“ไตรรัตน์” ยื่นอุทธรณ์คำสั่งบอร์ด กสทช. โหวตไม่เห็นชอบกระบวนการสรรหา
“ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล” สู้สุดฤทธิ์ยื่นอุทธรรณ์คำสั่งบอร์ด กสทช. หลังเสียงข้างมากไม่เห็นชอบกระบวนการสรรหาเลขาธิการ หยิบประเด็นข้อกฎหมาย "ประธาน กสทช." มีสิทธิเสนอและเลือกชื่อเลขาฯ ได้
จากกรณีที่ คณะกรรมการกิจกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้ประชุมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันพุธที่ 17 มกราคม 2567 ระเบียบวาระที่ 5.1 เรื่อง การแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. โดยบอร์ดมติเสียงข้างมากไม่เห็นชอบชื่อ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. และ รองเลขาธิการ กสทช. ตามที่ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช.ที่เสนอรายชื่อผู้เดียว
สำหรับบอร์ดเสียงข้างมากจำนวน 4 คนที่มีมติไม่เห็นชอบกับกระบวนการสรรหาเลขาธิการ กสทช. ดังนี้
- พลอากาศโท ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ (ด้านกระจายเสียง)
- นางสาวพิรงรอง รามสูต (ด้านโทรทัศน์)
- นายศุภัช ศุภชลาศัย (ด้านเศรษฐศาสตร์)
- นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ (ด้านโทรคมนาคม)
ล่าสุด นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. และ รองเลขาธิการ กสทชง ได้ทำบันทึกข้อความลงวันที่ 31 มกราคม 2567 เรื่องอุทธรณ์ มติ กสทช.ในการประชุม กสทช.นัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2567 ระเบียบวาระที่ 5.1
สรุปประเด็นที่ ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล ยื่นอุทธรณ์คำสั่งมติบอร์ด กสทช. ครั้งที่ 1 โดยอ้างข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 มาตรา 61 ให้ประธานกรรมการ โดยความเห็นชอบของ กสทช. เป็นผู้แต่งตั้งและถอดถอนเลขาธิการ กสทช.
- เลขาธิการ กสทช. ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปีบริบรูณ์ในวันแต่งตั้งและต้องมีคุณสมบัติ และ ไม่มีลักษณะต้องห้ามมาตรา 7 รวมทั้งคุณสมบัติอื่นตามที่ กสทช.กำหนด
- มาตรา 2.2 พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา 13 เจ้าหน้าที่ต่อไปนี้จะทำการพิจการทางปกครองไม่ได้
มาตรา 15 เมื่อมีกรณีตามมาตรา 13 หรือ คู่กรณีคัดค้านว่ากรรมการในคณะกรรมการที่มีอำนาจพิจารณาทางปกครองคณะใดมีลักษณะดังกล่าว ให้ประธานกรรมการเรียกประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจการณาเหตุค้ดค้านนั้น ในการประชุมดังกล่าวกรรมการผู้ถูกค้านเมื่อได้ชี้แจงข้อเท็จจริงและตอบข้อซักถามแล้วต้องออกจากที่ประชุม.