ถ้ารัสเซียถูกคว่ำบาตร ตรวจแถว“ประเทศเอเชีย" ที่เสี่ยงกระทบด้านพลังงาน

18 ก.พ. 2565 | 08:05 น.

วิกฤตยูเครนยังทวีความร้อนแรง ขณะที่การเผชิญหน้าระหว่างรัสเซียและยูเครนอาจกลายเป็นประเด็นจุดชนวนความขัดแย้งในทวีปยุโรป นักวิเคราะห์เตือนว่า กรณีดังกล่าวนี้ อาจส่งผลกระทบต่อประเทศในเอเชียหลายประเทศ โดยเฉพาะรายที่ต้องพึ่งพาน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหินจากรัสเซีย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นักวิเคราะห์ได้ออกโรงเตือน หาก กองกำลังรัสเซีย บุกรุก ยูเครน รัสเซียอาจเผชิญกับ มาตรการคว่ำบาตร ลงโทษ และโต้ตอบ ที่อาจทำให้ การส่งออกเชื้อเพลิง สะดุดลง และอาจส่งผลกระทบต่อ ความมั่นคงด้านพลังงาน ของประเทศที่นำเข้าเชื้อเพลิงจาก รัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกพลังงานรายใหญ่ของโลก ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือถ่านหิน ดังกล่าวข้างต้น

 

ทั้งนี้ ประเทศในแถบเอเชียที่พึ่งพาการนำเข้าน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหินจากรัสเซียเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากมีการคว่ำบาตรรัสเซียทางเศรษฐกิจ (กรณีบุกยูเครน) และห้ามทำการค้าขายสินค้าระหว่างกัน ประเทศแรก ๆที่จะได้ผลกระทบนั้น ได้แก่  

รัสเซียคือผู้ส่งออกพลังงานรายสำคัญของโลก

จีน

รัสเซียส่งออกน้ำมันดิบ 15.4% ของปริมาณน้ำมันดิบที่รัสเซียส่งออกทั้งหมดไปยัง “จีน” นับเป็นตลาดที่จีนนำเข้าน้ำมันดิบมากอันดับสอง รองจากซาอุดีอาระเบีย เมื่อปีที่แล้ว (2564) จีนซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซียโดยเฉลี่ยวันละ 1.59 ล้านบาร์เรล หรือราว 15.5% ของปริมาณน้ำมันดิบที่จีนนำเข้าทั้งหมด

รอยเตอร์รายงานว่า น้ำมันดิบ 40% ที่รัสเซียส่งออกให้จีน ถูกส่งผ่านท่อส่งน้ำมันสายไซบีเรียตะวันออก-มหาสมุทรแปซิฟิก นอกจากนี้ รัสเซียยังเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติให้จีนมากที่สุดเป็นอันดับสามในปีที่แล้ว (2564) โดยรัสเซียส่งออกก๊าซธรรมชาติ 6.7% ไปยังจีน คิดเป็นปริมาณ 16,500 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือราว 12.07 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วนราว 5% ของความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติทั้งหมดของจีน

 

ไม่เพียงเท่านั้น รัสเซียยังเป็นผู้ส่งออกถ่านหินเป็นลำดับสองของจีน ข้อมูลศุลกากรระบุว่า เมื่อปี 2564 จีนนำเข้าถ่านหินจากรัสเซีย 15.25 ล้านตัน คิดเป็น 4.72% ของถ่านหินทั้งหมดที่จีนนำเข้า

 

เกาหลีใต้

ในปี 2564 รัสเซียเป็นประเทศส่งออกน้ำมันดิบลำดับที่ 4 ของเกาหลีใต้ ต่อจากซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอเมริกา และคูเวต ข้อมูลจากสมาคมการค้าระหว่างประเทศแห่งเกาหลี (KITA) ระบุว่า เมื่อปีที่ผ่านมา เกาหลีใต้นำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียราว 7.92 ล้านตัน มูลค่าราว 42,700 ล้านดอลลาร์

 

