“ฮุนเซน" ยอมรับโครงการขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยร่วมกับบ.สิงคโปร์ จบไม่สวย

02 ส.ค. 2564 | 17:58 น.

ผู้นำกัมพูชายอมรับคว้าน้ำเหลวจากโครงการร่วมทุนบริษัทสิงคโปร์ขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย โดย “คริสอิเนอร์จี” หุ้นส่วนใหญ่ไม่เพียงล้มละลาย ยังเชิดน้ำมันหนีออกนอกประเทศด้วย 

สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวยอมรับวานนี้ (2 ส.ค.) ว่า โครงการขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย ของ กัมพูชา กลับกลายเป็น “ความล้มเหลว”แล้ว หลังจากที่ คริสอิเนอร์จี (KrisEnergy) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตน้ำมันและก๊าซของสิงคโปร์และเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของโครงการ ประสบภาวะล้มละลาย

 

เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 กัมพูชาเพิ่งประกาศว่าสามารถผลิตน้ำมัน “หยดแรก” ของประเทศได้จากโครงการนี้ แต่ปัจจุบันโครงการดังกล่าวกลับประสบความล้มเหลวแล้วอย่างสิ้นเชิง

โครงการขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยของคริสอิเนอร์จีกับรัฐบาลกัมพูชา

สมเด็จฮุนเซน ผู้นำกัมพูชา เปิดเผยเองว่า โครงการร่วมทุนดังกล่าวผลิตน้ำมันได้เพียง 1,000 บาร์เรล/วัน ต่ำกว่าที่คาดว่าจะได้ 7,500 บาร์เรล/วัน และขณะนี้ คริสอิเนอร์จีก็ได้ล้มละลายแล้ว โดยสมเด็จฮุนเซนยังกล่าวหาด้วยว่า บริษัทสัญชาติสิงคโปร์รายนี้ได้หนีไปพร้อมกับเรือบรรทุกน้ำมันที่เป็นผลผลิตของโครงการ “เราสกัดไว้ไม่ทัน พวกเขาหนีไปแล้วโดยเชิดน้ำมันของเราไปด้วย " อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีกัมพูชาไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และสำนักข่าวเอเอฟพีก็ได้ติดต่อขอความเห็นจากบริษัท คริสอิเนอร์จี แต่ยังไม่มีคำตอบใดๆ  

 

ทั้งนี้ คริสอิเนอร์จีประกาศล้มละลายในเดือนมิ.ย. เนื่องจากผลิตน้ำมันไม่ได้ตามเป้า ทำให้ไม่มีรายได้ที่จะชดใช้หนี้ของบริษัท

 

ก่อนหน้านั้น สมเด็จฮุนเซนแถลงเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2563 ว่า หลังจากผ่านความล่าช้ามาหลายปี คริสอิเนอร์จี ก็สามารถผลิตน้ำมันเป็นครั้งแรกจากแหล่ง Block A ในอ่าวไทย ซึ่งอยู่ห่างจากสีหนุวิลล์ราว 160 กิโลเมตรและนั่นก็เป็นครั้งแรกที่กัมพูชาสามารถผลิตน้ำมันในเชิงพาณิชย์จากการขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยผ่านโครงการนี้

 

"การเริ่มผลิตน้ำมันในครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีต่อกัมพูชา และเป็นก้าวแรกของกัมพูชาในการสร้างอุตสาหกรรมพลังงาน น้ำมันและก๊าซในประเทศ ในวันนี้ กัมพูชาได้กลายเป็นหนึ่งในเพียงไม่กี่ประเทศที่สามารถผลิตน้ำมันได้ ซึ่งถือเป็นความภูมิใจของกัมพูชา" สมเด็จฮุนเซนกล่าว

 

ทั้งนี้ รัฐบาลกัมพูชาและคริสอิเนอร์จี ได้ลงนามข้อตกลงในปี 2560 เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำมันในอ่าวไทย โดยฝ่ายคริสอิเนอร์จี ถือหุ้น 95% ในโครงการ และรัฐบาลกัมพูชาถือหุ้น 5% ที่เหลือ โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายในการขุดเจาะน้ำมันใน 5 แหล่ง โดยตั้งเป้าที่จะผลิตน้ำมัน 7,500 บาร์เรล/วัน หรือ 2.73 ล้านบาร์เรล/ปี

 

รัฐบาลกัมพูชาคาดหมายว่า โครงการดังกล่าวจะสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศกัมพูชาอย่างน้อย 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากค่าธรรมเนียมดำเนินการและภาษีในช่วงเฟสแรกของโครงการ  

 

ข้อมูลอ้างอิง

Cambodia stops offshore oil extraction after KrisEnergy goes bankrupt: PM

Hun Sen declares oil extraction a 'failure' for Cambodia