บริษัทท็อป โกลฟ คอร์ป ผู้ผลิตถุงมือยางจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็น ผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดในโลก ยืนยันว่า มีพนักงานของบริษัท 1 รายเสียชีวิตแล้วเนื่องจากโรค โควิด-19 โดยถือเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกนับตั้งแต่พบ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในหอพักพนักงาน เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา และทางการได้ สั่งปิดชั่วคราวโรงงานของท็อป โกลฟ เมื่อเดือนพ.ย.
เจ้าหน้าที่ของท็อป โกลฟเปิดเผยกับผู้สื่อข่าววานนี้ (14 ธ.ค.) ว่า พนักงานที่เสียชีวิตรายนี้มีอายุ 29 ปี เป็นชาวเนปาล และทำงานที่โรงงานในเมืองกลัง รัฐสลังงอ มานานกว่า 2 ปีแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มาเลย์ฯ สั่งปิดโรงงาน"ท็อป โกลฟ" 28 แห่ง หลังคนงานติดโควิดกว่า 2 พันคน
มาเลย์เตรียมสั่งฟ้อง "ท็อป โกลฟ" ฐานปล่อยที่พักคนงานเป็นแหล่งแพร่กระจายโควิด
นายกฯมาเลย์ประกาศกักตัวเอง หลังพบรัฐมนตรีติดโควิด
เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลมาเลเซียได้ร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัท ท็อป โกลฟ หลังตรวจพบว่าหอพักของพนักงานบริษัทมีสภาพไม่ถูกสุขลักษณะ จนเป็นสาเหตุทำให้พนักงานติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ กรมแรงงาน ซึ่งขึ้นต่อกระทรวงทรัพยากรมนุษย์ของมาเลเซีย ได้เข้าทำการตรวจสอบหอพักของพนักงานซึ่งบริษัทท็อป โกลฟ จัดเตรียมให้เป็นสวัสดิการพนักงานเมื่อเร็ว ๆนี้ โดยหลังจากการตรวจสอบหอพักพนักงานท็อป โกลฟ ใน 5 รัฐของมาเลเซีย ทางกรมแรงงานก็ได้เสนอให้มีการฟ้องร้องบริษัท เนื่องจากพบว่า หอพักมีความแออัดเกินไป ไม่มีระบบระบายอากาศที่ดี และไม่มีพื้นที่สำหรับการพักผ่อนและการปรุงอาหาร
นอกจากนี้ ในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลมาเลเซียยังได้สั่งล็อกดาวน์หอพักพนักงานของบริษัทท็อป โกลฟ ในเมืองกลัง รัฐสลังงอ และพื้นที่ใกล้เคียง เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย.จนถึงวันที่ 30 พ.ย. ภายใต้คำสั่งควบคุมการเคลื่อนไหว (Enhanced Movement Control Order - EMCO) เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ ท็อป โกลฟมีพนักงานมากกว่า 21,000 คน มีกำลังการผลิตถุงมือยางได้ในปริมาณ 9 หมื่นล้านชิ้นต่อปีจากสายการผลิตที่มีจำนวนทั้งสิ้น 750 แห่ง
,