ซัมซุง ครองอันดับ “5 แบรนด์ที่ดีที่สุดในโลก”มูลค่าแบรนด์ 91,400 ล้านดอลลาร์

24 พ.ย. 2566 | 10:27 น.

ซัมซุงครองอันดับ “5 แบรนด์ที่ดีที่สุดในโลก” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ด้วยมูลค่าแบรนด์ที่สูงถึง 91,400 ล้านดอลลาร์ และได้รับการยอมรับจากการขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านการสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่องและเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีแห่งอนาคต อย่าง 6G และ AI

ซัมซุงได้รับการยอมรับจาก Interbrand บริษัทที่ปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์ระดับโลก ให้เป็นหนึ่งใน “5 แบรนด์ที่ดีที่สุดในโลก” เป็นปีที่ 4 และเผยว่ามูลค่าแบรนด์ของซัมซุงได้ขยับสูงขึ้นสู่ระดับ 91,400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเติบโตขึ้นถึง 4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ซัมซุง ครองอันดับ “5 แบรนด์ที่ดีที่สุดในโลก”มูลค่าแบรนด์ 91,400 ล้านดอลลาร์

ในปี 2566 มูลค่าแบรนด์ของซัมซุงได้เพิ่มสูงขึ้นทุกกลุ่มธุรกิจ แม้ว่าความต้องการในอุตสาหกรรมไอทีทั่วโลกจะซบเซาก็ตาม     จากข้อมูลของ Interbrand บ่งบอกว่าปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อการประเมินของซัมซุงมีดังนี้:

•             การเดินหน้ายกระดับประสบการณ์ลูกค้าอย่างต่อเนื่องตามกลยุทธ์ “One Samsung

•             ระดับของการเชื่อมต่อที่มากขึ้นและประสบการณ์ในการเล่นเกมที่ดียิ่งขึ้นผ่านผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและ SmartThings

•             บทบาทของซัมซุงในฐานะผู้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีแห่งอนาคต อย่าง 6G, AI, ยานยนต์, AR และ VR

•             การดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างความเป็นผู้นำ ESG ผ่านกิจกรรมที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในทุกสายผลิตภัณฑ์

นายวายเอช ลี (YH Lee) ประธานการตลาดระดับโลกของซัมซุง กล่าวว่าด้วยการสนับสนุนจากลูกค้าทั่วโลก มูลค่าแบรนด์ของซัมซุงจึงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีสภาพแวดล้อมทางธุรกิจโดยรวมที่มีความท้าทาย”

ซัมซุง ครองอันดับ “5 แบรนด์ที่ดีที่สุดในโลก”มูลค่าแบรนด์ 91,400 ล้านดอลลาร์

 “เรามุ่งมั่นเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นแบรนด์ที่เป็นที่รักของลูกค้าด้วยการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่จะช่วยมอบประสบการณ์ที่มีคุณค่า พร้อมกับสานต่อความพยายามด้านความยั่งยืนต่อไป”

มูลค่าแบรนด์ที่ขับเคลื่อนโดย SmartThings, ประสบการณ์เกมมิ่ง, นวัตกรรมชั้นนำของอุตสาหกรรม และความเป็นผู้นำในด้าน ESG   โดยเมื่อปีที่แล้ว ซัมซุงได้ก่อตั้งศูนย์ Direct-to-Consumer (D2C) ภายใต้สำนักงานการตลาดทั่วโลกเพื่อมอบประสบการณ์ที่ครบถ้วน  ทั้งในแบบออนไลน์และออฟไลน์ นอกจากนี้ยังมีศูนย์ CX-MDE ซึ่งมีหน้าที่เสริมสร้างประสบการณ์การใช้งานแบบหลากหลายอุปกรณ์เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานร่วมกันระหว่างผลิตภัณฑ์ต่างๆ และยกระดับประสบการณ์โดยรวมของลูกค้า

ความร่วมมือก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนมูลค่าแบรนด์ของซัมซุงให้เพิ่มสูงยิ่งขึ้นในปีที่ผ่านมา ซัมซุงกำลังเสริมความแข็งแกร่งของตนในด้านความร่วมมือแบบเปิดกว้างจาก SmartThings ที่สามารถเปิดประสบการณ์การเชื่อมต่อที่เป็นหนึ่งเดียวกัน โดยที่ไม่จำกัดอยู่แค่เพียงแค่ผลิตภัณฑ์ของซัมซุงเท่านั้น นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับบริษัทต่างๆ อย่างหลากหลาย ทั้งในส่วนของสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ทีวี คอมพิวเตอร์ และมอนิเตอร์ ที่จะมอบประสบการณ์ในการเล่นเกมที่ดีเยี่ยมลงตัวที่สุดให้กับลูกค้าอีกด้วย

ซัมซุงยังคงเดินหน้าลงทุนกับเทคโนโลยีแห่งอนาคตเช่น 5G/6G, AI และยานยนต์ อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพให้กับผู้บริโภคในวันข้างหน้า ในภาคเซมิคอนดักเตอร์ ซัมซุงได้รับการยอมรับจากการนำเสนอนวัตกรรมที่ถือว่าเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมอย่างหน่วยความจำ DDR5 DRAM ระดับ 12 นาโนเมตร และสำหรับการจัดการกับอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตเรื่อยๆ ตั้งแต่ AI ไปจนถึงยานยนต์และอุปกรณ์เคลื่อนที่ขั้นสูง

ESG ได้กลายเป็นจุดสนใจหลักอีกด้าน ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจของซัมซุงที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เช่น การนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้มากขึ้นเรื่อยๆ อย่างการใช้พลาสติกจากอวนประมงที่ถูกทิ้ง เศษแก้วและอลูมิเนียม ใน Galaxy S23 และ Galaxy Z Flip5/Fold5 Series การจดลิขสิทธิ์แบบเปิดสำหรับเทคโนโลยีรีโมทคอนโทรลแบบโซลาร์เซลล์ที่ใช้กับทีวี การร่วมมือกับ Patagonia เพื่อพัฒนาไส้กรอง Less Microfiber™ สำหรับเครื่องซักผ้าและการนำโหมดประหยัดพลังงานด้วย AI มาใช้ใน SmartThings Energy เป็นต้น