KITA ยังระบุด้วยว่า ในปีเดียวกันนั้น เกาหลีใต้นำเข้าก๊าซธรรมชาติ 2.87 ล้านตันจากรัสเซีย ทำให้รัสเซียเป็นประเทศส่งออกก๊าซลำดับ 6 ของเกาหลีใต้ นอกจากนี้ รัสเซียยังเป็นประเทศส่งออกถ่านหินเป็นลำดับที่ 2 ของเกาหลีใต้เมื่อปีที่ผ่านมา รองจากออสเตรเลีย รัสเซียส่งออกถ่านหิน 21.95 ล้านตัน มูลค่าราว 25,600 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 17.5% ของถ่านหินทั้งหมดที่เกาหลีใต้นำเข้า

หลายประเทศในเอเชียพึ่งพาแหล่งผลิตพลังงานในรัสเซีย

ญี่ปุ่น

ข้อมูลศุลกากรญี่ปุ่นระบุว่า ปี 2564 รัสเซียเป็นประเทศส่งออกถ่านหินประเภทให้ความร้อนเป็นลำดับสองของญี่ปุ่น โดยส่งออกถ่านหิน 12.48% ของถ่านหินทั้งหมดที่ญี่ปุ่นนำเข้า

 

รัสเซียเป็นประเทศส่งออกน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเหลวเป็นลำดับ5 ของญี่ปุ่น คิดเป็น 3.63% และ 8.84% ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมดของญี่ปุ่นตามลำดับ

 

เวียดนาม

เมื่อปีที่แล้ว รัสเซียเป็นผู้ส่งออกถ่านหินเป็นลำดับ3 ของเวียดนาม รองจากออสเตรเลียและอินโดนีเซีย ข้อมูลศุลกากรเวียดนามระบุว่า รัสเซียส่งออกถ่านหินไปยังเวียดนาม 3.59 ล้านตัน คิดเป็น 9.9% ของปริมาณถ่านหินนำเข้าทั้งหมดของเวียดนาม

 

เวียดนามไม่ได้นำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียในปีที่ผ่านมา แต่บริษัท ปิโตรเวียดนาม ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐ ถือหุ้น 49% ในกิจการร่วมค้าน้ำมันกับบริษัทซารุเบชเนฟท์ (Zarubezhneft) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลรัสเซียในเขตปกครองตนเองเนเนตส์ของรัสเซีย ซึ่งจนถึงช่วงกลางปี 2564 ได้ผลิตน้ำมันดิบแล้วทั้งสิ้น 30 ล้านตัน นับตั้งแต่ก่อตั้งมาเมื่อปีค.ศ. 2008 (พ.ศ.2551)

 

อินเดีย

ข้อมูลจากบริษัทการตลาดพลังงาน Iman Resources ระบุว่า เมื่อปีที่ผ่านมา อินเดียนำเข้าถ่านหินประเภทให้ความร้อนจากรัสเซีย 1.8 ล้านตัน ลดลงจากเมื่อปี 2563 ซึ่งนำเข้า 2.5 ล้านตัน

 

ปริมาณถ่านหินประเภทให้ความร้อนนำเข้าจากรัสเซียของอินเดียเมื่อปีที่แล้ว (2564) ลดลงเหลือ 1.3% ของปริมาณถ่านหินประเภทให้ความร้อนทั้งหมด จากเมื่อปี 2563 ที่นำเข้าคิดเป็นสัดส่วน 1.6%

 

เมื่อปีที่ผ่านมา อินเดียนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย 43,400 บาร์เรลต่อวัน คิดเป็นราว 1% ของปริมาณน้ำมันนำเข้าทั้งหมดของอินเดีย

 

นอกจากนี้ รัสเซียยังส่งออกก๊าซธรรมชาติปริมาณ 0.2% ให้แก่อินเดีย โดยบริษัท GAIL ซึ่งเป็นบริษัทก๊าซธรรมชาติของรัฐบาลอินเดีย ทำสัญญาซื้อก๊าซธรรมชาติเหลวปีละ 2.5 ล้านตัน เป็นเวลา 20 ปีกับบริษัทก๊าซพรอม (Gazprom) ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของรัฐบาลรัสเซีย โดยเริ่มทำสัญญากันเมื่อปี 2561

 

ข้อมูลอ้างอิง