ไฟเซอร์ย้ำกระแสวัคซีนเข็มที่3 เตรียมยื่น FDA ขออนุมัติใช้ฉีดกระตุ้นภูมิ

09 ก.ค. 2564 | 03:40 น.

“ไฟเซอร์” เตรียมขอ FDA อนุมัติใช้วัคซีนฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ตอกย้ำกระแสวัคซีนเข็มที่3 หลังมีหลักฐานพบประสิทธิภาพในการป้องกันลดวูบ หวั่นประชาชนติดเชื้อซ้ำในระยะ 6 เดือน

บริษัทไฟเซอร์ อิงค์ วางแผนจะยื่นเรื่องต่อ คณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกา ภายในเดือนส.ค.นี้ เพื่อขออนุมัติการใช้ วัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (Booster Shot) เพื่อป้องกันการติดเชื้อ โควิด-19 ให้ได้ผลดียิ่งขึ้น หลังจากบริษัทพิจารณาหลักฐานที่บ่งชี้ว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วนั้นก็ยังมีความเสี่ยงที่จะกลับมาติดเชื้อได้อีกในระยะเวลา 6 เดือน รวมทั้งพิจารณาถึงความเสี่ยงของไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในเวลานี้

ไฟเซอร์ย้ำกระแสวัคซีนเข็มที่3 เตรียมยื่น FDA ขออนุมัติใช้ฉีดกระตุ้นภูมิ

นายมิคาเอล ดอลสเต็น ประธานเจ้าหน้าที่ด้านวิทยาศาสตร์ของบริษัทไฟเซอร์ เปิดเผยเกี่ยวกับรายงานข่าวเมื่อไม่นานมานี้ ที่ระบุว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์มีประสิทธิภาพในการป้องกันลดลงในประเทศอิสราเอลนั้น ส่วนใหญ่พบว่าเป็นการติดเชื้อในประชาชนที่ได้รับวัคซีนในช่วงเดือนม.ค.หรือก.พ. โดยกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลได้ออกมาระบุว่า วัคซีนของไฟเซอร์มีประสิทธิภาพทั้งในการป้องกันการติดเชื้อและป้องกันอาการเจ็บป่วย ลดลงเหลือเพียง 64% ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา

"วัคซีนของไฟเซอร์มีประสิทธิภาพสูงมากในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดลตา แต่หลังจากที่ได้รับวัคซีนผ่านไปแล้ว 6 เดือน ก็มีความเสี่ยงที่จะกลับมาติดเชื้อได้อีก เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่าภูมิต้านทาน (แอนติบอดี) ได้ลดต่ำลงเมื่อเวลาผ่านไป" นายดอลสเต็นกล่าว

 

การแถลงข่าวของไฟเซอร์เมื่อวานนี้ (8 ก.ค.) ตามเวลาสหรัฐ ระบุว่า จากหลักฐานการใช้จริงที่ได้จากกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล บ่งชี้ว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัท มีประสิทธิภาพลดลงหลังฉีดไปแล้ว 6 เดือน ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาได้แพร่ระบาดหนักและกลายเป็นสายพันธุ์หลักในอิสราเอล

ไฟเซอร์ย้ำกระแสวัคซีนเข็มที่3 เตรียมยื่น FDA ขออนุมัติใช้ฉีดกระตุ้นภูมิ

“ข้อค้นพบเหล่านี้สอดคล้องกับการวิเคราะห์การทดลองเฟส 3 ของบริษัท นั่นคือเหตุผลที่ทำไมเราถึงพูดและเชื่อมาตลอดจากหลักฐานที่มีทั้งหมดจนถึงขณะนี้ว่า เราอาจจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็ม 3 ภายใน 6-12 เดือนหลังจากฉีดเข็ม 2 แล้ว” ผู้บริหารของไฟเซอร์กล่าว

 

องค์การอนามัยโลก (WHO) ประเมินว่า ไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา ติดต่อได้ง่ายกว่า 55% เมื่อเทียบกับสายพันธุ์อัลฟา ที่พบครั้งแรกในประเทศอังกฤษ และเคยเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศทั่วโลก จากหลักฐานที่มีอยู่ในปัจจุบันพบว่า วัคซีนไฟเซอร์มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจากสายพันธุ์เดลตา แต่อาจจะไม่ป้องกันการเจ็บป่วยเล็กน้อยและแพร่เชื้อให้กับคนอื่นๆ