ดีอี ร่วมกับ ปปง. และ สตช. ยึดทรัพย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ค่า 1,205 ล้านบาท

12 ม.ค. 2567 | 09:42 น.

ดีอี ร่วมกับ ปปง. และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยึดทรัพย์เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในพื้นที่ 3 จังหวัด เชียงใหม่ –นนทบุรี และกรุงเทพฯ จำนวน 13 จุด ยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 1,205 ล้านบาท

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาล โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สั่งการให้ดีอี เร่งปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ พร้อมเน้นย้ำการทำงานใกล้ชิดร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเด็ดขาด โดยได้จัดตั้งศูนย์ต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 เพื่อให้เป็น One Stop Service แก้ปัญหาออนไลน์แก่ประชาชน โดยให้บริการ 24 ชั่วโมง ตลอดจนมี War-room ในการติดตามสถานการณ์ สั่งการปฏิบัติการป้องกันปราบปรามโจรออนไลน์อย่างทันเวลา รวมทั้งการบูณาการความร่วมมือด้านการสืบสวนสอบสวน เพื่อดำเนินคดีอาชญากรรมออนไลน์และขยายผลไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดการติดตามทรัพย์สินให้กับผู้เสียหาย ทั้งนี้จากความร่วมมือกันทำงานอย่างเข้มข้น ได้นำมาสู่นำมาสู่การจับกุมคดีสำคัญ และดำเนินการผู้กระทำความผิด และคุ้มครองสิทธิ์ผู้เสียหายได้เป็นจำนวนมาก ดังนี้ 

 

คดี นางสาวธารารัตน์ฯ กับพวก ซึ่งเป็นกลุ่มเครือข่ายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนมีพฤติการณ์กระทำความผิดในลักษณะ ร่วมกันกระทำความผิดเป็นขบวนการ ทั้งในรูปแบบแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยใช้วิธีการโทรศัพท์สุ่มเข้ามาหลอกลวงประชาชน แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ และหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงิน นอกจากนี้ยังมีพฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหายด้วยการโพสต์ข้อความผ่าน Facebook เพื่อชักชวนให้บุคคลทั่วไปมาแลกเปลี่ยนเงินสกุลบาทเป็นเงินสกุลหยวนในอัตราที่ถูกกว่าอัตราแลกเปลี่ยนของสถาบันการเงิน โดยมีผู้เสียหายหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก

จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มของนางสาวธารารัตน์ฯ กับพวก มีการโอนเงินมากกว่า 3 พันล้านบาทไม่สอดคล้องกับอาชีพรายได้ รวมทั้งกลุ่มผู้กระทำความผิดดังกล่าวมีการโอนเงินไปยังบัญชีเงินฝากของกลุ่มผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ และทำธุรกรรมเพื่อปกปิด อำพราง ซ่อนเร้น หรือยักย้ายถ่ายเทเงินและแปลง

ดีอี ร่วมกับ ปปง. และ สตช. ยึดทรัพย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ค่า 1,205 ล้านบาท

 

สภาพเป็นทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ด้วย โดยในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 ณ สำนักงาน ปปง. คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพิ่มเติมไว้ชั่วคราว มูลค่าประมาณ 924 ล้านบาท

สำหรับปฏิบัติการเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ ทางสำนักงาน ปปง. ร่วมกับตำรวจไซเบอร์ลงพื้นที่ตรวจค้นและยึดทรัพย์เครือข่ายของผู้กระทำความผิดในรายคดีดังกล่าว เป้าหมาย 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ จำนวน 4 จุด นนทบุรี จำนวน 2 จุด และกรุงเทพมหานคร จำนวน 7 จุด รวม 13 จุด  ผลจากการเข้าตรวจค้นพบทรัพย์สินผลการเข้าตรวจค้นพบทรัพย์สินเพิ่มเติมจำนวนหลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ 161.5 ล้านบาท และตรวจพบบ้านพักหรู จำนวน 2  หลัง รวมมูลค่าประมาณ 120 ล้านบาท  ซึ่งได้ยึดไว้และดำเนินการตรวจสอบตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ในคดีความผิดที่เกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน หรือการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระในคดีรายอื่นๆ สำนักงาน ปปง. อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้เสียหายเพื่อดำเนินการคุ้มครองสิทธิฯ โดยให้บุคคลที่ได้รับความเสียหายในรายคดีที่เกี่ยวข้องยื่นคำร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดแห่งความเสียหายและจำนวนความเสียหายที่ได้รับต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานปปง. ภายในระยะเวลา 90 วันนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามแต่คดี โดยผู้เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบข้อมูลได้จากเว็บไซต์สำนักงาน ปปง. (www.amlo.go.th)

“กระทรวงดีอี และพันธมิตรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน มีความมุ่งมั่นที่จะกวาดล้างอาชอาญกรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซิมผี-ซิมม้า พนันออนไลน์ หลอกโหลดแอป และอื่น ๆ เพื่อลดความเสียหายและลดความเสี่ยงให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน รวมทั้งหามาตรการใหม่ๆ เพื่อยับยั้งการทำงานของมิจฉาชีพด้วย และบูรณาการการทํางานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที เมื่อได้รับแจ้งจาก ผู้เสียหาย ”นายประเสริฐ กล่าว

ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อสงสัย สามารถโทรปรึกษาสายด่วน AOC 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.