณต้องการสถานะคนเลวทรามที่จะนำไปสู่ระบอบการปกครองแบบปูติน" จอห์นสัน กล่าว

 

อังกฤษคว่ำบาตรรัสเซียรอบแรกไปแล้ว โดยเป็นการคว่ำบาตรธนาคาร 5 แห่งของรัสเซีย ร่วมกับการคว่ำบาตรบุคคล 3 คน ประกอบไปด้วย เจนนาดี ทิมเชนโก้ , อิกอร์ โรเตนเบิร์ก และบอริส โรเตนเบิร์ก โดยระบุว่าทั้งหมดมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แต่หลังจากที่กองทัพรัสเซียบุกถึงเมืองเคียฟ ผู้นำอังกฤษประกาศพร้อมจะทำงานร่วมกับพันธมิตรชาติตะวันตกเพิ่ม "มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่" ซึ่งออกแบบมาเพื่อ "ขัดขวางเศรษฐกิจรัสเซีย"เป็นสำคัญ ขณะเดียวกัน รัฐบาลอังกฤษยังได้ประกาศสัมปทานวีซ่าสำหรับพลเมืองยูเครนเพื่อเป็นการช่วยเหลือในการอพยพหนีภัยสงครามอีกด้วย

 

สหภาพยุโรป

เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ให้คำมั่นว่าจะดำเนินมาตรการตอบโต้พฤติกรรมก้าวร้าวของรัสเซียด้วยการทำให้ฐานเศรษฐกิจของรัสเซียอ่อนแอลง และสกัดกั้นความสามารถในการปรับปรุงอุตสาหกรรมของรัสเซียให้ทันสมัย โดยสหภาพยุโรป (อียู) จะระงับทรัพย์สินของรัสเซียในอียู และปิดกั้นการเข้าถึงธนาคารรัสเซียไปยังตลาดการเงินในยุโรป

 

การคว่ำบาตรเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อสร้างผลกระทบขั้นหนักต่อผลประโยชน์ของเครมลินและความสามารถในการจัดหาเงินทุนของรัสเซียในการทำสงคราม “เรารู้ว่าชาวรัสเซียหลายล้านคนไม่ต้องการทำสงคราม เราจะไม่อนุญาตให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แทนที่หลักนิติธรรมด้วยกฎแห่งการใช้กำลัง และความโหดเหี้ยม ยูเครนจะต้องชนะ" ประธานฯอียู กล่าว

 

ก่อนหน้านี้ อียูมีมติที่จะขึ้นบัญชีดำนักการเมือง สมาชิกสภานิติบัญญัติ และเจ้าหน้าที่ของรัสเซีย ทั้งยังสั่งห้ามนักลงทุนจากอียูไม่ให้ค้าขายกับรัสเซีย โดยพุ่งเป้าไปที่การส่งออกและนำเข้าสินค้ากับพื้นที่กลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนที่ทางรัสเซียรับรองอธิปไตย ทั้งนี้ รวมจำนวนบุคคลและองค์กรของรัสเซียที่ถูกอียูคว่ำบาตรจำนวน 27 รายการ ครอบคลุมธนาคารหลายแห่ง นอกจากนี้ สมาชิกสภาดูมา หรือสภาผู้แทนราษฎรรัสเซียบางส่วนจากทั้งหมด 351 คน ก็ตกเป็นเป้าหมายของมาตรการลงโทษด้วย

 

เยอรมนี

รัฐบาลเยอรมนีได้ประกาศตัดช่องทางส่งก๊าซธรรมชาติที่จะส่งจากรัสเซียเข้ามายังเยอรมนี ด้วยการระงับการออกใบอนุญาตประกอบการให้แก่โครงการท่อส่งก๊าซนอร์ด สตรีม 2 ของรัสเซีย ซึ่งตามกำหนดเดิมหากมีการเปิดใช้งาน จะส่งก๊าซธรรมชาติให้เยอรมนีปีละกว่า 50,000 ล้านลูกบาศก์เมตร

โครงการนอร์ดสตรีม2

จีน

จีนเป็นประเทศหนึ่งที่ปฏิเสธการกล่าวประณามการโจมตีของรัสเซียในยูเครน และแทนที่จีนจะเรียกร้องให้ทุกฝ่ายพยายามยับยั้งชั่งใจ จีนกลับกล่าวหาว่าสหรัฐอเมริกานั้นกำลังจุดไฟในความตึงเครียด

 

นายฮัว ฉันหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวว่า "ปัญหาของยูเครนมีภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนมาก มันมีวิวัฒนาการมาสู่สถานการณ์ปัจจุบันเนื่องจากการดำเนินการร่วมกันของปัจจัยต่าง ๆ ความปลอดภัยควรเป็นเรื่องของความร่วมมือร่วมและความมั่นคงที่ยั่งยืน ขณะเดียวกัน ความกังวลด้านความปลอดภัยที่ถูกต้องตามกฎหมายของทุกฝ่ายควรได้รับการเคารพและกล่าวถึง

 

เมื่อถูกสื่อมวลชนถามจี้ถึงประเด็นว่า "จีนมองว่าการเคลื่อนไหวของรัสเซียเป็นการบุกรุกหรือไม่ ?" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ตอบกลับว่า "ทำไมคุณถึงหมกมุ่นอยู่กับคำถามนี้ ? คุณสามารถถามฝ่ายสหรัฐได้ พวกเขายังคงจุดไฟอยู่ คุณสามารถถามพวกเขาว่าพวกเขามีแผนการจะดับไฟไหม ?"

 

NATO

องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จะเพิ่มกองกำลังทางบก ทางทะเล และทางอากาศทางด้านตะวันออก เพื่อตอบโต้ “การโจมตียูเครนที่น่าสยดสยองของรัสเซีย"

 

แถลงการณ์ของนาโตระบุว่า การกระทำของรัสเซียเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงของยูโร-แอตแลนติก นาโตจะใช้มาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อรับรองความปลอดภัยและป้องกันพันธมิตรทั้งหมดของนาโต ทั้งนี้ ได้มีการส่งกองกำลังป้องกันทั้งทางบกและทางอากาศเพิ่มเติมไปยังภาคตะวันออกของประเทศพันธมิตรนาโตในแถบทะเลบอลติก เช่นเดียวกับกลาโหมสหรัฐที่มีคำสั่งให้ส่งทหารสหรัฐจำนวน 7,000 นายไปยังยุโรปเพิ่มเติม เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ในยูเครน