ฮ่องกงสมองไหล นักเรียน-ปชช. แห่ย้ายถิ่นฐาน หลังจีนคุมเข้มระบบการศึกษา

06 ส.ค. 2564 | 07:57 น.

สื่อใหญ่สิงคโปร์รายงานว่า ประชาชนจำนวนมากรวมทั้งนักเรียน-นักศึกษา ขออพยพออกจากฮ่องกงไปยังประเทศอื่น ๆ หลังรัฐบาลจีนประกาศใช้กม.ความมั่นคงฉบับใหม่เมื่อปี 63 อีกทั้งยังเข้ามาควบคุมระบบการศึกษาในฮ่องกงมากขึ้น ทำให้โรงเรียนประสบปัญหาทางการเงินและน.ร.แห่ลาออก

เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์สเตรท ไทม์ส รายงานว่า ชาวฮ่องกง จำนวนมากโดยเฉพาะบรรดานักเรียนและนักศึกษาได้พากันเดินทางออกจากฮ่องกง เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการที่จีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว (2563) นอกจากนี้ ยังมีชาวฮ่องกงอีกจำนวนมากที่ตัดสินใจอพยพออกจากฮ่องกงไปยังสหราชอาณาจักร และประเทศอื่น ๆ หลังจากรัฐบาลจีนยกเครื่องระบบการศึกษา (อ่านเพิ่มเติม: นักเรียนในฮ่องกงนับพันย้ายถิ่น ไทยติดอันดับตัวเลือกบ้านหลังที่ 2)

 

อลัน ชาน วิศวกรชาวฮ่องกงเปิดเผยกับสเตรทส์ ไทม์สว่า เขาได้พาครอบครัวอพยพถิ่นฐานไปยังสหราชอาณาจักรในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้นในฮ่องกงเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทำให้เขาไม่อาจทนกับสภาพแวดล้อมแบบเดิมได้ โดยเขาต้องการให้ลูกเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เป็นประชาธิปไตยและมี เสรีภาพในการเรียน ในโรงเรียนมากขึ้น

ชาวฮ่องกงส่วนหนึ่งต้องการให้ลูกเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เป็นประชาธิปไตยและมีเสรีภาพในการเรียน

ทั้งนี้ ล่าสุดรัฐบาลจีนประกาศกฎใหม่เมื่อวันที่ 23 ก.ค. โดยสั่งห้ามโรงเรียนกวดวิชาแสวงหาผลกำไรในวิชาหลักของโรงเรียน เพื่อลดภาระทางการเงินให้กับผู้ปกครอง นอกจากนี้ ยังสั่งจำกัดการลงทุนจากต่างประเทศในธุรกิจด้านการศึกษา ทั้งในรูปแบบการควบรวมกิจการ การซื้อกิจการ หรือการซื้อแฟรนไชส์

 

อีวาน ชอย อาจารย์ประจำภาควิชาการเมืองของมหาวิทยาลัย  Chinese University of Hong Kong กล่าวว่า ภาคการศึกษาของฮ่องกงจะเผชิญแรงกดดันเมื่อปีการศึกษาใหม่เริ่มเปิดฉากขึ้นในเดือนหน้า โดยคาดว่า ครูผู้สอนและโรงเรียนจะเจอกับอุปสรรคในด้านการเงิน เนื่องจากนักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนนั้น มีจำนวนลดลงอย่างมาก

หลักสูตรการเรียนการสอนถูกเพิ่มความเป็นชาตินิยม (จีนแผ่นดินใหญ่)มากขึ้น

"รัฐบาลจีนและฮ่องกงมองว่า ธุรกิจสื่อและการศึกษาควรต้องแบกรับความรับผิดชอบต่อเยาวชนมากที่สุด รัฐบาลคิดว่าภาคส่วนทั้งสองนี้จะต้องได้รับการปรับปรุง แต่มาตรการดังกล่าวส่งผลให้การลงทะเบียนเรียนในปี 2563 ทรุดตัวลงมากที่สุดในรอบกว่า 10 ปี ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้กำลังบั่นทอนเสถียรภาพด้านการเงินของโรงเรียนหลายแห่งที่กำลังสูญเสียทั้งรายได้ค่าเทอมและการอุดหนุนจากรัฐบาล ในขณะที่นักเรียนก็ลาออกจำนวนมาก" เขากล่าว

 

เมื่อเร็ว ๆนี้ รัฐบาลฮ่องกงยังได้ประกาศตัดความสัมพันธ์กับสหภาพครูอาชีพของฮ่องกง (Hong Kong Professional Teachers' Union) ซึ่งเป็นสหภาพครูที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกง โดยกล่าวหาว่า สหภาพครูแห่งนี้พยายามจุดไฟเผาเมืองด้วยการสนับสนุนความเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ขณะที่สื่อของรัฐบาลจีนระบุว่า สหภาพดังกล่าวเป็นเนื้อร้ายที่จำเป็นต้องตัดทิ้ง