เช็กเสียงโหวตนายกฯคนที่ 30 "เศรษฐา ทวีสิน"

21 ส.ค. 2566 | 18:46 น.

นับถอยหลังการโหวตเลือกนายกฯคนที่ 30 เพื่อไทย ผนึก 11 พรรคจัดตั้งรัฐบาล พร้อมเสนอชื่อ "เศรษฐา ทวีสิน" แคนดิเดตนายกฯ เช็คเลยเสียงโหวตจากฝั่งส.ส.-ส.ว.มีทั้งหมดกี่เสียง

ร้อนแรงกว่าสภาพอากาศในเมืองไทย ก็ต้องยกให้กับเหตุบ้านการเมืองในตอนนี้ เพราะวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ฤกษ์งามยามดีเพราะมีทั้งการกลับมาประเทศไทยของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร และการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบที่ 3 ซึ่งพรรคเพื่อไทยเตรียมส่งชื่อ "เศรษฐา ทวีสิน" ให้นั่งเก้าอี้นายกฯคนที่ 30 ของประเทศไทย 

เพื่อไทย พร้อมจัดตั้งรัฐบาล เช็กเสียงโหวตฝั่งส.ส.ที่นี่
ในฟากฝั่งของการจัดตั้งรัฐบาล นับตั้งแต่ผลคะแนนการเลือกตั้งออกมามีการชิงไหวชิงพริบกันมาอย่างต่อเนื่อง และบทสรุปล่าสุดในวันนี้มี 11 พรรคที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทย ซึ่งรายชื่อ 11 พรรคพร้อมจำนวนส.ส.ของแต่ละพรรคมีดังนี้ 

  • พรรคเพื่อไทย (141 เสียง)
  • พรรคภูมิใจไทย (71 เสียง)
  • พรรคพลังประชารัฐ (40 เสียง)
  • พรรครวมไทยสร้างชาติ (36 เสียง) 
  • พรรคชาติไทยพัฒนา  (10 เสียง)
  • พรรคประชาชาติ (9 เสียง) 
  • พรรคชาติพัฒนากล้า (2 เสียง)
  • พรรคเพื่อไทยรวมพลัง (2 เสียง)
  • พรรคเสรีรวมไทย (1 เสียง)
  • พรรคท้องที่ไทย (1 เสียง)
  • พรรคพลังสังคมใหม่ (1 เสียง)
  • รวม 11 พรรค 314 เสียง

 

ถือเป็นความพร้อมของฝั่งพรรคการเมือง ที่เตรียมเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลแบบเต็มสูบ อย่างไรก็ตาม การโหวตเลือกนายกฯคนที่ 30 ของไทย ยังต้องมีเสียงโหวตจากฝั่งสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.มาสนับสนุน ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนส.ว.ที่นั่งในสภา 250 คน และเมื่อดูจากจำนวนเสียงของพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 11 พรรค 314 เสียง ดังนั้นพรรคเพื่อไทยต้องการเสียงจากส.ว.ไม่ต่ำกว่า 60 เสียงก็จะเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนเสียงทั้งหมดในรัฐสภา และทำให้พรรคเพื่อไทย สามารถเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลต่อไปได้

ในส่วนของฝั่งส.ว.ก็มีหลากหลายความเห็นก่อนจะมีการเปิดโหวตเลือกนายกฯรอบที่ 3 ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งแต่ละคนจะมีความคิดเห็นอย่างไร "ฐานเศรษฐกิจ"รวบรวมมานำเสนอดังต่อไปนี้ 

วันชัย สอนศิริ เผยเสียงโหวตเลือกนายกฯคนที่ 30 จากฝั่งส.ว.เกิน 60 แล้ว  
นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ขณะนี้เสียงที่ต้องการโหวตเลือกนายกฯเกิน60 เสียงไปมากแล้ว และเชื่อว่าส.ว.ส่วนใหญ่ ทุกคนอยากให้ประเทศเดินต่อไปและไม่มีใครคิดที่จะขวางกั้นและเป็นอุปสรรคต่อการโหวตครั้งนี้ 

 

"ยืนยันว่าเสียงส่วนใหญ่ของสว.ในวันโหวตให้นายเศรษฐา ต้องการเพียง 60 เสียงของเดิมมีอยู่แล้ว 13 เสียง ต้องการอีกเพียง 50 กว่าเสียง ซึ่งถือว่าง่ายมากและเชื่อว่ามีส.ว.จะโหวตให้เป็นร้อย  ส่วนที่สมาชิกแสดงความเห็นออกมาถือว่าเป็นการแสดงความเห็นของแต่ละคนซึ่งก็ปล่อยให้เป็นไปตามหลักการ คน 250 คนจะให้เห็นตรงกันคงเป็นไปไม่ได้ แต่เสียงส่วนใหญ่จะโหวตให้และจะสนับสนุนในระบอบประชาธิปไตยสนับสนุนเสียงข้างมาก"


