สงวนท่าที"เพื่อไทย”ยังไม่เคาะชื่อ”พิธา”โหวตนายกฯ รอบ 2 ค้านแก้ ม.272

16 ก.ค. 2566 | 08:58 น.

พรรคเพื่อไทยยังไม่เคาะเสนอชื่อ “พิธา”โหวตนายกฯ รอบ 2 ค้านแก้รัฐธรรมนูญ ม. 272 เหตุพรรคเคยเสนอแล้วไม่ผ่าน ขอให้โฟกัสตั้งรัฐบาลใหม่จบก่อน

วันนี้(16 ก.ค. 66) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาประกาศขอสู้อีก 2 สมรภูมิคือ การโหวตนายกฯ วันที่ 19 ก.ค. และการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ตัดอำนาจส.ว.ในการโหวตเลือกนายกฯ ว่า เข้าใจว่าการสื่อสารระหว่างตัวแทนพรรคก้าวไกลที่ร่วมหารือกับพรรคเพื่อไทย(พท.) เมื่อวันที่ 14 ก.ค. กับ นายพิธา อาจมีความคลาดเคลื่อน

ทั้งนี้จากการหารือของตัวแทนทั้ง 2 พรรค ยังคงมีความเห็นต่างที่แต่ละพรรคยังสงวนความคิดเห็นไปหารือภายในกันก่อน แล้วค่อยไปหารือกับ 8 พรรคร่วมที่เดิมกำหนดเป็นเช้าวันที่ 18 ก.ค. แต่มีการเปลี่ยนมาเป็นเย็นวันที่ 17 ก.ค. ก่อนที่ทั้ง 2 พรรคจะนำความเห็นมาหารือกันอีกครั้ง เพื่อกำหนดเป็นแนวทางโหวตนายกฯ วันที่ 19 ก.ค. 

“เราจึงยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับการเสนอชื่อนายกฯ วันที่ 19 ก.ค.ของ 8 พรรคร่วม” นายภูมิธรรม กล่าว

รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขยายความว่า เรื่องที่ทั้ง 2 พรรคสงวนความคิดเห็นกลับไปพิจารณาภายในนั้น เช่น เรื่องการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ที่มีหลายฝ่ายออกมาตั้งข้อสังเกตว่าถือเป็นการเสนอญัตติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 หรือไม่

 

เพราะการเสนอญัตติซ้ำในสมัยประชุมเดียวกันไม่สามารถทำได้ 
ทางออกของเรื่องนี้คือ ประธานรัฐสภาเป็นผู้วินิจฉัย หรือให้ที่ประชุมลงมติหาทางออกร่วมกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงทั้ง 2 แนวทาง หากสามารถเสนอชื่อ นายพิธา ได้ 141 เสียงของพรรคเพื่อไทยพร้อมสนับสนุน นายพิธา

“แต่ นายพิธา ก็ต้องตอบให้ชัดว่า สมรภูมินี้จะสู้ถึงที่สุดเมื่อไร เพราะคะแนนที่ออกมาจากการโหวตครั้งแรก เห็นชัดเจนว่า การจะไปถึง 376 เสียงนั้น เป็นเรื่องที่ลำบาก เพราะคะแนนเสียงส.ว.ที่ได้มาเพียง 13 เสียง กว่าจะไปถึง 64 เสียง พรรคก้าวไกลต้องตอบให้ได้ว่า จะนำมาจากไหน การเสนอครั้งนี้มีโอกาสสำเร็จหรือไม่”

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องการเสนอชื่อแข่งจากซีกรัฐบาลเดิม ที่มีกระแสข่าวเข้ามาอีก เหล่านี้เป็นประเด็นที่ต้องได้คำตอบที่ชัดเจนก่อนจะเข้าไปโหวตวันที่ 19 ก.ค.

