ปชป.จ่อเคาะบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ ส่ง 3 ทัพใหญ่รณรงค์หาเสียงทั่วประเทศ

27 มี.ค. 2566 | 07:07 น.

ปชป.จ่อเคาะชื่อว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต-ปาร์ตี้ลิสต์ 29 มี.ค. 66 ได้ครบ 500 ยื่นกกต. 4 เม.ย.66 พร้อมจัด 3 ทัพใหญ่รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งทั่วประเทศ

วันนี้(27 มี.ค. 66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนเข้าร่วมประชุมทีมยุทธศาสตร์เลือกตั้งว่า วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่พรรคประชาธิปัตย์จัดทำไพรมารีตามกฎหมาย และเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการแล้วจะได้รายชื่อผู้สมัครเขต และบัญชีรายชื่อทั้งหมด 

ส่วนเกณฑ์การจัดลำดับบัญชีรายชื่อนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันที่ 29 มี.ค. นี้จะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรค และทั้งหมดจะไปยุติที่นั่น เพราะฉะนั้นก็ต้องรอผลจากการประชุมกรรมการบริหารพรรค ซึ่งพรรคก็เคยทำมาตลอดอยู่แล้ว เพราะเรามี ส.ส.บัญชีรายชื่อมาหลายยุค และมีแนวปฏิบัติอยู่แล้ว

โดยรูปแบบจะมีการเรียงลำดับตั้งแต่ 1 จนถึง 100 เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับพรรคทุกประการ ส่วนการเสนอชื่อแคนดิเดตเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น กรรมการบริหารพรรคก็มีมติไปแล้ว และเป็นไปตามนั้นเช่นกัน 

สำหรับแนวปฏิบัติการจัดลำดับบัญชีนั้น มีอยู่แล้วว่าต้องผสมปนเปกันไป ทั้งผู้อาวุโส คนรุ่นใหม่ ผู้หญิง และหลากหลายภาคส่วนที่จะต้องดูไปตามความเหมาะสม ซึ่งกรรมการบริหารพรรคจะเป็นผู้พิจารณาขั้นสุดท้ายว่า จะเป็นไปทางไหนอย่างไร ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง วันที่ 4 เม.ย.จะเป็นวันรับสมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ ฉะนั้นก็ต้องเตรียมพร้อมก่อนวันที่ 4 เพื่อไปยื่นสมัครในวันที่ 4 ตามเวลาที่ กกต. กำหนด

นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีสิ่งที่จะเดินหน้าต่อไปคือ การจัด 3 ทัพ ประกอบด้วย ทัพหัวหน้าพรรค ทัพเลขาธิการพรรค และทัพอดีตหัวหน้าพรรค ที่จะขับเคลื่อนไปในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อช่วยกันรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งให้กับพรรคอย่างมีเอกภาพ โดยวานนี้ได้มีการพูดคุยกับท่านชวน ท่านบัญญัติ และท่านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทุกท่านก็พร้อมที่จะเดินหน้าในการที่จะไปช่วยรณรงค์หาเสียงให้กับพรรคทั่วประเทศ

ส่วนในพื้นที่ กทม. นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ในการเลือกตั้งคราวที่แล้วประชาธิปัตย์ไม่ได้ ส.ส. เลย แต่เที่ยวนี้ตนมั่นใจว่าได้หลายคน และจากการลงพื้นที่ก็มีความมั่นใจว่าทั้งคะแนนบัญชีรายชื่อ ทั้ง ส.ส. เขต จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้มาหลายที่นั่ง 

“เสียงตอบรับจากพี่น้องในหลายพื้นที่ก็มีความใกล้เคียงกัน โดยมีบางคนมาพบและขอโทษที่คราวที่แล้วไม่ได้เลือกประชาธิปัตย์ แต่เที่ยวหน้าจะมาเลือก ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกท่านที่มีความคิดอย่างนี้ล่วงหน้าด้วยหัวใจ และความจริงใจของพวกเราทุกคนชาวประชาธิปัตย์ 

ผมคิดว่าถ้าจะมาช่วยสนับสนุนประชาธิปัตย์อีกครั้ง ท่านคิดไม่ผิดหรอก เพราะประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่อยู่คู่กับประเทศ และไม่เคยทิ้งประชาชน ไม่ว่าภาคไหน ทั้งยามทุกข์ ยามสุข และทุกสิ่งที่เราคิด เราทำ ก็ได้คิดตั้งแต่ต้นจนจบ คิดตั้งแต่ ก.ไก่ ถึง ฮ.นกฮูก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสรรหาบุคคล เรื่องนโยบาย ที่นอกจากจะขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจว่าเราไม่พาประเทศหลงทางแน่นอน 

เราก็อยู่บนพื้นฐานของการกำหนดทิศทางนโยบายที่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบต่ออนาคตของคนไทย ต่ออนาคตประเทศ เพราะเราเป็นพรรคการเมืองที่จะต้องอยู่ต่อไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าจะรุ่งเรืองหรือตกต่ำ ก็มีข้อพิสูจน์มา 70 กว่าปีแล้ว สิ่งนี้จึงเป็นสิ่งที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศมั่นใจสำหรับการมาช่วยกันสนับสนุน หรือมาเดินคู่ไปกับประชาธิปัตย์ต่อไป”