กิตติศักดิ์  ยืนยันไม่โหวต "เศรษฐา"
นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ยืนยันว่าจะไม่โหวตให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะยังข้องใจเรื่องคุณสมบัติความโปร่งใสที่ถูกกล่าวหา โดยเฉพาะในเรื่องการเลี่ยงภาษีซื้อขายที่ดิน ที่การชี้แจงต่างๆยังไม่เจน แต่หากพรรคเพื่อไทยเปลี่ยนแคนดิเดทเป็นน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ตรงนี้ก็ต้องตรวจสอบเรื่องคุณสมบัติและจริยธรรมก่อน ซึ่งน.ส.แพทองธารเพิ่งเข้าสู่การเมือง และอาจมีปมด้อยไม่มากนัก แต่เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ ตนจะโหวตให้กับน.ส.แพทองธาร
 

จเด็จ เชื่อส.ว.ส่วนใหญ่มีคำตอบในใจแล้วก่อนโหวตเลือกนายกฯพรุ่งนี้ 
นายจเด็จ อินสว่าง สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) กล่าวว่า การโหวตให้นายเศรษฐาเป็นนายกฯคนที่ 30 เสียง ส.ว.บางส่วนยังไม่นิ่ง เพราะยังติดใจประเด็นเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตในการทำธุรกิจ โดยเฉพาะที่นายชูวิทย์ออกมาเปิดเผย ข้อมูลเรื่องการหลีกเลี่ยงภาษีการซื้อขายที่ดิน อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ส.ว.ส่วนใหญ่มีคำตอบในใจแล้ว

ประภาศรี โพสต์ถามหลักการ กับความรู้สึก จะเลือกอะไรดี 
ส่วนอีกหนึ่งส.ว.ที่ถูกเอ่ยถึงมากที่สุดในช่วงที่ผ่านมา นั่นก็คือ นางประภาศรี สุฉันทบุตร ที่ได้โหวตเห็นชอบให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ซึ่งล่าสุดส.ว.ประภาศรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก" Prapasri Suchantabutr"ระบุว่า  หลักการ กับความรู้สึก เราจะเลือกอะไรดี ซึ่งเนื้อหารายละเอียดทั้งหมดมีดังต่อไปนี้ 

วันที่ 22 สค 2566 จะเป็นวันที่สำคัญมาก
คือวันเลือกนายกรัฐมนตรี ดิฉันมีข้อปรึกษาหารือประชาชนของดิฉัน สองเรื่องค่ะ
1. ในระบอบประชาธิปไตยเราต้องเลือกเสียงข้างมากใช่ไหมคะ คราวที่เเล้วดิฉันเลือกคุณพิธาเพราะได้เสียงข้างมากมา เป็นมารยาทที่พรรคการเมืองต่างๆต้องให้พรรคเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลก่อน เเต่พรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เพราะรวมเสียงข้างมากที่ได้มา 8 พรรคเเล้ว เเต่ยังต้องการ เสียงจากสมาชิกวุฒิสภาอีก 64 เสียงซึ่งตามรัฐธรรมนูญต้องให้ได้ 375 เสียง เเต่ไม่สามารถรวมเสียงได้ครบ 

 

พรรคก้าวไกลจึงส่งผ่านการจัดตั้งรัฐบาลมาให้พรรคเพื่อไทย ขณะนี้พรรคเพื่อไทยรวมเสียงจากหลายพรรคซึ่งได้เป็นเสียงข้างมากเเล้ว เเละหาเสียงจาก สว.อีกไม่มากก็สามารถตั้งรัฐบาลได้ เเละส่งคุณเศรษฐา ทวีสิน เพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ดิฉันก็สนับสนุนคุณเศรษฐา นะคะ เเม้ว่าจะมีการออกมากล่าวหาบ้างเเต่ดิฉันถือว่าการกล่าวหานั้นไม่ได้เกี่ยวกับการตัดสินใจของดิฉันเพราะไม่ใช่หน้าที่ของดิฉันที่จะไปตัดสินว่าคุณเศรษฐาผิดหรือถูก เป็นเรื่องขององค์กรที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้ตัดสิน เช่นเรื่องการโอนที่ดินการเสียภาษีก็ต้องเป็นกรมที่ดินเเละกรมสรรพากรเป็นผู้ตัดสิน เเละเรื่องการซื้อขายที่ดินของบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ก็ต้องให้ตลาดหลักทรัพย์เข้ามาจัดการจึงต้องให้ความเป็นธรรมกับคุณเศรษฐาด้วย 