เมื่อถามว่าหากไม่เสนอชื่อ นายพิธา 8 พรรคร่วมจะเสนอชื่อใคร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอสงวนสิทธิที่จะตอบคำถาม เพราะต้องให้ได้ความชัดเจนก่อนว่า จะเสนอชื่อ นายพิธา หรือไม่ แล้วจึงสามารถคิดต่อได้ หากเรายังไม่ได้ข้อสรุปการคิดอะไรต่อจะเป็นการขยายประเด็นไปเรื่อยๆ

เมื่อถามถึงกระแสข่าวแกนนำพรรคบางคนระบุว่า การที่พรรคก้าวไกลไม่ได้เสียง ส.ว.ตามที่พูดไว้ ถือเป็นการหลอกพรรคร่วมด้วยกัน และเอ็มโอยูที่เซ็นกันไว้ถือว่ายุติไป ตั้งแต่วันที่ผลโหวตนายกฯ ครั้งแรกออกมา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ผู้มีความเห็นสามารถคิดได้ว่าถูกหลอก เพราะตัวเลขที่ออกมาคลาดเคลื่อนจากที่ทางพรรคก้าวไกลออกมาระบุ ไม่ว่าจะเป็น น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ที่ระบุว่ามีเสียงเพียงพอ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่บอกว่ามีเกิน 100 เสียง

“อีกมุมหนึ่งตัวเลขที่คลาดเคลื่อน อาจเกินจากประสบการณ์ที่ไม่เข้าใจความคิดของ ส.ว. ทำให้ประเมินผิดพลาด เพราะถ้าเข้าใจคงประเมินได้ใกล้เคียงความเป็นจริงกว่านี้ก็เป็นได้ ซึ่งตรงนี้ก็คงแล้วแต่การตีความ”

ส่วนที่ระบุว่าเอ็มโอยูสิ้นสุดไปแล้วนั้น ส่วนตัวไม่ขอตอบประเด็นดังกล่าว แต่สิ่งที่เห็นคือ มีการเพิ่มเนื้อหาของเอ็มโอยู ที่ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงเดิมตามที่ นายพิธา ได้แสดงความคิดเห็นออกมา ถือเป็นการประกาศของพรรคก้าวไกลโดยที่ยังไม่ได้ข้อสรุปร่วมกัน
ส่วนกรณีพรรคก้าวไกลยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเคยยื่นแก้ไขมาตรานี้ไปแล้ว 2 ครั้ง โดยไม่ผ่านการพิจารณา และในตอนนั้นพรรคก้าวไกลเองก็งดออกเสียง 

“หากนับในสภาครั้งที่ผ่านมามีการเสนอเรื่องนี้ 6-7 ครั้งไม่ผ่านทั้งหมด เหตุใดจึงมาผลักดันเรื่องนี้ช่วงนี้ พรรคเพื่อไทยมองว่าไม่ใช่เรื่องด่วนที่ต้องทำตอนนี้ เพราะทราบผลอยู่แล้วว่าไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องมีเสียงฝ่ายค้านสนับสนุน 20% ตอนนี้ยังไม่มีฝ่ายค้าน และต้องได้เสียง ส.ว. 1 ใน 3 ของสมาชิกส.ว. หรือ 84 เสียง จะหามาจากไหน ผมมองว่าเป็นการเสนอเพื่อเป็นสัญลักษณ์เท่านั้น” 

รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเราไม่เห็นด้วยกับการเสนอรายมาตรา เพราะเคยทำมาแล้วเราจึงทำเป็นนโยบายในการหาเสียงว่า หากได้เป็นรัฐบาล การประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกจะนำเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อทำประชามติ แก้รัฐธรรมนูญทั้งระบบ โดยการตั้งส.ส.ร. เชื่อว่าจะเสร็จสิ้นใน 1-2 ปี

หากเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ของพรรคก้าวไกลเข้าสภาฯพรรคเพื่อไทยจะงดออกเสียง เพราะเราอยากให้โฟกัสเรื่องจัดตั้งรัฐบาลเป็นสำคัญที่สุด เพราะปัญหาประชาชนการฟื้นฟูเศรษฐกิจชัดเจนเป็นเรื่องที่รอไม่ได้