 

ดังนั้นในตอนเเรกดิฉันตั้งใจว่าจะ"เห็นชอบ"คุณเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างเเน่นอน เพราะได้ติดตามวิสัยทัศน์ตอนรณรงค์หาเสียง ดิฉันคิดว่าคุณเศรษฐาสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีที่สง่างามได้ เเละที่สำคัญประชาชนเลือกพรรคที่เสนอคุณเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรีมา ดังนั้นเราต้องถือว่าเสียงของประชาชนมีความหมายเราจะต้องไม่ละเมิดเสียงของประชาชนเเม้เเต่เสียงเดียว

 

เเต่ว่ามีข้อ 2 ที่สำคัญมากมาเป็นเหตุที่ต้องพิจารณาอย่างมากทีเดียว


2. ดิฉันได้รับโทรศัพท์จากประชาชน จากไลน์ จาก Inbox จากการมาพูดคุยเเละจากช่องทางต่างๆ บอกว่าดิฉันเคยฟังประชาชนมาตลอดอยู่เคียงข้างประชาชนมาตลอด ในการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ประชาชนชาวยโสธร เเละประชาชนที่อื่นๆที่ศรัทธาดิฉัน ขอให้ดิฉันฟังเเละเชื่อเค้าด้วย


คือประชาชนจำนวนมากรู้สึกผิดหวังเเละเจ็บปวดพรรคเเกนนำในการจัดตั้้งรัฐบาลครั้งใหม่นี้ ว่าไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ตอนหาเสียงว่าจะไม่รวมกับพรรคโน้นพรรคนี้ ประชาชนผิดหวังมาก เพราะเค้ารักพรรคที่่สองนี้พอๆกับก้าวไกลเหมือนกัน เเละเค้าสงสารก้าวไกลพรรคเเห่งความหวังของเค้าว่าทำไมถูกทอดทิ้ง ทำไมไม่ผูกมัดติดกันไว้ อดทนไว้ พรรคอื่นก็อาจจะมาเติมเสียงให้เต็มเอง หรือทำไมไม่ช่วยก้าวไกลในการหาเสียงจาก สว.

 

ประชาชนรู้สึกว่าถ้าพรรคเเกนนำช่วยหาเสียงอย่างเต็มที่ก็จะต้องได้เสียง สว.มา ประชาชนบอกว่าเค้าจำภาพตอนจับมือกันตอน MOU อย่างไม่ลืมเลือน เค้าเจ็บปวดมาก เค้ายังนึกถึงบรรยากาศตอนคุณพิธาถูกหยุดให้ปฏิบัติหน้าที่ สส.ประชาชนหลายคนร้องไห้เเละรู้สึก เงียบเหงาเเละเศร้าใจเครียดกันมาก 

 

ดิฉันค่อนข้างเครียดเมื่อรับฟังความรู้สึกของประชาชน สมัยนี้คนสนใจการเมืองกันมาก เค้าคิดไปไกลกว่าดิฉันอีก เค้าบอกว่าเสียงรัฐบาล  ที่มารวมกันมีมากกว่าเสียงที่จะเป็นฝ่ายค้านมากเกินไปอาจจะเกิดเผด็จการรัฐสภาได้  ฝ่ายค้านอาจจะตรวจสอบเก่งก็จริงเเต่หากเรื่องใดจำเป็นต้องVote ก็จะเเพ้ทุกครั้งไป ประชาชนบอกกับดิฉันว่าให้ "ไม่เห็นชอบ" ทุกคนอยากให้ดิฉันเป็นความหวังให้สู้เพื่อพวกเค้า

 

ดิฉันเครียดมาหลายวันว่า ระหว่าง"หลักการ"ที่ดิฉันยึดมั่นเสมอมา กับความรู้สึกท้อเเท้เจ็บปวด ของประชาชนของดิฉัน   ดิฉันควรยืนอยู่บนหลักการของดิฉัน  หรือเลือกร่วมเจ็บปวดไปกับเค้าด้วย

 

ดิฉันควรจะเลือก "ไม่เห็นชอบ" หรือ สุภาพหน่อย ก็ "งดออกเสียง" ตามความต้องการของประชาชนของดิฉันหรือไม่ หรือ"เห็นชอบ" ตามหลักการที่เค้ารวมเสียงข้างมากได้

 

ท่านที่ผ่านมากรุณาให้ความคิดเห็นกับดิฉันด้วย เพื่อดิฉันจะได้นำไปเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ  ขอขอบคุณมากๆนะคะ อบอุ่นใจเสมอ เมื่อได้อยู่เคียงข้างประชาชน